UN ไม่ปล่อยมือให้ลอยนวล -Navi Pillay หัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ทางด้านสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติออกมากล่าวเรียกร้องเมื่อวันจันทร์ให้มีคณะกรรมการสอบสวนที่ เป็นอิสระเพื่อสืบสวนเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในประเทศไทย พร้อมย้ำว่าจะต้องมีผู้รับผิดชอบต่อกฏหมายสากล ฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โทษสถานเดียวคือ "แขวนคอ "
หลังจากสภาEU(สภาสหภาพยุโรป) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ประนามรัฐบาลไทย ในการใช้กำลังทหารเข้าเข่นฆ่าสังหารหมู่ประชาชนผู้มาชุมนุมเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตยอันเป็นสากลโลก ด้วยมือเปล่า พร้อมกับได้จัดส่งคณะสืบสวนเข้ามาสืบค้นหลักฐานข้อมูลเพื่อนำตัวผู้บงการและผู้ร่ีวมกระทำความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ อันเป็นคดีที่ไม่มีอายุความนั้น แรงกดดันของประเทศสมาชิกร่วมEU ได้ส่งผลไปยัง UN ซึ่งอยู่ในสภาพนิ่งเฉยทั้งที่ได้รับรู้เรื่องราว และได้ส่งผู้สังเกตุการณ์เข้าไปยังประเทศไทย ก่อนเกิดเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ เป็นสาเหตุให้UN ไม่อาจนิ่งเฉยต่อสภาวะบีบคั้นของประชาคมโลกที่ได้รับรู้ความจริงผ่านสื่อสารไร้สายไปทั่ว ไม่อาจที่จะปัดความรับผิดชอบที่จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด
ทั้งไม่อาจพึ่งอำนาจทางการเมืองของสหรัฐซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในสภาพย่ำแย่ ต้องอาศัยปัจจัยหลักทางเศรษฐกิจจากเอเซีย และยุโรปเพื่อความอยู่รอด ด้วยสภาวะการบีบคั้นจากประชาคมโลก และ จีึน ซึ่งเป็นสมาชิกถาวร ได้ส่งสัญญาณด้านลบ ต่อ UN ให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อยับยั้งการขยายตัวของปัญหา อันเป็นที่ทราบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย สหรัฐอเมริกาภายใต้องค์กร CIA สนับสนุน วางแผน พร้อมทั้งให้งบประมาณในการก่อตั้ง ขับเคลื่อนกลุ่มคนเสื้อเหลือง ซึ่งเท่ากับสหรัฐได้ขยายขอบเขตอิทธิพลเข้าสู่ภาคพื้นเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ในทิศทางอันจะนำไปสู่การขยายตัวเป็นการสู้รบระดับภูมิภาค ซึ่งหากทาง UN ไม่ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง จีนซึ่งเป็นสมาชิกถาวรของUN ก็จะดำเนินการเรื่องนี้ด้วยเอกสิทธิ์ของสมาชิกถาวร
จากการกดดันจากสภา EU และประเทศที่สูญเสียพลเมืองของตน ในเหตุการณ์สังหารหมู่ที่กรุงเทพฯ นั้น ทำให้ UN จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเป็นทางการ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย อย่างเป็นทางการและเป็นไปตามระบบกฏหมายสากล อันเป็นที่ยอมรับของประชาคมโลกในทันที โดย
Navi Pillay หัวหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ(UN) ได้เรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระกรณีเหตุการณ์ความรุนแรงทางการ เมืองของไทย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไม่น้อยกว่า 80 ศพ โดยระบุว่า การกระทำผิดครั้งนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ หากผลการสอบสวนที่เป็นอิสระได้ผลว่า ใครก็ตามที่เป็นตัวผู้บงการ อันก่อให้เกิดการสังหารหมู่ประชาชน อันเป็นความผิดฐานอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และละเมิดสิทธิมนุษยชนในครั้งนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในระดับสังคมสูงขนาดใด มีอิทธิพลเพียงใด ก็ต้องนำตัวมาลงโทษขั้นสูงสุดให้ได้โดยเฉียบขาด ทั้งนี้เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลยภาพแห่งการเคลื่อนไหวในระบอบประชาธิปไตย ซึ่ีงนานาประเทศทั่วโลกยอมรับและใช้ในการปกครอง
ที่มา nonlaw forum
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น