นานกว่า 3 ปีที่กลุ่มคนเสื้อแดงออกมาประท้วงขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล แต่สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นผู้ก่อการร้ายไปโดยปริยาย รัฐบาลปฏิบัติต่อกลุ่มคนที่มีความเห็นขัดแย้งราวกับว่าไม่ใช่คนประเทศเดียวกัน
สรุปก็คือ แม้ว่าขบวนการเสื้อแดงจะมีแนวร่วมทั่วแผ่นดิน แต่ข้อเรียกร้องพื้นๆ ให้รัฐบาลยุบสภายังทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะไปหวังข้อเรียกร้องอื่นใดให้ขื่นขมยิ่งขึ้นไปอีก ยังไงเสียรัฐบาลเขาก็ไม่ใจอ่อน
แต่พลันที่มีข่าวว่าห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ “คาร์ฟูร์” จะย้ายฐานจากเมืองไทยไปเปิดบริการในเมืองจีนแทน นั่นต่างหากทำให้รัฐบาลเต้นเป็นเจ้าเข้า
แม้นายกรัฐมนตรีจะออกมาปฏิเสธว่าไม่กระทบกับอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ลึกๆ ก็ต้องหวั่นไหวไม่มากก็น้อย
ความชัดเจนของคาร์ฟูร์จะย้ายหรือไม่เป็นเรื่องที่ยังต้องติดตาม ถ้าย้าย..ย้ายเพราะอะไร เพราะการเมืองแน่หรือ?
หรือเพราะร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง พ.ศ........ที่อืดเป็นเรือเกลือ ดองเค็มมานานหลายปี และหลายฝ่ายตั้งความหวังว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถนำเข้าสภาประกาศใช้ได้เสียที
ซึ่งสาระสำคัญของกฎหมายก็ไม่มีอะไรมาก เป็นการควบคุมการขยายสาขาของโมเดิร์นเทรดไม่ให้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโชว์ห่วยเท่านั้นเอง
คือถ้าเข้าข่ายว่าเป็นโมเดิร์นเทรดก็ให้ออกไปตั้งนอกเมือง หรือห่างจากชุมชนอย่างน้อย 15 กิโลเมตร โมเดิร์นเทรดทั้งหลายก็เลยโวย ไปตั้งไกลขนาดนั้น ใครจะไปเดิน ขอลดลงเหลือห่างสัก 3 กิโลเมตรจะได้ไหม?
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง พ.ศ........ที่เคยมีร่างเดียวของกระทรวงพาณิชย์ก็เลยมีร่างที่ 2 ของผู้แทนการค้าออกมาเป็นตัวเลือก ทำให้ล่าช้าคาราคาซังออกไปอีก
เพราะฉะนั้นถ้าข่าวการย้ายฐานของคาร์ฟูร์ทำให้กฎหมายค้าปลีกต้องเลื่อนการพิจารณาออกไป หรือ รัฐบาลให้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขในสาระบางประเด็นได้ก็ต้องบอกว่า
คาร์ฟูร์..นายแน่มาก!!!
ทีมา.บางกอกทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น