--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข้อเขียนชิ้นสุดท้าย !!??

โดย.ประชา บูรพาวิถี

9 ปีที่แล้ว "เอกยุทธ อัญชันบุตร" เปิดตัวอย่างครึกโครม ด้วยบทบาท "นักเปิดโปง" และท้ารบ "นายกรัฐมนตรีประชานิยม"

แต่วันนี้ เขาจากไปแล้ว คงเหลือไว้เพียง "เรื่องเล่า" อันหลากหลาย

การเคลื่อนไหวของ "เอกยุทธ" ในห้วงเวลาปัจจุบันที่เรียกว่า "บ่มเพาะสถานการณ์" เขาไม่พลาดที่จะแสดงความคิดเห็นในหน้าเพจเมื่อ 26 พฤษภาคม 2556

"ใจ-ทุนพร้อม..รอเวลา รวมตัวไล่การเมืองระยำ ขอฝ่ายต้านลดแตกต่าง ทำกันไม่กี่คนชนะยาก"

เอกยุทธตระหนักดีว่า วันนี้ฝ่ายต้านทักษิณไม่เป็นเอกภาพ คิดแตกต่างกันเยอะ จึงเห็นแต่ขบวนการของ "ไชยวัฒน์-บรรณวิทย์" ขับเคลื่อนลงสู่ทุ่งพระเมรุอย่างเดียวดาย

ขณะเดียวกัน ข้อเขียนชิ้นสุดท้ายของเอกยุทธ ที่ใช้นามปากกาว่า "ไต่กอ" ในคอลัมน์ "ซุบซิบอินไซเดอร์" ทางเว็บไทยอินไซเดอร์ ได้ประเมินสถานการณ์ "สงครามชิงอำนาจ" ครั้งใหม่ว่า

"เริ่มเห็น "ปฏิบัติการหน้ากากขาว" V for Thailand ที่เวลานี้ ลามไปทั่วทุกจังหวัดแล้ว...และนี่คือ สัญญาณบ่งบอกว่า...จะอยู่นิ่งเฉยไม่ได้แล้ว...เพราะกลุ่มเป้าหมายต่างกัน...จึงจำต้องอาศัยพวกจูงจมูกง่าย มาชนกับ พวกมีความคิด จะเห็นว่า ปฏิบัติการหน้ากากขาวนี้...ที่นัดหมายกันแล้วจุดติดอย่างรวดเร็วนั้น...ล้วนเกิดจาก โลกสังคมออนไลน์ ที่คนมีความคิด-คนมีความรู้-คนรู้ผิด-คนรู้ชั่ว ต่างนัดรวมตัวกันโดยนัดหมาย...

"จากเดิมที่ "พรรคเก่าแก่" เล่นบทนวดทุกวันเสาร์ในเวที "ผ่าความจริง" ตามจังหวัดต่างๆ ซึ่งเวลานี้ก็ปาเข้าไป 50 กว่าจังหวัดแล้ว...พอมาเจอปฏิบัติการหน้ากากขาว เล่นบทนวดทุกวันอาทิตย์...ที่ลามกันไปหลายจังหวัด ตามสถานที่ต่างๆ ก็เป็นการบ่งบอกได้ดีว่า "การทวงคืนความยุติธรรม" กำลังกลับคืนมา เพื่อมิให้คนตระกูลหนึ่งกินรวบประเทศไทยอีกต่อไป"

เอกยุทธในนาม "ไต่กอ" เชื่อมั่นในปรากฏการณ์หน้ากากขาว และด้วยความสัมพันธ์อยู่กับฟากฝ่ายเดิม เขาจึงฟันธงว่า

"งานนี้ "ผู้คุมเกมฝั่งอำมาตย์แท้" แอบกระซิบ "ไต่กอ" ว่า ศึกรอบนี้วัดกันที่ "ใครอึดกว่ากัน"...ถ้าอยากอยู่นานๆ ก็อยู่ไป...แต่ถ้าคิดว่า จะชิงความได้เปรียบจากเรื่องเงิน ก็คอยดูกัน...ว่าผลลัพธ์ จะเป็นอย่างไร??? "ไต่กอ" ได้ฟังเช่นนี้...บอกได้คำเดียวว่า "ผู้คุมเกมฝ่ายไหน" อึดกว่ากัน...มีความได้เปรียบสูง"

จากข้อเขียนชิ้นสุดท้ายข้างต้น สะท้อนว่า เอกยุทธจุดยืนไม่เปลี่ยน ยังดำรงเป้าหมาย "โค่นล้มระบอบทักษิณ"
9 ปีที่แล้ว เอกยุทธกับคณะผู้ก่อการกลุ่มหนึ่งเดินเกม "น็อกเอาต์ทักษิณ" อันเป็นจุดเริ่มของการเคลื่อนไหวต้านระบอบทักษิณครั้งใหญ่ในปี 2548-2549

ฝ่ายต่อต้านฉวยจังหวะ "ทักษิณ" นายกฯสมัยนั้นไปปฏิบัติภารกิจเยือนประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 22-25 กันยายน 2547 โดยคณะผู้ก่อการจัดประชุมขยายวง โดยมีตัวแทนองค์กรประชาธิปไตย, สหภาพรัฐวิสาหกิจ เข้าร่วมด้วยภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน 2547

ตามแผนการที่กำหนดไว้ 02.00 น. ของคืนวันศุกร์ที่ 24 กันยายน ด้วยกำลังพนักงานรัฐวิสาหกิจจากต่างจังหวัดและในกรุงเทพฯ นับหมื่น จะออกมาชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ก่อนเคลื่อนขบวนสู่ทำเนียบรัฐบาล

สุดท้ายแผนการชุมนุมก็ไม่บรรลุตามเป้าประสงค์ เพราะองค์กรประชาธิปไตย และสหภาพรัฐวิสาหกิจ ไม่พร้อมที่จะเคลื่อนกำลัง ด้วยประเมินสถานการณ์ว่า ยังไม่ถึงขั้นสุกงอม

วันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2547 เวทีการชุมนุมมวลชน จึงถูกจัดตั้งขึ้นอย่างรีบเร่ง ณ บริเวณทิศเหนือของสนามหลวง บนฉากหลังของเวทีอภิปรายมีป้ายผ้าคำขวัญ "ประชาชนเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และสมบัติชาติ"

ท่ามกลางผู้ชุมนุมพันกว่าคน ไม่ใช่หลักหมื่นดังที่หวัง คณะผู้ก่อการได้เผยโฉมบนเวทีในนาม "คณะประชาชนเพื่อชาติ และราชบัลลังก์"

เป้าหมายหรือ "ธง" ที่คณะผู้ก่อการชักขึ้นสู่เวทีทุ่งพระเมรุ คือการกดดันให้นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง และขอพระราชทานรัฐบาลแห่งชาติ

กล่าวอย่างที่สุด "ม็อบสนามหลวง 2547" เป็นกลุ่มพลังที่มาก่อนกาล และเป็นอีกบทเรียนหนึ่งของ "เอกยุทธ" คือนัดแล้วไม่มา?

"ม็อบสนามหลวง 2556" จะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ "ม็อบสนามหลวง 2547" หรือไม่? แต่เอกยุทธทิ้งท้ายก่อนตายว่า ศึกนี้วัดกันที่ใครอึดกว่ากัน?

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น