--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

ต้องสรรเสริญสันติวิธีแบบ‘โคทม’

สำนัก(ข่าว)พระพยอม
โดย พระพยอม กัลยาโณ

เห็นท่าทีของ “คณะธรรมยาตรา” หรือชื่อใหม่ที่เรียกว่า “คณะเดินเพื่อสันติปัตตานี” ที่เดินเท้าจากกรุงเทพฯถึงจังหวัดปัตตานี ระยะทางกว่า 1,100 กม. นำโดยอาจารย์โคทม อารียา เพื่อต้องการแสดงออกทางสัญลักษณ์ อยากเห็นสันติภาพกลับมาสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนาให้กับการตั้งใจในครั้งนี้จริงๆ

อาตมาถือว่าอาจารย์โคทมเป็นผู้ที่เกิดมามีคุณค่าต่อประเทศเป็นอย่างมาก เพราะได้สร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับสังคมอย่างมากมาย ท่านพยายามคิดพยายามทำอะไรหลายอย่างให้กับคนในสังคมเดียวกัน ถึงแม้ว่าการกระทำบางอย่างจะไม่สามารถจะเห็นผลได้ทันที แต่ก็ทำให้สังคมได้เห็นปัญหาและลงมาช่วยกันทำ แม้การเดินเท้าจากกรุงเทพฯสู่ปัตตานีจะดูว่าไม่สามารถช่วยให้สถานการณ์เบาบางลงได้ แต่ก็ช่วยได้เยอะ เพราะมันเกิดประโยชน์ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน สามารถกระตุ้นอารมณ์คนในสังคมได้ อย่างที่มีคำกล่าวคำหนึ่งว่า บางครั้งคนเราก็ต้องเขย่าธาตุรู้ เพราะถ้าไม่ได้เขย่า ไม่ได้ถูกกระตุ้น ปัญญาก็จะไม่เกิดหรือไม่งอกงาม และก็ยังทำให้คนในพื้นที่รู้สึกได้ว่าคนในส่วนกลางไม่ได้ทอดทิ้ง อยากเห็นสันติสุขร่วมกัน

อหิงสา สันติวิธี การลดการกระทำรุนแรงอะไรต่างๆ บางทีก็ต้องมีอะไรมากระตุ้น เพราะถ้าไม่มีการกระตุ้นก็อาจไม่เกิดขึ้น อหิงสาธาตุ ธาตุแห่งความรู้สึกไม่อยากเบียดเบียนใคร ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครเดือดร้อน ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ใครลำบาก จะเกิดขึ้นได้บางทีก็ต้องใช้แรงกระตุ้น

เพราะฉะนั้นใครที่เป็นต้นเหตุกระตุ้นให้เกิดสันติวิธีได้ก็ต้องเรียกว่าเป็นผู้ริเริ่มแห่งความดีงาม เป็นต้นคิด เป็นต้นแบบ ซึ่งจริงๆเรื่องของการกระตุ้นก็ทำกันมาหลายท่านแล้ว อาจารย์ไพศาล วิสาโล ก็ทำมาตลอดโดยไม่ย่อท้อ ไม่ใจเสาะเปราะบาง ถึงแม้ว่าใครจะไม่ทำท่านก็ทำ แม้ลำบากท่านก็จะทำ

ฉะนั้นคนลักษณะนี้เราถึงว่าท่านเป็นตัวช่วย ช่วยทำให้โลกเกิดความสันติ จึงอยากให้มีคนลักษณะนี้เกิดมาเยอะๆ และส่งพวกที่ชอบก่อเหตุ ชอบสร้างความปั่นป่วนเกิดมาน้อยๆ

อยากให้คนที่ชอบสร้างความปั่นป่วนหันมามองดูคนที่อยากเห็นสันติว่าเวลาไปไหนใครๆก็ต้อนรับ ยกตัวอย่างอาจารย์โคทม เวลาไปไหนมีแต่คนคอยให้กำลังใจ คอยต้อนรับ และตอบรับการกระทำของท่าน เมื่อมีคนตอบรับมากๆจะยิ่งมีคนคล้อยตาม ก็จะเกิดการยับยั้งความรุนแรง ลดความก้าวร้าว สามหาวที่ดุดันบ้าคลั่ง จะได้ไม่ต้องมีระเบิดที่นั่นที่นี่ จนต้องมีคนเจ็บคนตาย

ความบ้าคลั่งเกิดได้ทุกที่ อย่างกรณีวัยรุ่นชอบไล่ตี ไล่ยิงกันระหว่างสถาบัน จนทำให้เด็ก ป.3 โดนลูกหลงเสียชีวิต พอถูกจับค่อยสำนึกผิด ออกมาขอโทษครอบครัวคนตาย ซึ่งเป็นเพราะความคึกคะนอง ที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองยังแก้ปัญหานี้ไม่ได้เพราะเรามีกฎหมายที่ดีกับเด็กชั่วเหล่านี้มากเกินไป ทำให้เด็กย่ามใจ กล้าก่อความรุนแรง เบียดเบียนคนอื่น

อาตมาจึงอยากฝากไว้ว่าใครที่เป็นต้นเหตุก่อความลำบากให้คนอื่น จับมาเดินธรรมยาตราแบบอาจารย์โคทมบ้างจะได้รู้สึกว่าคนที่ต้องการสันติ ต้องการความสงบ เขาลำบากขนาดไหน แต่คงทำไม่ได้ มันคงหนีหมดระหว่างเดิน เพราะมันไม่อยากสนองตอบกิจกรรมลดความรุนแรง กิจกรรมอหิงสา กิจกรรมสันติวิธี

อาตมาขออาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลให้คณะธรรมยาตราทุกท่านมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง มีสุขภาพดีตลอดไป เราคงจะได้เห็นกันว่าท่านที่ปฏิบัติภารกิจนี้ได้กระตุ้นอารมณ์ของคนให้ลดความรุนแรง ความบ้าคลั่ง แล้วกลับมาเป็นความเมตตาปรานี กลับมาโอนอ่อนผ่อนปรน บ้านเมืองจะได้กลับคืนมาสู่ความปรกติสุขกันเสียที

เจริญพร

**********************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น