เลือกตั้งซ่อมสุราษฎร์ธานี..ดูจะเป็นเลือกตั้งซ่อม ธรรมดา แต่กลับไม่ธรรมดาขึ้นมา เพราะเมื่อระดับ สุเทพ เทือกสุบรรณ ลงสนามเองแล้วก็เป็นเดิมพันใหญ่ขนาดที่ ชวน หลีกภัย และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังเห็นพ้องต้องกันให้ผู้สมัครต้องลาออกจากตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีแถมยังกันท่าหากจะกลับมาเป็นรองนายกฯ อีกที ก็ต้องว่ากันอีกที
แต่ที่สาหัสที่สุดก็กับวาจาของ ชวน หลีกภัย ที่ตอบ คำถามนักข่าวเรื่องตัวสำรองนายกรัฐมนตรีว่า หากว่า สุเทพ เทือกสุบรรณ จะได้รับเป็นตัวเลือก ก็ต้องเป็นไข้หวัดตายยกพรรคซะก่อน
ก็เลยไม่รู้ว่า เลือกตั้งซ่อมหนนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จะยังสนับสนุน สุเทพ เทือกสุบรรณ อย่างเก่าหรือเปล่า.. สานุศิษย์ของ ชวน หลีกภัย ในสุราษฎร์ จะยังเป็นหัวคะแนนให้กับ สุเทพ หรือเปล่า
ลาออกจากความเป็นผู้แทนของสุเทพ เทือกสุบรรณ หนที่แล้ว..สุเทพ เทือกสุบรรณ บอกว่า..จะได้เลิกระแวง ผมซะที ประโยคนี้ สุเทพ พูดให้ใครฟัง ชวน หลีกภัย หรืออภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
กลับเข้ามาสู้เส้นทางนายกรัฐมนตรีของ สุเทพ เทือกสุบรรณ หนนี้..ปรารถนาสิ่งใดผู้จัดการรัฐบาล ที่เปิด ทางเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้กับ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะสามารถผันตนเองเข้ามาสู่เก้าอี้ตัวนี้ได้หรือไม่
ทักษิณ ชินวัตร จะให้เก้าอี้นายกรัฐมนตรีกับใครระหว่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ สนั่น ขจรประศาสน์ หากว่า พรรคเพื่อไทยจะเป็นผู้ชี้ขาด
ดังนั้น เลือกตั้งซ่อมคราวนี้ จึงมีความสำคัญมากกว่า เลือกตั้งธรรมดา สำหรับทุกพรรคและสำคัญที่สุดสำหรับพรรคภูมิใจไทย แนวร่วมข้างกายของ สุเทพ เทือกสุบรรณ.. กับขบวนการจัดสรรอำนาจนอกรัฐสภาของประเทศไทย
ถ้า สุเทพ แพ้เลือกตั้ง ก็เพราะถูกหักหลัง จากพรรคประชาธิปัตย์ด้วยกัน พรรคประชาธิปัตย์แตก ก็เป็น เรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ สุเทพ เทือกสุบรรณ แพ้เลือกตั้ง ที่สุราษฎร์ธานี เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมาย ความว่ามันจะเกิดขึ้นมาไม่ได้
ในวันที่ประชาธิปัตย์ กำลังระอุด้วยไฟแห่งความแตกแยกแต่ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ..วันเวลาของ สุเทพ เทือกสุบรรณ กับพรรคประชาธิปัตย์ได้สิ้นสุดลงแล้วเป็นไปตามอาถรรพ์ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ว่าเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เคยเป็นหัวหน้าและไม่ เคยจบสวย
ที่มา.สยามธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น