--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ศาลรับคำร้องค้านแก้ รธน.เพื่อไทย เมินลุยประชุมสภา จ่อหั่นจำนำข้าว เท่าตลาดโลก !!?

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมาก5ต่อ4รับคำร้อง"พธม.-ปชป."สั่งระงับแก้ไข รธน.ขัดมาตรา 68 ให้ผู้ถูกร้องยื่นแจงข้อกล่าวหาภายใน15วัน "เพื่อไทย"เมินศาล รธน.รับคำร้อง ยันเปิดประชุมสภา ส.ค.นี้ เดินหน้าแก้ รธน. "กกต."มีมติสั่งดำเนินคดีอาญา"อุกฤษณ์"ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังชล ฐานใช้เคเบิ้ลทีวีหาเสียง โดยไม่สั่งเลือกตั้งใหม่ "ปชป."ปูดมีคลิ๊บ"เสริมศักดิ์"เดินสายชี้แจงประชาชนเขตดอนเมืองเรื่องแจกแท็บเล็ตให้นักเรียน ส่อขัด พรบ.เลือกตั้ง เตรียมส่งหลักฐานให้ กกต.สอบ "นิด้าโพล"เผยประชาชน 92.95 % จี้เปิดข้อมูลรับจำนำข้าว เชื่อขาดทุน 2.6 แสนล้านจริง "กลุ่มคนไทยรักชาติ"บุก"ยูเอ็น"ยื่น 5 ล้านรายชื่อต้านศาลโลกพิจารณาคดีปราสาทพระวิหาร สั่งระดมพลสนามหลวงเพื่อยกระดับการชุมนุม 16 มิ.ย. พร้อมยื่นสำนักพระราชวังขอพึ่งบารมี 17 มิ.ย.นี้ ขณะที่"โต้ง"บอกอาจปรับราคาจำนำข้าวตามตลาดโลก ด้านประชุม"กขช."ยังไร้ข้อสรุป ประชุมอีกครั้ง 17 มิ.ย.นี้

สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ได้เผยแพร่เอกสารข่าวถึงสื่อมวลชนถึงผลการประชุมในวันนี้ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญมติเสียงข้างมาก5ต่อ4รับคำร้องของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 68 มาตรา237 ขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 หรือไม่ เนื่องจากเห็นว่ากรณีดังกล่าวต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคสอง จึงมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยหลังจากนี้ให้ผู้ร้องทำสำเนาคำร้องส่งต่อศาลจำนวน 312 ชุด เพื่อส่งให้ผู้ถูกร้องและให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง หากไม่ยื่นภายในกำหนด ถือว่าไม่ติดใจ ส่วนคำขอคุ้มครองชั่วคราวในกรณีฉุกเฉินนั้น ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ายังไม่ปรากฏมูลกรณีอันเป็นเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุผลอันสมควรเพียงพอที่จะต้องใช้วิธีการชั่วคราว จึงให้ยกคำขอ
   
ที่พรรคเพื่อไทย นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมมาตราว่าด้วยที่มาและการดำรงตำแหน่งของ ส.ว. กล่าวภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากรับคำร้อง นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ว่า กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเดินหน้าต่อไปตามปกติ การรับคำร้องของศาลรัฐธรรมนูญครั้งนี้ก็เหมือนกับคำร้องคัดค้านอื่นๆ ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยืนยันว่า 312 ส.ส.และ ส.ว.ที่ออกเสียงสนับสนุนแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่ส่งคำชี้แจงใดๆ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และจะเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป ส.ค.นี้ เพื่อเดินหน้าพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2 และ 3 ต่อไป
   
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ได้มีการพิจารณาเรื่องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) จ.ชลบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 ในการเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 6 ม.ค.56 กรณีกล่าวหาว่า นายอุกฤษณ์ ตั๊นสวัสดิ์ ส.ส. จ.ชลบุรี เขตเลือกตั้งที่ 2 พรรคพลังชล กระทำการโฆษณาหาเสียงด้วยวิธีใช้สื่อโฆษณาหาเสียงผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์ ระบบเคเบิ้ลทีวี ของบริษัทเคเบิ้ลทีวี (ชลบุรี) จำกัด จึงเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)เลือกตั้งส.ส. และส.ว. มาตรา 59 ประกอบ 60 และมาตรา 147 ที่ห้ามมิให้ผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงผ่านสื่อวิทยุโทรทัศน์เอง ถ้าจะกระทำต้องเป็นกรณีที่ได้รับการจัดสรรจาก กกต.ซึ่งจะต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียมกัน หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ จากเหตุดังกล่าวกกต.จึงมีมติสั่งดำเนินคดีอาญากับนายอุกฤษณ์ และบริษัทเคเบิ้ลทีวี โดยมิได้มีการสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสั่งเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนดโทษในกรณีดังกล่าวไว้
   
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส. บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงความเคลื่อนไหวโค้งสุดท้าย ในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กรุงเทพฯ เขต 12 เขตดอนเมือง ว่า ขณะนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่ามีการกระทำที่ส่อขัดต่อพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 ในพื้นที่ดังกล่าว โดยมี 2 กรณีสำคัญ คือ กรณีที่ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ(ศธ.) ได้ลงพื้นที่พบปะคณาจารย์และนักเรียนโรงเรียนสีกันวัฒนานันท์อุปถัมภ์ เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งมีผู้บันทึกเป็นคลิปวิดีโอเอาไว้ โดยในคลิปมีการพูดจาถึงนโยบายรัฐบาลในการแจกแทบเล็ตให้กับนักเรียน โดยทางพรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกต ว่า ขณะนี้เหลืออีกไม่กี่วัน ที่จะมีการเลือกตั้งแล้ว นายเสริมศักดิ์ มีเจตนาอย่างไรในลงพื้นที่ในเขตเลือกตั้ง เพื่อจะชี้แจงนโยบายดังกล่าว เป็นการช่วยเหลือผู้สมัครคนใดคนหนึ่งหรือไม่ ซึ่งถือเป็นการเข้าข่ายว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจโดยมิชอบและเข้าข่ายว่าสัญญาว่าจะให้ตาม พ.ร.บ. มาตรา 53 (1)
   
ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง"โครงการรับจำนำข้าว กับการขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท" ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11-12 มิ.ย.56 จากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,249 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.95 เห็นว่า รัฐบาลควรเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า รัฐบาลขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว 2.6 แสนล้านบาทนั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.71 เชื่อว่าขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทจริง
   
ที่สำนักงานสหประชาชาติ(ยูเอ็น)ประจำประเทศไทย ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักแผ่นดิน ประมาณ 50 คน นำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นรายชื่อประชาชนที่เห็นด้วยกับแนวทางแก้ไข กรณีพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ในประเด็นประสาทพระวิหาร ด้วยการปฏิเสธอำนาจศาลโลก เป็นจำนวนกว่า 5ล้านรายชื่อ ต่อเลขาธิการสหประชาชาติ ตุลาการศาลโลก และคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องและเพื่อให้จำหน่ายคดีออกจากศาลโดลก โดยไม่ต้องมีคำพิพากษา
   
จากนั้น นายไชยวัฒน์ ให้สัมภาษณ์ว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้จะไม่ใช่การยื่นครั้งสุดท้าย และขอให้คนไทยทีรักชาติรักแผ่นดินมารวมตัวกันที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ เวลา 18.00น. โดยเราจะขอยกระดับการเคลื่อนไหวการชุมนุม จึงขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจต่อเรื่อง กรณีไทย-กัมพูชา ออกมารวมกันชุมนุมเพื่อเรียกร้องความถูกต้อง และจากนั้นจากในวันที่ 17 มิ.ย. เวลา 10.30น. เราจะไปที่สำนักพระราชวัง โดยจะนำรายชื่อดังกล่าว กว่า 5ล้านชื่อ ยื่นต่อองค์พระประมุข ในฐานะที่ทรงเป็นพระประมุขขอคนไทย เพื่อขอพึ่งพระบารมี
   
วันเดียวกัน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลอาจปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการรับจำนำข้าว หลังจากที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร กำลังจะรายงานตัวเลขการขาดทุนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดยในส่วนของราคาจำนำอาจปรับลดลงจากตันละ 15,000 บาท ก็ได้ เพราะสถานการณ์ราคาข้าวในตลาดโลกในขณะนี้ ได้ปรับลดลง เปลี่ยนไปจากเมื่อครั้งที่ประกาศนโยบายในครั้งแรก ซึ่งในการบริหารเศรษฐกิจนั้น การปรับเปลี่ยนนโยบายสามารถเป็นไปได้ เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ เหมือนเช่นการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่รัฐบาลยืนยันจะพิจารณาข้อมูลต่างๆ อย่างรอบคอบ ก่อนที่จะมีการดำเนินการเปลี่ยนแปลงใดๆ ส่วนจะมีการปรับลดราคาในการประชุม กขช. หรือไม่ ก็มีโอกาสความเป็นไปได้
   
ด้าน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ หรือ กขช. เปิดเผยภายหลังการประชุม กขช.ว่า ที่ประชุมมีมติรับทราบตามเอกสารที่ชี้แจง แต่ยังมีบางประเด็นที่ยังเห็นแตกต่างกัน จึงมีมติให้คณะกรรมการนำเอกสารกลับไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และให้นำกลับมาประชุมอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ เวลา 14.00 น.

ที่มา.สยามรัฐ
//////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น