จาก:หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
พรรคเพื่อไทยส่ง “บิ๊กจิ๋ว” เป็นแม่ทัพใหญ่พา “วรวุฒิ” ยื่นใบสมัคร ส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี โดยเลื่อนกำหนดยื่นใบสมัครเป็นวันที่ 8 ต.ค. วันเดียวกับ “สุเทพ” เตรียมปูพรมตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ทุกอำเภอควบคู่ปราศรัยย่อยทุกชุมชน ให้ประชาธิปัตย์รักษาคำพูดไม่จัดมวลชนต่อต้าน ด้าน “เทพไท” รับประกันไม่มีเหตุรุนแรง ยอมรับเกรง “สุเทพ” ไม่ปลอดภัยแม้จะเป็นพื้นที่ตัวเองแต่ต้องเช็กให้แน่ใจก่อนลงพบประชาชน อ้อนคนในพื้นที่ช่วยเป็นเกราะป้องกัน
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานภาค ใต้ที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย เป็นประธานว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้นายพิเชษฐ สถิรชวาล เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 1 พร้อมเปลี่ยนกำหนดวันยื่นใบสมัครของนายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ จากกำหนดเดิมวันที่ 4 ต.ค. ไปเป็นวันที่ 8 ต.ค. เวลา 09.00 น. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะไปยื่นใบสมัคร เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันเรื่องระยะเวลาหาเสียง
“วันสมัครนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พร้อมด้วย พล.อ.ชวลิต นายพิเชษฐ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ของพรรคทุกคนจะร่วมคณะเดินทางให้กำลังใจนายวรวุฒิด้วย หลังจากยื่นใบสมัครได้หมายเลขประจำตัวแล้วจะขึ้นรถรณรงค์ออกหาเสียงทันที” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า การหาเสียงครั้งนี้พรรคจะตั้งเวทีปราศรัยใหญ่ในทุกอำเภอควบคู่ไปกับการปราศรัยย่อยในชุมชนและการเดินเคาะประตูบ้านของผู้สมัคร พรรคไม่หวั่นว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนตอนที่ลงไปตรวจสอบที่ดินเขาแพงที่มีการเกณฑ์ประชาชนมารุมล้อมและขู่ทำร้าย พรรคเพื่อไทยเชื่อในเกียรติของพรรคประชาธิปัตย์ที่ประกาศออกมาแล้วว่าจะไม่มีการต่อต้านจากคนในพื้นที่ ดังนั้น หากเกิดการสร้างสถานการณ์รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ต้องรับผิดชอบ
“หากแข่งขันกันอย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช้วิชามาร จะทำให้ไม่มีเรื่องร้องเรียนหลังการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง” นายพร้อมพงศ์กล่าว
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ช่วยเลขาธิการพรรค ยืนยันอีกครั้งว่าการลงสมัคร ส.ส. ของนายสุเทพไม่ได้ปูทางเพื่อรอขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แม้นายสุเทพจะมีคุณสมบัติไม่ด้อยไปกว่าอดีตนายกฯของพรรคเพื่อไทยอย่าง พล.อ.ชวลิต นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือแคนดิเดตนายกฯอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ แต่นายสุเทพไม่ได้มีความปรารถนาในเรื่องนั้น ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมระบุให้ชัดเจนว่าจะให้นายสุเทพกลับมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งหรือไม่นั้น เป็นเพราะนายกฯไม่ต้องการผูกมัด เพราะเมื่อพูดไปแล้วต้องรักษาคำพูด การเมืองในอนาคตเป็นเรื่องไม่แน่นอน ที่สำคัญตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง จึงไม่เหมาะหากจะไปพูดถึง
นายเทพไทยืนยันด้วยว่า นายสุเทพไม่จำเป็นต้องลงสมัคร ส.ส. เพื่อสร้างหลักประกันความอิสระหากถูกดำเนินคดีจากการสลายการชุมนุม เพราะคนอย่างนายสุเทพมีความเป็นนักเลงพอที่จะต่อ สู้ทุกคดีตามกระบวนการยุติธรรม ไม่เหมือนนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง ที่ใช้เอกสิทธิความเป็น ส.ส. เอาตัวรอดอยู่นอกคุกเพียงคนเดียว อยากให้นายจตุพรเอาเวลาที่มาวิพากษ์ วิจารณ์รัฐบาลไปเคลียร์ปัญหาเรื่องเงินๆทองๆของกลุ่มเสื้อแดงจะดีกว่า
“ผมยืนยันได้ว่าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 สุราษฎร์ธานี จะไม่มีความรุนแรงใดๆเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะพื้นที่นี้เพิ่งผ่านการเลือกตั้งซ่อมไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร หากทุกฝ่ายร่วม กันป้องกันไม่ให้คนเสื้อแดงไปก่อความวุ่นวายในพื้นที่ก็จะไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน” นายเทพไทกล่าวพร้อมยอมรับว่า ในการหาเสียงนายสุเทพคงต้องระวังตัวมากขึ้นเพราะเป็นเป้าของการลอบทำร้าย แต่เชื่อว่าคนในพื้นที่จะช่วยเป็นเกราะป้องกันให้นายสุเทพได้ อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ต้องเป็นพื้นที่ที่มั่นใจว่าปลอดภัย ไม่มีการเผชิญหน้า แม้พรรคเพื่อไทยเตรียมระดมพลคนเสื้อแดงในภาคใต้เข้ามาทำกิจกรรมในพื้นที่ก็ขอยืนยันว่าจะไม่มีการจัดม็อบไปชนม็อบแน่นอน
**********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น