--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รมว.คลัง ยันลดราคาจำนำไม่ขัดนโยบาย !!?

กิตติรัตน์.ยันรัฐบาลปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงต่อสภาฯโดยได้รับจำนำข้าวในราคา 1.5 หมื่นล้านบาทต่อตันแล้ว อ้างราคาตลาดโลกไม่เป็นไปตามคาด

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวยืนยันว่า รัฐบาลได้ดำเนินโครงการจำนำข้าวตามนโยบายที่ประกาศไว้ต่อสภาผู้แทนราษฎรที่ราคา 15,000 บาทต่อตันแล้ว แต่เนื่องจาก ราคาข้าวในตลาดโลกไม่ได้ตอบสนองทิศทางตามอย่างที่คาดหวังไว้ ทำให้รัฐบาลต้องประกาศปรับลดราคาจำนำลงมา อย่างไรก็ดี ราคาขายข้าวไทยในตลาดถือว่า ยังดีกว่าคู่แข่ง เพียงแต่ราคาข้าวของคู่แข่งต่างๆล้วนตกลง

"เราต้องการที่จะดูแลเกษตรกรของเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หากว่า ราคาข้าวในตลาดโลกตอบสนองในทิศทางที่เราหวังไว้หรืออัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้เมื่อแปลงมาเป็นเงินบาทก็จะเป็นรายรับของโครงการรับจำนำเพื่อมาดูแลต้นทุนค่าใช้จ่ายของโครงการ เราก็จะดำเนินการจนสุดความสามารถ"

ทั้งนี้ เมื่อผลของการปิดบัญชีจากคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวปรากฏชัดว่ามีผลขาดทุนมากกว่าที่รัฐพร้อมจัดสรรให้ รัฐบาลก็ต้องมีหน้าที่ดูแลภาพรวมทั้งประเทศ อย่างไรก็ดี ในความคิดเห็นส่วนตัวก็เชื่อว่า ไม่ได้เกิดผลเสียแต่อย่างใด เพราะการดูแลที่มากก็จะกลายเป็นรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวและความสามารถในการชำระหนี้ รวมทั้ง การใช้จ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

"ในเมื่อกรอบที่จะต้องดูแลมากกว่าที่กำหนด รัฐบาลก็มีหน้าที่ที่จะต้องปรับ โดยมีการพูดกันว่า หากราคาข้าวในตลาดโลกมีแนวโน้มที่จะดีขึ้นหรือรายได้ที่จะเกิดจากการขายสินค้าให้เกินกว่ากรอบ เราก็พร้อมที่จะปรับให้สอดคล้อง ดังนั้น จึงต้องการขอความเห็นใจจากชาวนาด้วยว่า การปรับลดราคาลงดังกล่าวเป็นเรื่องของการรักษาวินัยทางการคลัง"

เขากล่าวด้วยว่า ได้เรียนไปแล้วว่า หากเราเป็นประเทศที่มีความพร้อมที่จะขาดดุลการค้าจำนวนมากอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ การที่จะดูแลในระดับที่ผ่านมาหรือต่อเนื่องไป ก็คงจะเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ยากนัก แต่ด้วยความที่ประเทศจะต้องประกาศทิศทางของความเข้มแข็ง โดยให้วินัยการคลังเข้าสู่ภาวะสมดุลในปี 2560 แนวทางในการปรับลดราคาจำนำลงมา เพื่อให้สามารถดูแลชดเชยผู้ปลูกข้าวได้ในระดับที่เป็นกรอบวินัยทางการคลังที่เหมาะสม ก็ถือว่า เป็นเรื่องที่จำเป็น

"ขอยืนยันว่าเราจะดำเนินโครงการรับจำนำต่อไป เพราะสามารถตรวจสอบได้ว่ามีการปลูกจริง มีข้าวมาส่งมอบจริง อีกทั้ง หากราคาข้าวในระหว่างที่เกษตรกรมาจำนำไว้มีแนวโน้มในตลาดโลกที่ดีขึ้น เกษตรกรก็สามารถได้รับสิทธิ์ตรงนั้นด้วย เพราะเป็นเรื่องของการจำนำไม่ใช่ขายขาด"

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น