บางท่านที่คิดว่า....ปรองดองกันแล้วจะเกิดความสมานฉันท์..แต่ละฝ่ายจะกลับมารักกันและจรรโลงประเทศและสังคมให้เจริญเติบโตก้าวหน้า
น่าจะฝันเพ้อและวาดหวังมากเกินไป
เพราะตราบเท่าที่..อำนาจยังเป็นสุดปรารถนาของ..บุคคลชั้นนำในสังคมไทย..และเป็นการก้าวเข้ามาสู่โภคทรัพย์ของผู้ถืออาวุธรุ่นแล้วรุ่นเล่า..
การแย่งชิงก็ยังจะดำเนินต่อไป..เฉกเช่นที่เป็นมาแล้ว..ตลอดอายุประวัติศาสตร์ของชาติ..
อำนาจใหม่จะหลั่งไหลเข้าแทนที่อำนาจเก่า...ชนะเป็นพระเอาแพ้เป็นผู้ร้าย..ความดีความเลวไม่ใช่เครื่องชี้วัด..แต่มันชี้ชัดกันที่ฝ่ายชนะกับฝ่ายแพ้..
ผู้ยิ่งใหญ่ในกองทัพ..แย่งอำนาจมาจาก..อำนาจเก่าโบร่ำโบราณ.. ครอบครองอำนาจต่อเนื่องยาวนาน...พวกเขากลับมาต่อสู้ซึ่งกันและกันเพื่อแย่งชิงอำนาจที่ได้มา
บางครั้งบางคนในพวกเขากลับไปสมานฉันท์กับอำนาจก่อนเก่า..เพื่อให้ได้ชัยชนะ..
บางครั้งอำนาจก่อนเก่า..ใช้พวกเขาเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจ
ตราบจนคำว่าประชาธิปไตย...ที่พวกเขาชอบแอบอ้าง..กลับกลายขึ้นมาเป็นเรื่องจริง...และสะสมพลังสร้างอำนาจเผชิญหน้าขึ้นมาท้าทายอำนาจ ในมือของผู้ถืออาวุธ
สงครามแย่งอำนาจจึงเพิ่มความซับซ้อนยิ่งขึ้น กว้างขวางกว่าเก่า.. กรุงเทพฯ ไม่ใช่ประเทศไทยอีกต่อไป..การเมืองไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มเดียว
อำนาจเริ่มกระจัดกระจายออกไป..ปุถุชนคนธรรมดาเข้ามาสู่เกมชิงอำนาจง่ายขึ้นและมากขึ้นทุกวัน.. และยิ่งเมื่ออำนาจคือธุรกิจ..
การต่อสู้เพื่อมีอำนาจกับการต่อสู้เพื่อรักษามันไว้..จึงรุนแรงขึ้น..ในท้องถิ่นผู้แสวงหาอำนาจต่างบาดเจ็บล้มตายกันมากขึ้นในแทบจะทุกพื้นที่
ในท่ามกลางการต่อสู้เช่นนี้....กติกา...จึงสำคัญที่สุด...หากกติกาไม่เป็นธรรม..สงครามก็ยังไม่เลิกรา..ในท่ามกลางการต่อสู้แบบนี้...ไม่มีวันที่การปรองดองจะเกิดขึ้นมาได้
โดย.พญาไม้,บางกอกทูเดย์
///////////////////////////////////////////
น่าจะฝันเพ้อและวาดหวังมากเกินไป
เพราะตราบเท่าที่..อำนาจยังเป็นสุดปรารถนาของ..บุคคลชั้นนำในสังคมไทย..และเป็นการก้าวเข้ามาสู่โภคทรัพย์ของผู้ถืออาวุธรุ่นแล้วรุ่นเล่า..
การแย่งชิงก็ยังจะดำเนินต่อไป..เฉกเช่นที่เป็นมาแล้ว..ตลอดอายุประวัติศาสตร์ของชาติ..
อำนาจใหม่จะหลั่งไหลเข้าแทนที่อำนาจเก่า...ชนะเป็นพระเอาแพ้เป็นผู้ร้าย..ความดีความเลวไม่ใช่เครื่องชี้วัด..แต่มันชี้ชัดกันที่ฝ่ายชนะกับฝ่ายแพ้..
ผู้ยิ่งใหญ่ในกองทัพ..แย่งอำนาจมาจาก..อำนาจเก่าโบร่ำโบราณ.. ครอบครองอำนาจต่อเนื่องยาวนาน...พวกเขากลับมาต่อสู้ซึ่งกันและกันเพื่อแย่งชิงอำนาจที่ได้มา
บางครั้งบางคนในพวกเขากลับไปสมานฉันท์กับอำนาจก่อนเก่า..เพื่อให้ได้ชัยชนะ..
บางครั้งอำนาจก่อนเก่า..ใช้พวกเขาเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจ
ตราบจนคำว่าประชาธิปไตย...ที่พวกเขาชอบแอบอ้าง..กลับกลายขึ้นมาเป็นเรื่องจริง...และสะสมพลังสร้างอำนาจเผชิญหน้าขึ้นมาท้าทายอำนาจ ในมือของผู้ถืออาวุธ
สงครามแย่งอำนาจจึงเพิ่มความซับซ้อนยิ่งขึ้น กว้างขวางกว่าเก่า.. กรุงเทพฯ ไม่ใช่ประเทศไทยอีกต่อไป..การเมืองไม่ใช่เรื่องของคนกลุ่มเดียว
อำนาจเริ่มกระจัดกระจายออกไป..ปุถุชนคนธรรมดาเข้ามาสู่เกมชิงอำนาจง่ายขึ้นและมากขึ้นทุกวัน.. และยิ่งเมื่ออำนาจคือธุรกิจ..
การต่อสู้เพื่อมีอำนาจกับการต่อสู้เพื่อรักษามันไว้..จึงรุนแรงขึ้น..ในท้องถิ่นผู้แสวงหาอำนาจต่างบาดเจ็บล้มตายกันมากขึ้นในแทบจะทุกพื้นที่
ในท่ามกลางการต่อสู้เช่นนี้....กติกา...จึงสำคัญที่สุด...หากกติกาไม่เป็นธรรม..สงครามก็ยังไม่เลิกรา..ในท่ามกลางการต่อสู้แบบนี้...ไม่มีวันที่การปรองดองจะเกิดขึ้นมาได้
โดย.พญาไม้,บางกอกทูเดย์
///////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น