โดย. หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน
ไม่ว่าจะมีการสำรวจกี่ครั้งถึงเรื่องการเมืองและพฤติกรรมของนักการเมืองไทย ก็จะได้ผลออกมาไม่แตกต่างกัน คือประชาชนเบื่อหน่ายการเมืองและพฤติกรรมของนักการเมืองไทยที่ถูกมองว่ามีแนวโน้มในทางที่ไม่ดีมากกว่าดี โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน จึงทำให้ทหารใช้เป็นเหตุผลในการทำรัฐประหารทุกครั้งตลอด 78 ปีที่ผ่านมา
อย่างล่าสุดศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่องแนวโน้มความสุขมวลรวม GDH ของคนไทยภายในประเทศประจำเดือนกันยายน 2553 กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้พักอาศัยอยู่ใน 28 จังหวัดของประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 5,059 คน พบว่าดัชนีความสุขของคนไทยภายในประเทศเดือนกันยายนปีนี้ “ลดต่ำลง” จากระดับความสุขที่เคยสำรวจในเดือนกรกฎาคม คือจาก 6.77 มาอยู่ที่ 6.57 จากคะแนนความสุขเต็ม 10 คะแนน แม้จะสูงกว่าช่วงเดียวกันของเมื่อปีที่แล้วก็ตาม
ที่น่าเป็นห่วงคือ สถานการณ์การเมือง ความไม่เป็นธรรมทางสังคม สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และภาพลักษณ์ของประเทศไทย ที่เป็นปัจจัยสำคัญให้ระดับความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศลดต่ำลง โดยเฉพาะประชาชนในกรุงเทพฯที่มีค่าคะแนนความสุขระดับที่ “น่าเป็นห่วงมากที่สุด” เพราะต่ำกว่าทุกภาค
ขณะที่การสัมภาษณ์เจาะลึกเชิงคุณภาพกับคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ระบุว่า นักการเมืองมีแต่เรื่องวุ่นวาย น่าเบื่อหน่าย มองหานักการเมือดีๆได้ยาก มีแต่ทุจริตคอร์รัปชัน แก่งแย่งผลประโยชน์และอำนาจ ไม่มีใครจริงใจจริงจังเพื่อบ้านเมือง พูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่ผู้อื่น ความวุ่นวายจึงไม่จบสิ้น
ส่วนเรื่องแผนปรองดองที่ฝ่ายการเมืองต่างก็ชูมาหาเสียงนั้น ถูกประชาชนย้อนกลับว่า แม้แต่นักการเมืองยังปรองดองกันไม่ได้เลย แล้วจะให้ประชาชนปรองดองกันได้อย่างไร ซึ่งไม่มีประชาชนคนใดที่ไม่ต้องการให้เกิดความปรองดอง เพราะประชาชนทุกคนต้องการมีความสุข ไม่ใช่ดีแต่พูด หรือเป็นพวกกะล่อนลิ้นทอง โกหกตอแหล
ประชาชนส่วนใหญ่จึงไม่เชื่อเรื่องนิรโทษกรรมว่านักการเมืองจะมีความจริงใจทำเพื่อประชาชน ทั้งที่ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเห็นความสามัคคีปรองดองและให้อภัยกัน
แต่ประชาชนอีกส่วนหนึ่งก็ต้องการให้ว่ากันไปตามครรลองของกฎหมายบ้านเมือง ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด ใครถูกต้องก็ให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมือง ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งก็ไม่จบหรือจะกลับมาทะเลาะกันใหม่
โดยเฉพาะเหตุกาณณ์ “เมษา-พฤษภาอำมหิต” ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 91 ศพ และบาดเจ็บพิการเกือบ 2,000 คนนั้น ประชาชนคนไทยทั้งประเทศต้องถามตัวเอง ถามรัฐบาล และคนในกองทัพเช่นกันว่า ถ้าจะให้ทุกอย่างผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยนั้น สังคมไทยจะสงบและดำรงอยู่ได้อย่างมีความสุขจริงหรือ
**********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น