น้ำตาที่หลั่งรินของบุรุษชื่อพม่า นัยตาแขมร์ นามว่า “เนวิน ชิดชอบ” เมื่อครั้งที่เขาหลุดพ้นจากพันธนาการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ต้องตกทุกข์ได้ยากเพราะ “นาย” นามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนวินร่ำไห้ถึงความยากลำบากขณะที่เขาถูกกักกันบริเวณอยู่ภายใต้ท็อปบูธ คมช. ถูกทารุน ทางจิตใจอย่างร้ายแรงด้วยการจับนุ่งลม ห่มฟ้า ถูกจี้ของรักของหวง รวมถึงเมนู อาหารการกินแต่ละมื้อก็สุดฝืนกลืนกินรับประทาน
ความยากลำบากของอดีตลูกน้อง คนสนิททักษิณบรรยายไว้อย่างนั้น...!!!ถัดมาไม่กี่เดือน เวลาเปลี่ยน ใจคนก็เปลี่ยน น้ำตาลูกผู้ชายก็หลั่งรินอีกคำรบ เมื่อ “เนวิน ชิดชอบ” ออกมาประกาศต่อประชาชนทั้งประเทศว่า จะนำพากลุ่มเพื่อนเนวินออกจากขั้วไทยรักไทย เพื่อสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล ด้วยเหตุผลที่ว่า เพื่อให้ประเทศชาติสามารถขับเคลื่อน เดินต่อไปได้
เนวินบอกว่า เป็นการตัดสินใจที่ยากมาก ต้องเสียทั้ง “นาย” เสียทั้ง “เพื่อน” แต่เพื่อประเทศชาติ และสถาบันอันที่รักเคารพ เขาจำเป็นต้องตัดสินใจทำเช่นนั้น เนวินแถลงข่าวด้วย น้ำเสียงที่สั่นเครือนัยตามีน้ำตาคลอ เบ้าอยู่ตลอดเวลา บ้างเหน็บแนมว่า “น้ำตาจระเข้”
ในขณะที่ “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร บอกว่า “เอ็งจะไปไหนก็ไป เถอะ ไม่ต้องมาบีบน้ำตาร่ำลาให้เสีย เวลา จะไปหาสตังค์ก็ไป และถ้าไปแล้วก็ไม่ต้องกลับมาอีก”
ตลอดระยะเวลาในการรวมรัฐบาล กับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย กลายเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเพียงหนึ่งเดียวที่มีปัญหาแสดงพลังภายในกับพรรคแกนนำรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการระบายข้าวในสต็อก หรือโครงการรถเมล์เช่า 4 พันคัน และล่าสุดกลายเป็นประเด็นร้อนสั่นไหวกรณีนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบโครงการเช่าคอมพิวเตอร์ มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาทของกรมการ ปกครอง กระทรวงมหาดไทย พร้อมชะลอการทูลเกล้าแต่งตั้งปลัดกระทรวง มหาดไทย
ในขณะที่ซีกประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีกลายเป็นตำบลกระสุนตกที่หลายฝ่ายจับจ้องว่า อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเนวินด้วย บุญและคุณแห่งการค้ำจุนจัดตั้งรัฐบาล และจำต้องตอบแทนบุญคุณหรือประคับประคองให้รัฐบาลมีอายุยืนยาวต่อไป
แม้สิ่งที่นายกฯ อภิสิทธิ์ดำเนินการต่อพรรคภูมิใจไทยครั้งล่าสุดนี้จะเป็นการเดิมพันที่สูง แต่หากมองเหลียวหน้าแลหลังแล้ว ประชาธิปัตย์ เองก็ไม่มีทางเลือกมากนัก โดยเฉพาะ เสถียรภาพชะตากรรมของพรรคที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายสุ่มเสี่ยงที่จะถูก “ยุบพรรค” ในคดีเงินบริจาคทีพีไอ
มองข้ามช็อตไปถึงการยุบสภากันเสียแล้ว...!
การออกมาปลุกกระแสเร่ขาย “ปรองดอง” ของเนวิน ชิดชอบ ที่เหน็บเอา “มังกรเติ้ง” บรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อผลักดันร่างพระราชบัญญัติ นิรโทษกรรมให้แก่ประชาชนที่ร่วมชุมนุมทางการเมือง โดยไม่มีสีเสื้อกลาย เป็นประเด็นร้อนที่ทิ่มแทงพรรคประชาธิปัตย์อย่างหลีกเลี่ยงมิได้
แม้ฝ่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะยืนยันว่า “คนเสื้อเหลือง” ไม่ต้องการกฎหมายนิรโทษกรรม เพราะมั่นใจว่าการเคลื่อนไหวที่ผ่านมามีความบริสุทธิ์ใจ จึงเชื่อมั่นว่าศาลสถิตยุติธรรมจะให้ความเป็นธรรมกับพวกเขาได้
ส่วนอีกฟากฝั่งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ (นปช.) และแกนนำพรรคเพื่อไทยยืนยันเช่นกันว่า “คนเสื้อแดง” ไม่ต้องการกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับเนวิน ชิดชอบ ที่มีวาระซ่อนเร้นต้องการหาเสียงคะแนน นิยมจากคนเสื้อแดง เพราะในพื้นที่อีสานพรรคภูมิใจไทยไม่สามารถลง พื้นที่ได้
ปลดล็อกวาระซ้อนเร้น การออก มาจุดกระแสล่าชื่อประชาชนแสนชื่อเพื่อผลักดันร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ของพรรคภูมิใจไทย และภาพการเปิด ตัวหนังสือพอกเก็ตบุ๊กที่พรรคภูมิใจไทยของเนวิน ชิดชอบ ที่นำคนสวมใส่เสื้อสีแดง สีเหลือง สีชมพู และน้ำเงินมาแต่งแต้มสีสันเมื่อต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมา จึงเป็นแค่การทำงานของบริษัทประชาสัมพันธ์มืออาชีพที่เก่งใน การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร โดยมีสินค้าแบรนด์ “ปรองดอง” เร่ขายให้กับคนรากหญ้า
อีกนัยก็คือหนังสือเชิญชวนนักลงทุนให้เข้ามาร่วมทุนกับบริษัทภูมิใจไทย ที่ประกาศว่าจะยึดหัวหาดภาคอีสาน จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อนักบุญคนบาปเร่ขายฝัน “ปรองดอง” บทเรียนแห่งสัจวาจาต้องจดจำ บุรุษห้าสั้น เบ๊เต็กเชียง บรรหาร ศิลปอาชา ลืมเลือนไปแล้วนะหรือ จึงออกมาคลุกผสมน้ำยาอย่างนี้
ที่มา.สยามธุรกิจ
-------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น