--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โพลล์ ชี้ ชิมิ - จุงเบย ศัพท์แผลงฮิตโดนใจวัยโจ๋ !!??



สำนักวิจัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม เปิดเผยผลการสำรวจการใช้คำศัพท์แผลงที่กำลังระบาดใช้กันอย่างกว้างขวางในกลุ่มเยาวชนไทย และเป็นที่กังวลว่าจะส่งผลต่อการหลักการใช้ภาษาไทยในอนาคต เช่นคำศัพท์แผลงคำว่า ชิมิ บ่องตง จุ๊บุ จุ๊บุ ฯลฯ กับเยาวชนไทยอายุระหว่าง 15-25 ปี การศึกษาตั้งแต่ภาคบังคับถึงสูงกว่าปริญญาตรี ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,065 คน พบว่า 89% ทราบความหมายของคำศัพท์แผลงที่ใช้คำศัพท์แผลงมากที่สุดคือคำว่า “ชิมิ” ซึ่งใช้ในความหมายว่า “ใช่ไหม” ส่วนในรอบสามเดือนกลุ่มเยาวชนไทยในกรุงเทพมหานครใช้คำศัพท์แผลง คำว่า “จุงเบย” ซึ่งในความหมายว่า “จังเลย” 72.68% รองลงมาคือคำศัพท์แผลงคำว่า “บ่องตง” “มะรุ” “ช่ะ” “มะเปง” และ“ชิมิ”

สำหรับคำศัพท์แผลงคำอื่น ๆ ที่เยาวชนไทยมักใช้ เช่น เมพขิง ๆ ,ฟิน,งานเข้า,เกรียน,คีบัป,คิขุ,ซุย,อิอิ,งานงอก และแอ๊บแบ๊ว อีก 51.17 % ส่วนเยาวชนไทยที่ไม่เคยใช้คำศัพท์แผลงเลยมี 12.95% ที่มาของคำศัพท์แผลงต่าง ๆ ดังกล่าว เยาวชนไทยกล่าวว่าที่มาของคำศัพท์แผลงที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุด คือบนอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายสังคมออนไลน์ 51.35 % พบว่าเข้าถึงและผ่านหู/ผ่านตาจากละคร/ภาพยนตร์ระดับต่ำเพียง 4.85 %

สำนักวิจัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามยังพบอีกว่าเยาวชนไทยใช้คำศัพท์แผลง เพราะต้องการลดความเครียดในการสนทนาและสร้างอารมณ์ขัน คิดเป็นร้อยละ 73.68 และ 70.01 ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างมากกว่าร้อยละ 90 ใช้คำศัพท์แผลงกับเพื่อนๆ และ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 57.09 เห็นว่าราชบัณฑิตยสถานควรจัดทำพจนานุกรมเพื่อรวบรวมคำศัพท์แผลงต่างๆ ที่กลุ่มวัยรุ่นใช้ในปัจจุบันไว้เป็นการเฉพาะ

 ที่มา.นสพ.แนวหน้า
-----------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น