ส่วนหนึ่งของการซักค้านพยาน คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความ ปชป. ซักค้าน พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และอดีตรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะพยานฝ่ายผู้ร้องของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ระหว่างตุลาการศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดี นัดที่ 5 เมื่อวันที่ 13 กันยายน
นายบัณฑิต : เทปกับซีดีต่างๆ ไม่เคยให้นายประจวบ สังขาว ดูและนายประจวบไม่เคยให้การดีเอสไอ และ กกต.ใช่หรือไม่
พ.ต.อ.สุชาติ : นายประจวบเคยให้การดีเอสไอ 6 ครั้ง กกต. 3 ครั้ง แต่ไม่ได้มอบเทปให้ กกต. สำหรับเทปดังกล่าวเป็นเทปที่ลักลอบอัดเสียงนายประจวบ (ขณะนายประจวบ ประกอบธุรกิจอาบอบนวดเจ้าพระยา 1)
นายบัณฑิต : เทปเสียงของนายประจวบที่ลักลอบอัด คุณนำออกมาจากดีเอสไอได้อย่างไร
พ.ต.อ.สุชาติ : ผมคิดว่าสิ่งที่จะกราบเรียนตุลาการก็คือ ทุกคนอยากรู้ความจริง และในข้อบังคับของศาลบอกว่า ถ้าเพื่อประโยชน์ยุติธรรม ดังนั้นเทปดังกล่าวผมไม่เคยนำไปเปิดที่ไหนมาก่อนและไม่เคยเปิดให้ผู้ใดเสียหาย
นายบัณฑิต : เทปนี้เป็นเอกสารลับของดีเอสไอ ทั้งที่คุณย้ายไปอยู่กระทรวงไอซีทีแล้ว
พ.ต.อ.สุชาติ : ไม่ใช่เอกสารลับ ท่านถามเรื่องเทปแล้วพาลไปสำนวนมิได้เป็นตามที่กล่าวหา เพราะเรื่องเทปเก็บไว้เองไม่ได้ส่งไปยังสำนวนของ กกต.และสำนวนดีเอสไอก็เข้าใจว่ามีการดำเนินการสืบสวนเรื่องนี้ 2 ช่วง เทปอันนี้ได้มาในการสอบสวน
นายบัณฑิต : ข้อเท็จจริงที่อธิบายว่า สัญญาระหว่างบริษัท ทีพีไอฯมีการไซฟ่อน พยานทราบไหมว่า นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอฯ และนายประจวบ ที่เคยมาให้การต่อศาลก็ยอมรับว่าแล้วว่า ได้ทำธุรกรรมจริง นายประจวบทำ 8 โครงการจริง
พ.ต.อ.สุชาติ : ทนายและศาลต้องฟังเทปที่ผมอัด เพราะนายประจวบ สัมพันธ์กับ ปชป.มายาวนาน การให้การให้พรรคเสียหาย เขาก็ไม่อยากจะพูด
นายบัณฑิต : สรุปแล้วสำนวนการสอบสวนของดีเอสไอเป็นโทษกับ ปชป. ถ้าสำนวนไหนเป็นคุณ ดีเอสไอไม่นำมาวินิจฉัย
พ.ต.อ.สุชาติ : ท่านตอบเองนะครับ ท่านวินิจฉัยเอง ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น ผมมิได้ต้องการมาทำลายล้าง ปชป.อย่างที่ท่านกล่าวหาผม
นายบัณฑิต : ทราบหรือไม่ อัยการหลายคนทนดูคุณไม่ได้ที่ให้การบิดเบือน ถามเองตอบเอง 27 ครั้งที่คุณสอบสวน
พ.ต.อ.สุชาติ : ท่านกล่าวหาผมก็รับฟัง
นายบัณฑิต : ในชั้นสอบสวนพาดพิง ปชป. 2 ข้อหา 1.รับเงินบริจาคจากบริษัท ทีพีไอฯ และ 2.ใช้จ่ายเงินกองทุนฯจาก กกต.ไม่ถูกต้อง พยานยอมรับ 2 ข้อหาอยู่ภายใต้บทบัญญัติรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.พรรคการเมือง
พ.ต.อ.สุชาติ : พ.ร.บ.พรรคการเมืองทางดีเอสไอได้ตรวจสอบแล้วพบจึงส่งเรื่องมาให้ กกต.ทำให้มีการประชุมกับเลขาธิการ กกต. (นายสุทธิพล ทวีชัยการ) ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมืองก็ระบุไว้ว่า กกต.ให้เป็นผู้เสียหาย ผมเรียนถามท่านเลขาธิการ กกต. ได้สอบสวนตามกฎหมายอาญาหรือไม่ แต่เลขาธิการ กกต.บอกว่าไม่มีอำนาจ แต่ถ้าตรวจสอบพบก็จะให้พนักงานสอบสวนดำเนินการ
นายบัณฑิต : พ.ต.อ.สุชาติได้ระบุชัดเจนมายัง กกต.ว่า ปชป.มีความผิด 2 ข้อหา 1.คดี 258 ล้าน 2.คดี 29 ล้านบาท ผมถามว่าความผิดฝ่าฝืน พ.ร.บ.พรรคการเมืองใช่ไหม คุณก็บอกว่าใช่ แล้วถ้าใช่แล้วถามต่อว่า คุณไม่มีอำนาจใช่ไหม เพราะเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองใช่ไหม
พ.ต.อ.สุชาติ : ไม่ใช่ ในการทำผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง คือมียุบพรรคและตัดสิทธิ เป็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง แต่หากมีโทษอาญาเป็นหน้าที่พนักงานสอบสวน
นายบัณฑิต : ทราบหรือไม่ ส.ต.ท.ทชภล พรหมจันทร์ ระหว่างได้เงินค่าคุ้มครองพยานจากดีเอสไอเดือนละ 3 หมื่นแล้วขึ้นเวทีเสื้อแดงปราศรัยโจมตี กกต.หลายครั้ง
พ.ต.อ.สุชาติ : ท่านกำลังจะโยงสิทธิคุ้มครองพยานกับสิทธิตามรัฐธรรมนูญ
นายบัณฑิต : ผมถามว่า จุดมุ่งหมายอนุมัติเงินคือ พยานต้องเก็บตัว
พ.ต.อ.สุชาติ : ท่านเข้าใจผิด เพราะโครงการคุ้มครองพยานมี 2 มาตรการ คือ 1.มาตรการทั่วไป เช่น คุณอังคณา นีละไพจิตร ก็เข้าโครงการนี้ จะเดินทางไปไหนก็ปกติ และ 2.มาตรการพิเศษอยู่ พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน แต่ ส.ต.ท.ทชภล อยู่ตามมาตรการแรกไปก็ไหนก็ได้ไม่ต้องเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนาม ไม่ต้องย้ายที่อยู่
นายบัณฑิต : ส.ต.ท.ทชภล เคยนำนายประจวบ พบพยานหลายครั้ง
พ.ต.อ.สุชาติ : ไม่เคย
นายบัณฑิต : ทุกครั้ง ส.ต.ท.ทชภล มาให้การกับคุณ มากับ ร.ต.อ.อรรถกวี ขุนพินิจ นายตำรวจคนสนิท พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร อดีตประธานวุฒิสภา ทุกครั้งใช่ไหม
พ.ต.อ.สุชาติ : ผมไม่เคยรู้จัก ร.ต.อ.อรรถกวี และไม่เคยคุยด้วย
นายบัณฑิต : คุณรู้ คุณเคยเจอนายประจวบ สองต่อสอง จับมือบอกว่า จวบมาเป็นเพื่อนกันขอให้การพาดพิง ปชป. นายประจวบได้เสนอขอเงินคุณจะไปไถ่บ้าน 5 ล้านบาท คุณบอกโอเค แต่ขอให้นายประจวบให้การก่อนแล้วจะพานายประจวบไปเก็บไว้ที่เซฟเฮาส์ที่พัทยา นายประจวบอ้ำอึ้งอยู่นานแล้วบอกว่า ไม่ขอตอบในศาล คุณพูดอย่างนั้นจริงไหม
พ.ต.อ.สุชาติ : ผมตอบ ไม่จริง เพราะไม่มีพยานคนไหนมาตอบว่า จริง ถึงแม้จะเป็นจริง ก็ตอบว่าไม่จริง ท่านบอกเองว่าประจวบพบผมสองต่อสอง ผมอยากถามว่า ประจวบเล่าให้ท่านฟังใช่ไหม
นายบัณฑิต : นายประจวบไม่ได้เล่าให้ผมฟัง แต่ พ.ต.ท.ท่านหนึ่งยังมีชีวิตแล้วยืนยันให้ผมฟัง
พ.ต.อ.สุชาติ : การที่นายประจวบบอกว่า ไม่ขอตอบ ท่านก็บอกว่าจริง ผมรับราชการมาผมไม่เคยทำเยี่ยงที่ท่านพูด
นายบัณฑิต : ทุกครั้งสอบสวนคุณยังเปิดเผยตัวว่าปฏิปักษ์โดยเปิดเผย แต่อยากถามว่า แม้เรื่องล่าสุดคดี 258 ล้าน อัยการส่งเรื่องมายัง กกต.สอบสวนใหม่ คุณสัมภาษณ์เลยว่า ยื้อคดีของอัยการสูงสุด ผมรู้แต่แรกว่า ต้องทำแบบนี้ทั้งที่คุณพ้นหน้าที่พนักงานสอบสวนแล้ว คุณทนไม่ได้ใช่ไหม ต้องการให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีกับ ปชป.โดยเร็ว
พ.ต.อ.สุชาติ : หนังสือพิมพ์ลงเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน แสดงว่าผมให้สัมภาษณ์วันที่ 10 มิถุนายน วันนั้นวันที่ 10 เป็นวันพระราชทานเพลิงศพพ่อผม ผมไม่มีจิตใจมาให้สัมภาษณ์
นายบัณฑิต : วันรุ่งขึ้นรองอัยการสูงสุด ท่านวัยวุฒิ หล่อตระกูล ให้สัมภาษณ์ว่า ท่านพ้นจากหน้าที่แล้วมายุ่งอะไร นี่เรื่องของอัยการกับ กกต. คุณเป็นคนใช้ไม่ได้ พูดจาไม่เข้าท่า พยานอ่านข่าวนี้หรือไม่
พ.ต.อ.สุชาติ : อ่าน ผมไม่สงสัย เพราะว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีปกติทั่วไป
นายบัณฑิต : เหตุการณ์จลาจลวุ่นวายใน กทม. เสื้อแดงปิดล้อมที่ทำการราชการ คุณกับ พ.ต.อ.ทวี ได้อยู่วอร์รูมพรรคเพื่อไทยวางแผนให้ช่วยเหลือพวก นปช.หรือเสื้อแดงที่ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
พ.ต.อ.สุชาติ : ท่านน่าจะให้ผมร่วมคดีก่อการร้าย ไม่น่ามาใส่ร้ายผม ให้พยานปากนั้นมายืนยันแล้วผมถูกดำเนินคดีก่อการร้ายและผมก็ไม่ทราบเรื่องทั้งหมดด้วย
นายบัณฑิต : ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ได้นำข้อมูลจากดีเอสไอไปอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เป็นข้อมูลที่มีเนื้อหาสาระตรงกับที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวนดีเอสไอ คุณเฉลิมให้การต่ออนุกรรมการ กกต. ยอมรับข้อมูลส่วนหนึ่งได้จากนายประจวบ และอีกส่วนได้วิธีการลับเฉพาะ ได้จากตัวคุณใช่หรือไม่ เขารู้ทั้งนั้น
พ.ต.อ.สุชาติ : นักการเมืองมีความสามารถแบบนี้ทั้งนั้น ผมไม่ทราบ ผมไม่เคยเป็นนักการเมือง ผมไม่เคยนำข้อมูลการสอบสวนไปให้
นายบัณฑิต : ร.ต.อ.เฉลิม นำข้อมูลเช็คหลายฉบับ ธนาคารอะไร เอาไปอภิปราย ข้อมูลเหล่านั้นคนที่จะนำไปให้ได้คือตัวคุณในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน
พ.ต.อ.สุชาติ : เอกสารต่างๆ นายประจวบบอกว่า ชุดหนึ่งอยู่ที่นายประจวบ ชุดหนึ่งอยู่ที่ ส.ต.ท.ทชภล ชุดที่สามอยู่ที่นายอภิสิทธิ์ และชุดที่ 4 อยู่ที่นายวิทยา แก้วภราดัย ฟังในเทปเสียงนายประจวบได้
นายบัณฑิต : คุณพูดถึงงานศพคุณพ่อที่ จ.ชลบุรี คุณเฉลิมช่วยงานศพคุณพ่อคุณ 2 แสนบาทใช่ไหม
พ.ต.อ.สุชาติ: ไม่ทราบครับ
นายบัณฑิต : คุณรับเงินคนในงานแต่ไม่ทราบ คุณเฉลิมช่วยเหลือคุณ ผมรู้ และคนที่เล่าให้ผมฟังก็สนิทกับผมด้วย
พ.ต.อ.สุชาติ : ขอความกรุณานิดหนึ่ง คุณพ่อผมเสียไปแล้ว
นายบัณฑิต : อันนี้ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อคุณนะ
พ.ต.อ.สุชาติ : จะช่วยเท่าไรคือ ทำบุญแล้วผมจะเอาเงินไปทำศาลาให้คุณพ่อ
นายบัณฑิต : ในซองเงินช่วย ปกติต้องระบุชื่ออะไร เพราะเจ้าภาพต้องจดไว้ ยิ่งคุณเฉลิมช่วย 2 แสนบาท ไฮไลต์มาก คุณจะต้องจำ ให้คุณเพื่อแลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่คุณให้ใช่ไหม คุณจะตอบไม่ทราบไม่ได้ แต่ผมจะขอเค้นหน่อยเอาความจริงมาพูด ศาลนี้ศักดิ์สิทธิ์นะ คุณสุชาติให้การเท็จไม่ได้
พ.ต.อ.สุชาติ : ผมไม่เข้าใจว่า ท่านเอาเรื่องงานศพพ่อผมมาเปรียบกับคดีนี้ได้อย่างไร ท่านควรให้เกียรติผมบ้าง
นายบัณฑิต : ผมไม่ได้กล่าวหางานศพพ่อคุณ ผมพูดคนทำบุญ ผมกำลังให้เกียรติคุณไง
นายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ : กระบวนการพิจารณาศาลให้เปลี่ยนคำถาม เพราะพยานไม่ทราบ แต่คุณต้องเปลี่ยนคำถาม ศาลเข้าใจคุณต้องการทำลายน้ำหนักพยาน แต่ขอให้เปลี่ยนคำถามใหม่ไม่ถามเรื่องนี้
นายบัณฑิต : จากการกระทำที่ท่านได้สอบสวนคดี ปชป.ฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและนำสำนวนนี้ไปเปิดเผยให้คุณเฉลิมตลอดจนเกี่ยวกับเรื่องที่คุณพูดกับนายประจวบ ขณะนี้ดีเอสไอได้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกับคุณแล้วใช่ไหมกลางเดือนสิงหาคมนี้
พ.ต.อ.สุชาติ : ผมเพิ่งทราบจากท่าน ใครแต่งตั้งสอบสวนผม
นายบัณฑิต : ผมเพิ่งทราบจากหนังสือพิมพ์
นายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ : อย่าทะเลาะกัน
ที่มา.มติชน
-----------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น