--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

พระยา "ปลอดประสพ" ผู้เจรจาลับ กับคนในตระกูล 100 ปี

ประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ มนุษย์การเมือง
โดย อิศรินทร์ หนูเมือง

10 พ่อค้า ไม่เท่า 1 พระยาเลี้ยง สะท้อนฐานะความแตกต่างทางอำนาจ-ชนชั้น

ทั้ง "พ่อค้า" และ "พระยา" ยังถูก "อ้างถึง" ทุกวงการ ในฐานะ "ผู้ใหญ่" ของบ้านเมือง

ก่อนเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 มีการ "อ้างถึง" การชุมนุมทางความคิดของกลุ่มบุคคลระดับ "พระยา" ที่บ้านย่านของ "พ่อค้า" เขตสุขุมวิท

ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองย่าน "พ่อค้า" ที่สี่แยกราชประสงค์ 19 พฤษภาคม 2553 แกนนำม็อบประกาศเจตนารมณ์ต่อต้าน "พระยา" และ "อำมาตย์"

เมื่อคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นสู่ศาลรัฐธรรมนูญ มีข่าวใต้ดินแพร่หลายว่า บุคคลระดับ "พระยา" อยู่เบื้องหลัง สั่งให้ดำเนินการ

เมื่อพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง "ถวายฎีกา" ขออภัยโทษให้ "ทักษิณ ชินวัตร" คนวงในพรรคเพื่อไทยส่งสัญญาณว่า มี "พระยา" และ "ข้าราชบริพาร" ที่เกี่ยวดองกับ "ราชนิกูล" แนะนำให้กระทำการดังกล่าว

เมื่อ "พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" เสนอตัวขอ "เข้าเฝ้าฯ" คนในเพื่อไทยก็ส่งสัญญาณว่า มาจากการประสานงานของบุคคล ระดับ "พระยา" คนหนึ่ง

เมื่อกระดานการเมืองถึงทางตัน การร่างแผนกรอบการเจรจาเพื่อสงบศึก-ยุติสงครามระหว่าง 2 ขั้วการเมืองถูกนำเสนอสู่สาธารณะ 5 ข้อ

ผู้เสนอญัติสาธารณะชื่อ "ปลอดประสพ สุรัสวดี" รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย "อ้างถึง" ที่ประชุมของ "ผู้ใหญ่ในพรรค" และความเห็นบางส่วนมาจากคนเก่า-คนแก่ของ บ้านเมือง

"ปลอดประสพ" ยัง "อ้างถึง" บุคคลในวงเจรจาว่าเป็นคนในตระกูลที่มีความเป็นมาระดับ 100 ปี

ทั้งพ่อค้าและพระยายังถูก "อ้าง" ในทุกวงอำนาจ ทุกวงการ

ปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ชิงลงมือประกาศ เบื้องหน้า-เบื้องหลัง ร่างแผนเจรจา-ปรองดอง เคยบอกว่าเขาก็สืบเชื้อสายมาจาก "พระยา" และตำแหน่งสุดท้ายก่อนเข้าสู่วงการเมืองก็เทียบเท่า "พระยา"

สาแหรกของ "ปลอดประสพ" สืบเชื้อสายมาจาก "หลวงอนุการนพกิจ" หรือ (ปรารภ สุรัสวดี) กับคุณหญิงกรองทอง หัสดินทร

ฝ่ายบิดา-หลวงอนุการนพกิจ นั้นเคยเป็นเจ้าเมือง "ชัยภูมิ" คนที่ 24

ในประวัติระบุด้วยว่า ต้นตระกูล "สุรัสวดี" หลวงยกบัตรนั้นเคยเป็นผู้รั้งเมืองดินแดงแถบนางรอง ในปัจจุบันคือ จังหวัดบุรีรัมย์

หลวงอนุการนพกิจ "พ่อ" ของรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย-ปลอดประสพ นั้นเป็นผู้เรียบเรียงเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ "จอมพล พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจิรประวัติวรเดช กรมหลวงนครไชยศรี สุรเดช" พระราชโอรสองค์ที่ 17 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงประสูติแต่เจ้าจอมมารดาทับทิม

ผู้ทรงเป็น "พระบิดาแห่งกองทัพบก ไทย" และทรงเป็นต้นตระกูล "จิรประวัติ" ที่สืบเชื้อสายมาจนถึงปัจจุบัน นับได้เกิน 100 ปี

คนในตระกูลระดับตำนาน 100 ปี ที่ถูก "ปลอดประสพ" อ้างถึงอีก 1 ตระกูลคือ "ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร" ผู้สืบเชื้อสายจาก "จอมพล จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต" ผู้ทรงเป็นต้นราชตระกูล "บริพัตร"

ที่ปัจจุบันเป็น "คีย์แมน" ที่เชื่อมกับทั้งฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ และมีคอนเน็กชั่น พิเศษกับฝ่าย "พระยา" และมีสายตรง เชื่อมกับ "ข้าราชบริพาร" ที่ใกล้ชิด

เคยปรากฏตัวในวงเจรจากับบุคคลระดับชนชั้นนำมานับครั้งไม่ถ้วน

เช่นเดียวกับ "ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล" บุคคลที่ถูกพรรคเพื่อไทย "อ้างถึง" ให้ขึ้นเป็น "หัวหน้าพรรค" ผู้สืบเชื้อสายมาจากสมเด็จทวด อัครมหาเสนาบดี "สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ" หรือพระนามเดิม "พระองค์เจ้าเทวัญอุไทยวงศ์" ผู้เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ สมเด็จพระปิยมาวดี ศรีพัชรินทรมาตา หรือเจ้าจอมมารดาเปี่ยม

อีกตระกูลการเมืองที่อายุ-อานาม 100 ปี ที่ถูก "อ้างถึง" ในวงสนทนา-เจรจา ความเมือง คือ "นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ" ผู้อยู่ในเชื้อแถวของบ้านราชครูแห่งต้นตระกูล "ชุณหะวัณ" ของ "จอมพลผิน ชุณหะวัณ" ผู้ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงชำนาญยุทธศาสตร์" ตั้งแต่อายุครบ 37 ปี

คนต้นตระกูล "ชุณหะวัณ" นั้นเคยอยู่ในประวัติศาสตร์การเมือง-การเปลี่ยนแปลงการปกครอง และเป็น 1 ในคณะนายทหารที่ทำการรัฐประหารเมื่อ 8 พฤศจิกายน 2490 แล้วก้าวขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารบกในอีก 4 ปีถัดมา

เหล่านี้คือเชื้อสาย "พระยา" จาก 3 ตระกูล ที่ถูก "อ้างถึง" ในวงเจรจา หย่าศึกการเมือง ระหว่าง "เศรษฐี-ทักษิณ ชินวัตร" กับนักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมค่าย "พระยา-ประชาธิปัตย์"

"ปลอดประสพ" วัย 65 ปี (เกิด 3 มีนาคม 2488) อ้างถึงคนในตระกูลพ่อค้า-พระยา ที่มีความเป็นมา 100 ปี คบหาด้วย นั้นเคยบอกเล่าผ่านบทเพลงที่ ม.ล.พวงร้อย อภัยวงศ์ แต่งไว้ว่า "เป็นผู้ดีก็เพราะกรรม ที่ก่อมา ใช่กำเนิดหรูหราอย่าฉงน"

"ผมเป็นครอบครัวอำมาตย์นั้นแน่นอน ตัวก็เป็นปลัดกระทรวง ก็ตำแหน่งสูงสุดในข้าราชการพลเรือน มันจะไม่อำมาตย์ ตอนไหนล่ะครับ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ก็ได้ ถ้าเป็นสมัยโบราณก็ต้องเรียกผมเป็นเจ้าคุณ เป็นพระยา ส่วนฐานะก็ดี โชคดีเพราะมีพ่อแม่ดี มีโอกาสทำงานได้ดี แต่นั่นมันไม่ได้ทำให้ผมสูงส่งอะไร" ปลอดประสพ-บอกสาแหรกตัวตน

คำว่า "ผู้ดี" สำหรับ "ปลอดประสพ" นิยามไว้ว่า "คนพวกนั้นก็ค่อนข้างระมัดระวังตัว รถก็ราคาแพง แต่งตัวก็มีเครื่องแหวนเงินทองเยอะแยะ เขาเรียกผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดิน แล้วก็ไม่อยากโดนแดด ถือร่ม ทาหน้า"

แต่เมื่อต้องใช้แนวร่วมแทนแนวรบ เขายังจำเป็นต้องอ้างถึงกลุ่มบุคคลระดับ "พระยา-ผู้ดีและอำมาตย์" ที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก

"ปลอดประสพ" เรียนหนังสือจากโรงเรียนมาแตร์เดอีและโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย แล้วเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก่อนเข้าคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แล้วไปจบปริญญาโท สาขาโทบริหารการประมง มหาวิทยาลัยโอเรกอน สเตท (Oregon State University) ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผ่านการร่วมงานการเมืองกับนักการเมืองสายเหยี่ยว-สายรอยัลลิสต์ และสายเนติบริกร มาตั้งแต่เกษียณอายุราชการ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

เคยเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นาย สมัคร สุนทรเวช และอดีตกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจำตัวนาย ยงยุทธ ติยะไพรัช และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม

การอ้างถึง 10 พ่อค้า ไม่เท่า 1 พระยาเลี้ยง ยังใช้ได้กับทุกวงการในสังคมไทย

**************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น