--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรือเหาะฉาวส่งกลิ่นอีกแล้ว

ที่มา.บางกอกทูเดย์

ส่งกลิ่นขึ้นมาอีกครั้งจนนาทีสุดท้ายสำหรับ “เรือเหาะตรวจการณ์สกายดรากอน”มูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ที่กองทัพบกจัดซื้อให้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ใช้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ที่บอกว่าส่งกลิ่นจนนาทีสุดท้ายก็เพราะว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา มีกำหนดการที่ ผบ.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ ว่าที่ ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะลงพื้นที่เพื่อรับมอบ “เรือเหาะ” ที่ท่าอากาศยานปัตตานี หรือสนามบินบ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

ทั้งนี้ เนื่องมาจากคณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะ และระบบตรวจการณ์ทางอากาศของกองทัพบก ได้ลงนามตรวจรับเรือเหาะทั้งระบบแล้ว หลังจากได้นำเรือเหาะขึ้นบินทดสอบเป็นครั้งสุดท้ายพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำที่ติดตั้งกล้องจับภาพระยะไกล โดยมีการเชื่อมสัญญาณภาพมายังเครื่องรับสัญญาณภาคพื้น

การตรวจรับครั้งนี้เป็นการตรวจรับเฉพาะในส่วนของเฮลิคอปเตอร์กับกล้องจับภาพเท่านั้น เนื่องจากส่วนของตัวเรือเหาะ (บอลลูน) คณะกรรมการได้ตรวจรับไปแล้วเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา

แต่เมื่อถึงเวลา ผบ.ทบ. และ รอง ผบ.ทบ. ได้ยกเลิกกำหนดการเดินทางอย่างกะทันหัน และมอบหมายให้ พล.ท.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายส่งกำลังบำรุง (ผช.เสธ.ทบ.ฝกบ.) เป็นผู้ตรวจรับเรือเหาะแทน

อย่างไรก็ดี มีข้อสังเกตว่า การตรวจรับเรือเหาะครั้งนี้ มีความพยายามดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนที่ พล.อ.อนุพงษ์ จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.2553 ทำให้ทางกองทัพบกต้องเร่งรีบดำเนินการรับมอบเรือเหาะ แม้ว่าอุปกรณ์หลายๆ ส่วนโดยเฉพาะตัว "บอลลูน" จะยังอยู่ในสภาพไม่พร้อมใช้งานจริงก็ตามที

จากการทดสอบเรือเหาะทุกครั้งล่าสุด พบว่าเรือเหาะมีรอยรั่วซึมหลายจุด ส่งผลให้ไม่สามารถบินสูง 10,000 ฟิต หรือประมาณ 3 กิโลเมตร ได้ตามที่กำหนดในสเปค

คณะกรรมการของกองทัพบกจึงได้ประชุมร่วมกับตัวแทนของบริษัทผู้จัดจำหน่าย และเสนอให้ทางบริษัทนำเรือเหาะลำใหม่มาเปลี่ยนให้กองทัพบกไทย แต่เบื้องต้นทางบริษัทอ้างว่า หากต้องการลำใหม่จะต้องใช้เวลาถึง 3 เดือน จึงเสนอให้ส่งซ่อม

ด้วยเหตุนี้แม้คณะกรรมการตรวจรับเรือเหาะของกองทัพบกจะตรวจรับเรือเหาะทั้งระบบแล้ว แต่ยังไม่สามารถใช้งานจริงได้ เพราะต้องรอซ่อมแซมตัวเรือเหาะหรือเปลี่ยนเรือเหาะลำใหม่เสียก่อน ซึ่งต้องใช้เวลาอีกเป็นเดือน หรือถ้าจะนำขึ้นบิน ก็ต้องบินเฉพาะบริเวณเหนือค่ายทหาร หากบินออกไปด้านนอกจะเสี่ยงอันตรายมาก เนื่องจากระบบเรือเหาะทำเพดานบินได้แค่ 3,000 ฟิต (1 กิโลเมตร)

มีรายงานด้วยว่า ในท้ายเอกสารการตรวจรับเรือเหาะ คณะกรรรมการตรวจรับฯได้เขียนข้อเสนอเป็นความเห็นเพิ่มเติมว่า สภาพของเรือเหาะยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ จึงขอให้บริษัทนำไปตรวจสอบซ่อมปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ที่สหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ออกมาระบุว่า หากกองทัพบกลงนามตรวจรับเรือเหาะทั้งๆ ที่ยังมีปัญหา จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้ไต่สวนเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทันที

เรื่องนี้ ผบ.ทบ.และคณะกรรมการตรวจรับ คงต้องออกมาชี้แจงให้สังคมได้รับรู้ว่า “ความจริง” ที่ถูกปิดหลังค่ายทหารเป็นเช่นใด ไม่เช่นนั้น ผบ.ทบ.ในวัยเกษียณที่พยายามรักษาภาพลักษณ์ที่ดีมาตลอดชีวิตราชการ อาจต้องพ่วงคำว่าทุจริต ติดไปด้วย
****************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น