| ที่มา. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเป็นแกนกลางของกระดานการเมือง
เป็นแกนที่หมุนให้เกิดกระแสการเมือง ไม่น้อยกว่า 2 ปรากฏการณ์
เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ชื่ออดีตนายกรัฐมนตรีอย่างน้อย 3 คน กับอีก 2 รองนายกรัฐมนตรี และ 2 อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหน้าใหม่ วนเวียนอยู่ในโผ "ว่าที่นายกรัฐมนตรี"
ทั้งชื่อ-ภาพ-เสียงของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ-บรรหาร ศิลปอาชา-ชวน หลีกภัย ถูกชูขึ้นบนกระแส "นายกฯสำรอง"
เช่นเดียวกับชื่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์-สุเทพ เทือกสุบรรณ และสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็ถูกเชิดขึ้นเป็นว่าที่ "นายกฯสำรอง"
แกนของปรากฏการณ์ "นายกฯสำรอง" ถูกหมุนไปพร้อม ๆ กับแผนปรองดอง และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่นายเนวิน ชิดชอบ เป็นแกนกลาง
ก่อนเกิดเหตุ "นายกฯสำรอง" สมมติฐานเรื่องการ "ยุบพรรคประชาธิปัตย์" ถูกตั้งธง เคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบมาจากต้นตอสำคัญในพรรคเพื่อไทย
พร้อม ๆ กับการส่ง "มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์" อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าประกวดเป็น "ว่าที่นายกฯสำรอง" บนสมมติฐานของการยุบพรรคประชาธิปัตย์ และฝันถึงการล้างไพ่ในรัฐบาล
สอดรับกับการ "ปล่อยประเด็น" ของ พล.อ.ชวลิตที่อ้อมหมัดไปชกที่มุม "สมคิด" สกัดคู่แข่งกรณีเกิดการ "นิรโทษ"
ทั้ง ๆ ที่ชื่อ "สมคิด" นั้นถูก "เนวิน-อนุทิน" ปฏิเสธไม่เหลือเยื่อมาตั้งแต่ไม่ปฏิสนธิเป็น "ภูมิใจไทย"
แต่เครดิตการ "ปล่อย" ของ "บิ๊กจิ๋ว" ยังสามารถโน้มน้าวให้คนการเมืองเงี่ยหู-สดับรับฟัง เพราะบังเอิญข่าวความเคลื่อนไหวของกระบวนการปรองดอง และแผนนิรโทษมีความคลุมเครือ-คาบเกี่ยวกับคนจำนวน 111+109 คน
การเคลื่อนไหวของ "เสธ.หนั่น" และการเปิดเกมของ "เนวิน" จึงกลายเป็นเรื่องเดียวกัน
การเปิดประเด็น "นายกฯสำรอง" กับแผน "นิรโทษกรรม" จึงกลายเป็นแนวรบเดียวกัน
พร้อม ๆ กับการเคลื่อนไหวจากบางกลุ่มก๊ก-ก๊วนในพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดชื่อ "นายกรณ์ จาติกวาณิช" ขึ้นมาร่วมปั่นราคา-สร้างกระแส "นายกฯสำรอง"
ในขณะที่นายกรัฐมนตรีตัวจริง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินสถานการณ์และความเคลื่อนไหวเขย่าบัลลังก์ว่าเป็นเพียงปรากฏการณ์ "ปกติ"
แต่นายกรัฐมนตรีคิดข้ามชอตไปถึงแคมเปญใหม่ เพื่อลงเลือกตั้งครั้งหน้า
"ผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับตรงนี้ ผมให้ความสำคัญกับตัวงานที่ต้องทำมากกว่า เพราะมีงานหลายอย่างที่อยากจะเร่งออกมา ซึ่งในเดือนตุลาคมมีนโยบายใหม่ที่เราจะทำเพิ่มเติมขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในเชิงโครงสร้าง คิดว่าอยากจะทำตรงนั้นให้ดีที่สุด"
พร้อม ๆ กับการเปิดตัว "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ลงรับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ที่ จ.สุราษฎ์ธานี ด้วยเหตุผลที่ไม่มีเบื้องหน้า-เบื้องหลัง นอกจากแก้ปัญหา "เฉพาะหน้า" ที่ไม่เน้นสรรพกำลัง-กระสุน-กระแส แต่ต้องการใช้บุญเก่าเข้าเส้นชัย
สมมติฐานการเมืองที่อ้างอุบัติเหตุการเมืองยุบพรรคประชาธิปัตย์ แล้วเกิดการพลิกขั้วการเมืองแบบพลิกฟ้า-คว่ำแผ่นดิน โอนอำนาจกลับไปสู่ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" จึงไม่มีข้อค้นพบที่มีนัยสำคัญ
ประกอบกับข้อโต้แย้งและความหนักแน่นของหลักฐานและการซักค้าน-สืบพยานในศาลของ "ทนายเทวดา-บัณฑิต ศิริพันธ์" ที่เข้มข้น-หนักแน่น และยังมีประเด็นที่ถูก "งำประกาย" เก็บไว้
ยิ่งทำให้สมมติฐานของเพื่อไทย ในคดียุบพรรคยิ่งอยู่บนความผันผวน เป็นไปได้ทั้ง "ยุบ" และ "ไม่ยุบ"
ระหว่างที่คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ยังคาศาล
ระหว่างที่ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ "เนวิน ชิดชอบ" ยังคาสภาผู้แทนราษฎร
ชีพจรการเมืองจึงยังคงเต้น ตั้งต้นจากคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และแผนนิรโทษคนการเมือง
ควบคู่ไปกับขบวนการใต้ดินที่ยังคงเคลื่อนไหวไปสู่การปรองดอง ระหว่างฝ่าย "ทักษิณ ชินวัตร" กับฝ่าย "กองทัพ" และฝ่ายรัฐบาล
การเดินสาย-เดินเกมของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ทั้งที่เรือนจำกลาง-แกนนำ นปช.ทั้ง 7 คน โดยอ้าง "ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ" เป็น "เพื่อนสนิท" เพื่อกางเส้นทางสู่การประกันตัวออกมานั่งในวงเจรจา ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้
ทั้งมังกรเติ้ง-บรรหาร และ เสธ.หนั่น ผนึกกับเนวิน จึงต้องร่วมกันเดินทั้งแผนปรองดอง-แผนนิรโทษไปพร้อม ๆ กัน
ขณะที่ "เนวิน" เดินหน้าผลักดันแผนนิรโทษ
"เสธ.หนั่น" เดินหน้าเจรจาผลักดันแผนปรองดองระหว่าง 3 ขั้ว เสนอตัวตั้งวาระเจรจา-หารือกับ 3 พรรค ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน และเตรียมบินตรงไปพบ "ทักษิณ"
"นอกจากพรรคการเมืองต่าง ๆ แล้ว ในส่วนของทหารทั้งในราชการและนอกราชการก็ต้องไปหารือด้วยกัน เพราะถือเป็นฝ่ายหนึ่งในความขัดแย้งสำหรับทหารในราชการที่จะเข้าหารือก็คือ ผู้บัญชาการเหล่าทัพต่าง ๆ ขณะที่ทหารนอกราชการจะมี พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี, พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" พล.ต.สนั่น-ระบุตัวคนในวงเจรจา
แต่การเจรจา 3 ฝ่าย 3 พรรค 2 สี ยังต้องรอ "ไฟเขียว" จาก "ฝ่ายนิรนาม" ที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญในกระดานอำนาจ
สัญญาณการประกันตัว 7 แกนนำ นปช.เริ่มขึ้นได้เมื่อไร เมื่อนั้นเส้นทางปรองดอง จึงอาจถือว่าเริ่มนับหนึ่ง
ความหวัง-ความฝันของนักการเมืองที่ตั้งสมมติฐานว่า คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ จะทำให้เกิดสุญญากาศทางอำนาจ
และสมมติฐานเรื่องอุบัติเหตุอำนาจ การเปลี่ยนกระดานการเมือง ถึงขั้นสรรหา "นายกฯสำรอง"
ยังคงผูกติด-คาบเกี่ยวกับเงื่อนไขการพิจารณาวาระ "นิรโทษ" และความคืบหน้า "แผนปรองดอง"
บุคคลสำคัญทั้ง 3 อดีตนายกรัฐมนตรี-2 รองนายกรัฐมนตรี และ 2 อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับผู้มีบารมีนอกพรรคทั้งเนวิน ชิดชอบ และทักษิณ ชินวัตร ยังอลเวง อยู่ในเกม "ปรองดอง-นิรโทษ"
....................................
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น