นโยบาย "จำนำข้าว" ของรัฐบาล "นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ที่เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญหาเสียง โดยพรรคเพื่อไทยประกาศจะทำทันทีภายใน 1 ปี เมื่อคราวหาเสียง ปี 2554 ที่วันนี้กลายเป็นนโยบาย "เรียกแขก" มารุมกินโต๊ะ ทอดกฐินสามัคคี มีแนวร่วมรุมต่อต้านข่าวกันพรึ่บพรั่บ
ส่งผลให้ถึงจุดนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกที่นั่ง "ขี่หลังเสือ" ถอยหลังลำบาก ล้มเลิกโครงการไม่ได้ "นายกฯปู" ยืนกราน ย้ำชัด "เป็นนโยบายที่ดี ต้องเดินหน้าต่อไป"
การเข้าเกียร์เดินหน้า สู้ไม่ถอย เท่ากับว่า "นายกฯยิ่งลักษณ์" พร้อมที่จะเล่นเกมวัดดวง เนื่องเพราะหากพลาด ท่าอาจพังทั้งรัฐบาล ในทางกลับกันหาก "จำนำข้าว" สัมฤทธิผล "ชาวนา" อยู่ดีมีสุข กระแสนิยมจะเพิ่มความร้อนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะเท่ากับกุมฐานเสียงคนส่วนใหญ่ไว้ได้โดยอัตโนมัติ
วันนี้ จึงเห็นนายกฯปู "จัดแถว" เอาคนพูดจารู้เรื่อง ลำดับข้อมูลถูกต้อง แม่นยำ ด้วยการดัน "วราเทพ รัตนากร" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งกำกับดูแลงบประมาณอยู่แล้ว มาทำหน้าที่ชี้ แจงข้อมูลต่อสาธารณะ แทน บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.กระทรวงพาณิชย์
รวมทั้งการ "เซ็ต" ทีมใหญ่ ระดมมันสมอง ทั้งรัฐมนตรี-ส.ส.-นักวิชาการ เพื่อรวมศูนย์ ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย "จำนำข้าว" เน้นน้ำหนัก เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องอ่อนไหวอย่าง "ทุจริตคอร์รัปชั่น" ต้องสกัดให้อยู่หมัด โดยมอบหมายภารกิจให้ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รับผิดชอบ
"เผือกร้อน" ว่าด้วย "จำนำข้าว" จึงทำให้กระแส "ปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์" กลับมากระหึ่มอีกครั้ง แม้ "นายกฯปู" จะประกาศสู้ไม่ถอย แต่ก็เป็นเงื่อนไขให้การปรับ ครม. "ยิ่งลักษณ์ 4" ลื่นไหล ปฏิบัติได้ฉับไวยิ่งขึ้น จากเดิมทีที่จะชิงลงมือในเดือนสิงหาคม หลัง "พ.ร.บ.งบประมาณ" ผ่านวาระ 3
แต่ข่าวล่ามาเร็ว อาจจะขยับมาเป็น ปลายเดือนมิถุนายน ด้วยสูตร "ปรับใหญ่" เพื่อตั้งลำอยู่ครบเทอม!
ข่าวที่ว่อนไปทั่ว โดยรัฐมนตรีที่เข้าข่ายว่าจะถูกปรับออกหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่ง มีรายชื่ออย่าง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.กระทรวงมหาดไทย คาด ว่าจะถูกปรับเปลี่ยนไปดำรงตำแหน่งอื่น หรือโดนปรับออกเพราะมีข้อร้องเรียนหลายเรื่องจาก ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย
ส่วนพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช. กระทรวงมหาดไทย นายประชา ประสพดี รมช.กระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.กระทรวงยุติธรรม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงพาณิชย์นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะถูกปรับออกหลุดเก้าอี้ไปเลย
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะย้ายไปเป็น รมว. กระทรวงยุติธรรม โดยจะดึงพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกฯ กลับมา เป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่า จะถูกปรับเปลี่ยนให้ไปรับ "เผือกร้อน" โดยเข้าไปดำรงตำแหน่งรมว.กระทรวงพาณิชย์ แทน นายบุญทรง จากโครงการ รับจำนำข้าว
ขณะที่รายชื่อ "แคนดิเดต" ที่คาดว่าจะถูกแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เช่น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โควตาเสื้อแดง ที่คาดว่าจะเป็น รมว.กระทรวงมหาดไทย โดยมาแทนโควตาของนายณัฐวุฒิ แต่ตำแหน่งนี้ รมว.กระทรวงมหาดไทยนั้น ยังมีชื่อนายโภคิน พลกุล ที่ปรึกษานายกฯ และพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกฯ และรมว.กระทรวง มหาดไทยเข้ามามีชื่อคั่วในตำแหน่งนี้ เช่นกัน
ส่วนนางสิริกร มณีรินทร์ สมาชิก บ้านเลขที่ 111 จะมาเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ แทน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ และนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ บิดานางวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควตาเจ้าแม่วังบัวบาน
การขยับของนายกฯปู ด้วยการเดินหน้าเปิดโผรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ 1/5" นอกจากสร้างความแข็งแกร่งให้รัฐบาล ปูแล้ว ยังจะเป็นการปิดประตู "ยุบสภาฯ" เพราะการยุบสภาย่อมเป็นการชี้ชัดได้ว่า "ยิ่งลักษณ์" ยอมรับสารภาพต่อข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าเป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการรับจำนำข้าว
แต่ในทางกลับกัน การที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เลือกที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่อใช้อำนาจรัฐและกลไกที่ตัวเองมีแก้ข้อครหาทั้งหมด โดยมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะอยู่ให้ครบเทอมจนถึงปี 2558 เพื่อแสดงเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีความชอบธรรม
ดังนั้น อย่าได้แปลกใจว่าทำไมกระแสข่าวการปรับครม.เริ่มมีเสียงดังขึ้น จนรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายถูกเขี่ยทิ้งถึงต้องออกมาเคลื่อนไหวทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดและมัดใจนายกฯ ในระยะนี้
ที่มา.สยามธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////////////////////////
ส่งผลให้ถึงจุดนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกที่นั่ง "ขี่หลังเสือ" ถอยหลังลำบาก ล้มเลิกโครงการไม่ได้ "นายกฯปู" ยืนกราน ย้ำชัด "เป็นนโยบายที่ดี ต้องเดินหน้าต่อไป"
การเข้าเกียร์เดินหน้า สู้ไม่ถอย เท่ากับว่า "นายกฯยิ่งลักษณ์" พร้อมที่จะเล่นเกมวัดดวง เนื่องเพราะหากพลาด ท่าอาจพังทั้งรัฐบาล ในทางกลับกันหาก "จำนำข้าว" สัมฤทธิผล "ชาวนา" อยู่ดีมีสุข กระแสนิยมจะเพิ่มความร้อนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะเท่ากับกุมฐานเสียงคนส่วนใหญ่ไว้ได้โดยอัตโนมัติ
วันนี้ จึงเห็นนายกฯปู "จัดแถว" เอาคนพูดจารู้เรื่อง ลำดับข้อมูลถูกต้อง แม่นยำ ด้วยการดัน "วราเทพ รัตนากร" รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ซึ่งกำกับดูแลงบประมาณอยู่แล้ว มาทำหน้าที่ชี้ แจงข้อมูลต่อสาธารณะ แทน บุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.กระทรวงพาณิชย์
รวมทั้งการ "เซ็ต" ทีมใหญ่ ระดมมันสมอง ทั้งรัฐมนตรี-ส.ส.-นักวิชาการ เพื่อรวมศูนย์ ร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย "จำนำข้าว" เน้นน้ำหนัก เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังมากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องอ่อนไหวอย่าง "ทุจริตคอร์รัปชั่น" ต้องสกัดให้อยู่หมัด โดยมอบหมายภารกิจให้ ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รับผิดชอบ
"เผือกร้อน" ว่าด้วย "จำนำข้าว" จึงทำให้กระแส "ปรับ ครม.ยิ่งลักษณ์" กลับมากระหึ่มอีกครั้ง แม้ "นายกฯปู" จะประกาศสู้ไม่ถอย แต่ก็เป็นเงื่อนไขให้การปรับ ครม. "ยิ่งลักษณ์ 4" ลื่นไหล ปฏิบัติได้ฉับไวยิ่งขึ้น จากเดิมทีที่จะชิงลงมือในเดือนสิงหาคม หลัง "พ.ร.บ.งบประมาณ" ผ่านวาระ 3
แต่ข่าวล่ามาเร็ว อาจจะขยับมาเป็น ปลายเดือนมิถุนายน ด้วยสูตร "ปรับใหญ่" เพื่อตั้งลำอยู่ครบเทอม!
ข่าวที่ว่อนไปทั่ว โดยรัฐมนตรีที่เข้าข่ายว่าจะถูกปรับออกหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่ง มีรายชื่ออย่าง นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.กระทรวงมหาดไทย คาด ว่าจะถูกปรับเปลี่ยนไปดำรงตำแหน่งอื่น หรือโดนปรับออกเพราะมีข้อร้องเรียนหลายเรื่องจาก ส.ส.ในพรรคเพื่อไทย
ส่วนพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช. กระทรวงมหาดไทย นายประชา ประสพดี รมช.กระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.กระทรวงยุติธรรม นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงพาณิชย์นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ คาดว่าจะถูกปรับออกหลุดเก้าอี้ไปเลย
ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะย้ายไปเป็น รมว. กระทรวงยุติธรรม โดยจะดึงพล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกฯ กลับมา เป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ส่วนนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คาดว่า จะถูกปรับเปลี่ยนให้ไปรับ "เผือกร้อน" โดยเข้าไปดำรงตำแหน่งรมว.กระทรวงพาณิชย์ แทน นายบุญทรง จากโครงการ รับจำนำข้าว
ขณะที่รายชื่อ "แคนดิเดต" ที่คาดว่าจะถูกแต่งตั้งให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น เช่น พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย โควตาเสื้อแดง ที่คาดว่าจะเป็น รมว.กระทรวงมหาดไทย โดยมาแทนโควตาของนายณัฐวุฒิ แต่ตำแหน่งนี้ รมว.กระทรวงมหาดไทยนั้น ยังมีชื่อนายโภคิน พลกุล ที่ปรึกษานายกฯ และพล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกฯ และรมว.กระทรวง มหาดไทยเข้ามามีชื่อคั่วในตำแหน่งนี้ เช่นกัน
ส่วนนางสิริกร มณีรินทร์ สมาชิก บ้านเลขที่ 111 จะมาเป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ แทน น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ และนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ บิดานางวิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ส.ส. เชียงราย เข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควตาเจ้าแม่วังบัวบาน
การขยับของนายกฯปู ด้วยการเดินหน้าเปิดโผรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ 1/5" นอกจากสร้างความแข็งแกร่งให้รัฐบาล ปูแล้ว ยังจะเป็นการปิดประตู "ยุบสภาฯ" เพราะการยุบสภาย่อมเป็นการชี้ชัดได้ว่า "ยิ่งลักษณ์" ยอมรับสารภาพต่อข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าเป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการรับจำนำข้าว
แต่ในทางกลับกัน การที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์เลือกที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไปเพื่อใช้อำนาจรัฐและกลไกที่ตัวเองมีแก้ข้อครหาทั้งหมด โดยมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะอยู่ให้ครบเทอมจนถึงปี 2558 เพื่อแสดงเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์มีความชอบธรรม
ดังนั้น อย่าได้แปลกใจว่าทำไมกระแสข่าวการปรับครม.เริ่มมีเสียงดังขึ้น จนรัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายถูกเขี่ยทิ้งถึงต้องออกมาเคลื่อนไหวทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดและมัดใจนายกฯ ในระยะนี้
ที่มา.สยามธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น