บทบรรณาธิการ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 40 แห่งทั่วประเทศว่า การข่าวแจ้งว่าอาจมีการลอบวางระเบิดหรือสร้างสถานการณ์อย่างที่เคยเกิดขึ้นภายในกรมพลาธิการทหารบก จังหวัดนนทบุรี จึงสั่งการให้ตำรวจลงพื้นที่ติดตามหาข่าวเพื่อเตรียมมาตรการเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัย
แต่ที่น่าวิตกคือ พล.ต.อ.ปทีปเปิดเผยว่ามีข่าวลอบสังหารหรือปองร้ายบุคคลสำคัญจริง และได้ส่งกำลังตำรวจเข้าไปคุ้มกันและดูแลความปลอดภัยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ตุลาการที่พิจารณาคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
แม้ พล.ต.อ.ปทีปไม่สามารถให้รายละเอียดว่าจะเป็นการก่อเหตุในลักษณะใดและจุดใด แต่ในที่ประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้ประเมินและระบุสถานที่ที่เป็นจุดเสี่ยงในการสร้างสถานการณ์ไว้แล้ว อาทิ สถานที่ราชการและสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งตำรวจจะเข้าไปดูแลความปลอดภัย
ข่าวดังกล่าวจะเป็นข่าวจริง ข่าวเท็จ หรือข่าวสร้างเพื่อหวังผลทางการเมือง หรือเพื่อเป็นเหตุผลในการใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่ก็ตาม ต้องถือว่าเป็นข่าวที่ยังไม่น่าเชื่อถือ เพราะแม้แต่กรณีการยิงคลังน้ำมันก็มีการกล่าวหาและพาดพิงกันไปมา ตราบใดที่รัฐบาลและ ศอฉ. ไม่สามารถจับผู้กระทำหรือมีหลักฐานชัดเจน เหมือนกรณีไอ้โม่งชุดดำและคนเผาศูนย์การค้าและอาคารต่างๆใจกลางเมือง ซึ่งรัฐบาลและ ศอฉ. นำมากล่าวหาและจับกุมฝ่ายตรงข้าม
แม้แต่การเสียชีวิตของประชาชนเกือบ 100 ศพ วันนี้ก็ยังไม่มีการเปิดเผยหลักฐานการชันสูตรอย่างเป็นทางการให้ประชาชนทราบ โดยเฉพาะการสังหารโหด 6 ศพในวัดปทุมวนาราม ซึ่งหากรัฐบาลและ ศอฉ. ยังปกปิดและไม่รายงานความคืบหน้าให้ประชาชนทราบ การจะสร้างความปรองดองก็เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีใครเชื่อว่ารัฐบาลมีความจริงใจ
ที่สำคัญการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น รัฐบาลและ ศอฉ. ก็ยังใช้ไล่ล่าและคุกคามคนเสื้อแดงและฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกตัวไปสอบสวนและอบรมตักเตือน หรือการจับกุมคุมขังอย่างเหวี่ยงแห แม้แต่นักวิชาการและนักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างกว้างขวางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งยังยิ่งตอกย้ำให้เกิดความเกลียดชังและโกรธแค้น แทนที่จะเป็นการสร้างความสามัคคี ขณะที่ประชาชนที่ถูกละเมิดสิทธิก็ไม่สามารถต่อสู้หรือเรียกหาความรับผิดชอบและเรียกร้องความยุติธรรมจากการกระทำของรัฐบาลและ ศอฉ. ได้เลย แม้แต่ผู้ที่ถูกเจ้าหน้าที่รัฐสังหารอย่างโหดเหี้ยม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น