ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
สัมภาษณ์
บารมี อำนาจ วาสนา คนการเมืองมักวัดด้วยดัชนี "ดอกไม้-ของขวัญ" ในวันคล้ายวันเกิด
เมื่อคราว บรรหาร ศิลปอาชา อายุ 78 ปี มีดอกไม้ท่วมพรรค
เช่นเดียวกับอดีตนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย มักได้รับดอกไม้พระราชทานวันคล้ายวันเกิด
วันคล้ายวันเกิด "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ถูกจัดอย่างเรียบง่ายในบ้านสุขุมวิท ด้วยการตักบาตรพระสงฆ์ 1 รูป
วันคล้ายวันเกิดวัย 52 ของ "เนวิน ชิดชอบ" เขาปลื้มของกำนัลที่นักเตะทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ เตะชิง 2 ประตู จากทีม ทีทีเอ็ม พิจิตร มาสะสมคะแนนในตารางพรีเมียร์ลีก
ทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักการเมืองท้องถิ่น และ ส.ส.ในเขตภาคอีสาน ต่างมีตารางนัดหมายที่บ้านของ "เนวิน" ใน จ.บุรีรัมย์
หลังรับแขก "เนวิน" เปิดใจ ทั้งเรื่องค่าหัว-ค่าชีวิต และคนเคยรักชื่อ "ทักษิณ" อนาคตของ "ภูมิใจไทย" และลมหายใจ ของเขาในวันพรุ่งนี้
"ผมอยากวิงวอนไปอีกครั้งนะครับ ชีวิตผมไม่เป็นไร แต่อยากขอให้เห็นแก่ความสงบสุขของบ้านเมือง ถ้ารักประเทศไทยจริง หยุดเถอะครับ...หาวิธีอื่นในการทำให้ประเทศนี้ได้อยู่กันอย่างสงบ"
เจ้านายเก่า-คนเคยรัก-ทักษิณ ในใจของ "เนวิน" มีมโนภาพแจ่มชัดเหมือน ตาเห็น
"ผมต้องเรียนตรง ๆ ว่า ชีวิตท่านไม่ลำบากหรอกครับ แม้ท่านจะไม่ได้อยู่ประเทศไทย ท่านก็ไม่ลำบาก แต่ตอนนี้ พี่น้องประชาชนในประเทศไทยกำลังลำบากจากพฤติกรรมที่ท่านได้ทำ...ขอเถอะครับ ถ้ารักคนไทยจริง รักประเทศไทยจริง... หยุดสิ่งที่ท่านทำเถอะครับ"
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของคน ชื่อ "ทักษิณ" คนชื่อ "เนวิน" ไม่เคยละสายตา
"วันนี้ผมคิดว่า คนทั้งประเทศคงเข้าใจว่าผมคงไม่สามารถสร้างความเกลียดชัง โกรธแค้นจนกระทั่งต้องหาคนมาทำร้ายผม คนที่จะโกรธผมเกลียดผมขนาดนี้ในประเทศไทยมีไม่กี่คนหรอกครับ แต่คนที่จะมีเงินจ้างคนมาทำร้ายผมมาขนาดนี้ ผมคิดว่ามีคนเดียวครับ"
เนวินและพวกอีก 4-5 ชีวิต กลายเป็นคนข้างเดียวกัน มีศัตรูคนเดียวกัน
"ผมคิดว่าท่านนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีไปกว่าผม ท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ดีไปกว่าผม ท่านรัฐมนตรีกลาโหม ท่าน ผบ.ทบ. ...ผมว่าพวกเรา 4-5 คนมีชีวิตไม่ต่างกันหรอกครับ แต่สิ่งที่บ้านเมืองกำลังเสียหายอยู่ บ้านเมืองกำลังบอบช้ำอยู่ เป็นการทำร้าย คนไทย และฆ่าคนไทยทั้งประเทศครับ"
"คนที่โกรธผมจนคิดจะทำอย่างนี้ได้ มีไม่กี่คน แล้วคนที่มีกำลังเงินที่จะจ้างด้วยวงเงินขนาดนี้ ก็คงไม่มีเกิน 1 คนหรอกครับ...ขอเถอะครับ เห็นแก่บ้านเมือง ถ้ารักประเทศไทย รักคนไทยจริง ก็หยุดเถอะครับ ผมว่าสิ่งที่ท่านมี สิ่งที่ท่านเป็น และสิ่งที่ท่านได้รับอยู่ขณะนี้ ตายแล้วเกิดใหม่อีก 3 ชาติ ท่านก็ใช้ไม่หมดหรอกครับ"
"ท่านมีความสุขมากกว่าคนไทย ทั้งประเทศครับ ขอความกรุณาอย่าทำร้าย คนไทยมากไปกว่านี้อีกเลยครับ"
เขาบรรยายภาพ "เจ้านายเก่า" ที่เสวยสุขอยู่ต่างแดน เทียบกับภาพชีวิตของเขาที่ต้องคอยระวัง "คำขู่" และ หลบเร้นให้พ้นพื้นที่ "ลอบสังหาร"
"ถ้าจะทำอะไรก็ทำที่ตัวผม ซึ่งผมคิดว่าสิ่งที่ผมประกาศไปได้ปรากฏชัดแล้ว ว่าสิ่งที่ผมพูดไม่ใช่การพูดเพื่อเปิดประเด็นทางการเมือง แต่มีคนที่มีความตั้งใจ ที่จะลอบสังหาร และสิ่งที่ผมได้รับทราบมา ไม่ใช่แต่ผมคนเดียวที่เป็นเป้าหมาย ยังมีคนอื่นที่ยังเป็นเป้าหมายของกลุ่ม คนเหล่านี้อยู่ ผมคิดว่าบ้านเมืองเจริญ แล้วนะครับ"
"เราสู้กันเอาแพ้เอาชนะด้วยเหตุผล ถ้าบอกว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ก็ขอให้ยึดมั่นในการที่จะรับฟังเสียงประชาชน การใช้กำลัง การใช้วิธีอย่าง ที่พยายามจะกระทำกับตัวผม หรือใครก็ตามแต่ที่มีจุดยืนทางการเมืองเหมือน กับผม มันรังแต่จะทำให้บ้านเมืองเสียหาย"
เรื่องเป็น-เรื่องตาย กลายเป็นเรื่องธรรมดา ที่ "เนวิน" เผชิญหน้าทุกนาที
"ถ้าผมตาย...ไม่เป็นไรหรอกครับ แต่เหตุที่จะเกิดขึ้นกับตัวผมหรือครอบครัวผม มันจะยิ่งสะท้อนให้บ้านเมืองเสียหาย บอบช้ำมากไปกว่านี้ และยังมีอีกหลายคน ที่เป็นเป้าหมายของกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งถ้าเขาเป็นอะไรขึ้นมา ผมคิดว่าบ้านเมืองจะเสียหายมาก"
"เพราะฉะนั้นก็สุดแท้แต่นะครับ ผมคิดว่าสังคมจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครเป็น ฝ่ายถูก ใครเป็นฝ่ายผิด พฤติกรรมของ แต่ละคนที่ได้แสดงออก ในการชนะ คะคานก็จะเป็นตัวชี้ และประชาชนจะได้เห็นว่าใครกันแน่ที่ทำลายบ้านเมือง ใครกันแน่ที่ไม่ได้รักบ้านเมือง ใครที่ ปากบอกว่ารักบ้านเมือง แต่การกระทำ การสั่งการ การบงการทำร้ายบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองเราเกือบจะไม่มีใครอยาก มาเที่ยวอยากมาลงทุนอีกแล้ว"
เนวิน-ส่งสัญญาณ ถึงฝ่ายตรงข้าม- คู่แค้น
"ผมคิดว่าข้อเท็จจริงมันประจักษ์ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นที่ใครถูกตำรวจจับแล้วจะมารับสารภาพว่ารับจ้างมาทำร้ายใคร ลอบสังหารใคร เพราะนั่นหมายถึงโทษประหารชีวิต เพราะฉะนั้นผมต้องบอก ตรง ๆ นะครับว่า สิ่งที่ท่านประกาศต่อสังคม แล้วบอกว่าต้องการเห็นการ ปรองดอง บอกว่าต้องการเห็นบ้านเมืองสงบสุข แต่สิ่งที่ท่านและพรรคพวก ปฏิบัติอยู่มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ท่านประพฤติ ประกาศต่อสาธารณชน
อาจเป็นไปได้ว่า "คู่แค้น-คนเคยรัก" อาจระแวงถึงตำแหน่งใหญ่ที่คนในวงการเมืองใฝ่ฝัน "เนวิน" จึงยืนยันคำย้ำอีกครั้ง คำเคยพูด "ไม่เล่นการเมือง"
"อนาคตของผมก็คือเป็นนายเนวินที่เป็นคนไทย และถ้าจะทำอะไรได้เพื่อให้บ้านเมืองนี้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ผมยินดีครับ ผมบอกเป็นครั้งที่ไม่รู้เท่าไหร่แล้วนะครับว่าชีวิตนี้จะไม่เห็นผมกลับไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองอีกแล้วครับ นี่ก็เป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง"
อนาคตตัวเองเขาพูดได้ชัดเจน แต่อนาคตของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และอนาคตของ "แนวร่วม-แนวรบ" ของเขายังถูกงำประกาย
ดังนั้น ข่าวของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. ที่จะปรากฏตัวเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ถูก "เนวิน" ประเมินว่า "เกินไปครับ"
"พรุ่งนี้ก็ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ผมตื่นมาผมจะหายใจอยู่หรือเปล่า แต่ยืนยันว่าตราบใด ที่ท่านชวรัตน์ยังมีความพร้อม มีความแข็งแรง เช่นในปัจจุบัน ท่านก็จะเป็น หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าสู่สนาม เลือกตั้งครับ"
ชีวิต-ลมหายใจของพรรคภูมิใจไทย หลังเลือกตั้ง แม้ไกลเกินวิเคราะห์ แต่ "เนวิน" มีเวิร์ดดิ้ง-วาระ ที่นำเสนอแล้วสอดคล้องกับทุกบริบทการเมือง
"จุดยืนพรรคคือทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำสิ่งที่สังคมและบ้านเมืองต้องการ ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยชีวิต เท่านั้นแหละครับ การเมือง"
เรื่องขั้ว-เรื่องค่าย และแบ่งฝ่ายในนาม ฝ่ายค้าน-รัฐบาล และความสัมพันธ์ฉันท์การเมืองกับ "พรรคประชาธิปัตย์" และพรรคเพื่อไทยนั้น "เนวิน" ไม่คิดผูกมัด จากการผ่านพบ
"ผมบอกแล้วว่าทุกเรื่องเป็นเรื่องแล้ว แต่สังคม คนส่วนใหญ่ของประเทศจะเป็นคนกำหนด ผมคิดว่าสังคมส่วนใหญ่เห็นจุดยืนทางการเมืองของแต่ละพรรค การเมือง วันนี้สังคมได้เห็นแล้วว่าพรรคการเมืองไหนมีแนวทางทางการ เมืองอย่างไร และมีจุดยืนอย่างไร"
ก่อนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น พรรคของ "เนวิน" เปิดเวทีหาเสียงล่วงหน้าด้วย การเสนอ "กฎหมายนิรโทษกรรม" และการปรองดอง ด้วยสารตั้งต้น 1 แสนชื่อ
"ผมอยากเรียกร้องให้สังคมฟังเสียงญาติของแพะ หรือแพะทางการเมือง ที่ต้องมารับกรรมจากการชุมนุม ทาง การเมืองโดยบริสุทธิ์ มากกว่า ฟังเสียงแกนนำ มากกว่าฟังเสียงของนักการเมือง ที่ทำให้บ้านเมืองมีสภาพ เป็นอย่างนี้"
"การช่วยชีวิตคนที่ตกเป็นแพะให้พ้น จากความทุกข์ต้องรอหรือ ผมถามว่าวันนี้บ้านเมืองจะกลับมาสงบสุขต้องรอนักการเมืองเจรจาตกลงปรองดองกันได้เสียก่อน หรือจึงจะมาช่วยเหลือประชาชน หรือถ้าคิดว่าคุณจะเป็นผู้นำการเมือง ต้องเอาประชาชนมาเป็นที่ตั้ง อย่างที่ชอบประกาศบนเวที"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น