ควรมองเป็น ‘คนๆหนึ่ง’
ประชานิยม’ ตลอดชีพ!
ระวังทุ่มงบฯ ที่สูญเปล่า
กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย กับกรณีที่ “รัฐบาลเทพประทาน-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ประกาศโครงการ “ประชานิยมตลอดชีพ” ทั้งขึ้นรถเมล์ฟรี-รถไฟฟ้าชั้น 3 ฟรี-ใช้ไฟฟ้าฟรี ฯลฯ
ชนิดที่เมื่อก่อนนี้ ยังมีรายการ “เหนียมอาย” ต่ออายุมาตรการเหล่านี้ ทุกๆ 6 เดือน แต่พอทำไป ทำมา “ชักติดใจ” เหลียวซ้าย-แลขวา...แล้ว ต้อง “หาเสียงล่วงหน้า” กันไว้ก่อน...เพราะอย่างไรเสีย “ปีหน้า” ก็คงหนีการเลือกตั้งไปไม่พ้นแน่ๆ
ถ้าจะว่าไปแล้ว “ประชานิยม” หลายประเทศ ทั่วโลก...ต่างก็ทำกันทั้งนั้น เพื่อช่วยเหลือ “ผู้มีรายได้ น้อย-ผู้ด้อยโอกาส” เพียงแต่จะมีเทคนิค-วิธีการที่แตกต่างกันไป แม้แต่ “ทักษิณ ชินวัตร” ในยุคที่เรืองอำนาจ คิดนโยบายประชานิยมออกมา สารพัดเรื่อง...ก็ “ก๊อบปี้” คนอื่นมาทั้งสิ้น เพียงแต่ ว่า เมื่อนำมา “เริ่มใช้คนแรก” ในประเทศไทย ก็เลยดูเหมือนว่า...เป็นต้นตำรับความคิดนี้
แต่กับ “นโยบายประชานิยมตลอดชีพ” ในหลายรูปแบบของ “รัฐบาลเทพประทาน” ครั้งนี้... ทำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ยังสลัดไม่หลุดกับสิ่งที่ “ทักษิณ” ทำเอาไว้ และคิดแต่เรื่อง “คะแนนเสียง” เพียงอย่างเดียว โดยลืมนึกถึง “คนหาเลี้ยง ทั้งประเทศ” ซึ่งก็คือ “ผู้เสียภาษี” นั่นเอง
ซึ่งคนเหล่านี้...แทบจะไม่เคย “ได้อะไร” จากรัฐบาลเลย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหน จะกี่ปี-กี่ชาติ “ผู้เสียภาษี” ก็คือ “ผู้ที่เสียเปรียบ...ที่สุด” จะเรียกร้องอะไร “ผู้มีอำนาจ” ก็ไม่เคยเห็นหัว นั่นเป็นเพราะ...ประเทศเรายังไม่มี “องค์กรผู้เสียภาษี” อย่างเป็นระบบ-อย่างเป็นทางการ เพื่อมาปกป้อง “ผู้-เสียภาษี” ให้ได้สิ่งที่ “ตัวเอง...ควรจะได้” เหมือนเช่น “ผู้ด้อยโอกาส-ผู้มีรายได้น้อย” ที่มักออกมา เรียกร้อง และถ้าไม่ได้ก็จะทำการปิดถนน “ประท้วง”
เมื่อมองข้ามไปอีกขั้น...ยังไม่เห็นหนทาง “การหาเงินเข้าประเทศ” อย่างเป็นระบบจากรัฐบาลชุดนี้เลย ก็เลยทำให้เป็นห่วง “ปัญหาเงิน เฟ้อ” ว่าจะ “เกิดสะสม” จนเกินเยียวยา เพราะรัฐบาลมุ่งแต่ “ทุ่มงบที่สูญเปล่า” แต่ไม่ได้คิดถึง “รายได้” ที่จะเข้ามาในหลากหลายหนทาง และไม่ได้คิดจะแสวงหา “รายได้” จากสิ่งใหม่ๆ เพื่อมา ทดแทนในส่วนที่ “ต้องจ่าย” ออกไปเลย
นอกจากนี้ รัฐบาลก็ไม่ได้ “สอน” ให้ “คนไทย” โดยเฉพาะ “ผู้มีรายได้น้อย-ผู้ด้อยโอกาส” ได้ตระหนักถึงสิ่งที่ “ได้รับ” และควรสร้างจิตสำนึก สอนลู่ทางให้คนเหล่านี้...ควรพึ่งพาตัวเองด้วย ไม่ใช่คิดแต่ “แบมือขอ” จนกลายเป็นนิสัย...เพราะไม่เช่นนั้น จะอีกกี่ปี-อีกกี่ชาติ ปัญหาเดิมๆ แบบนี้ ก็ไม่มีวันจบสิ้น
สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด “คนในรัฐบาล” ต้องคิดข้ามกรอบของ “คนชื่อ...ทักษิณ ชินวัตร” ให้ได้ เพราะเวลานี้ “ทักษิณ” นั้น...จบไปแล้ว ถ้าไปยิ่งให้ความสำคัญ ก็ยิ่งเท่ากับไปเพิ่มคุณค่าให้เขา แต่ถ้ามองข้าม...ทำเสมือนหนึ่งว่า “ทัก ษิณ” เป็นแค่ “คนๆหนึ่ง...ที่ “ไม่มีเงา” เราก็ไม่ จำเป็นต้องไป “กลัวเงาของเขา” ใช่หรือไม่!!!
ที่มา.สยามธุรกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น