--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

ไอ้กร๊วก..นี่มัน"ทำเนียบรัฐบาล" หรือ "จูราสสิคพาร์ก"กันแน่ ?

หลังจากที่สื่อมวลชนพากันตีข่าวกันใหญ่โตเกี่ยวกับกรณีที่ทำเนียบรัฐบาลมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ครั้งใหม่อีกครั้งในวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา สื่อหลายสำนักเสนอพากันตีความว่าเป็นการปรับ "ฮวงจุ้ย" ให้รัฐบาล ที่กำลังฝ่าฟันมรสุมหลายอย่าง มีเสถียรภาพแข็งแรงอยู่รอดไปจนครบวาระ ซึ่งถ้าเป็นอย่างที่ตีความ ก็ไม่น่าเชื่อว่าท่านนายกรัฐมนตรี ที่เป็นถึงนักเรียนนอก จะยังคงเชื่อในเรื่องโชคลางและไสยศาสตร์ ทั้งที่รัฐบาลเองก็ยังมีเครื่องมือในการจัดการทางการเมืองอยู่หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยังมีกองทัพหนุนหลัง

ภาพที่เห็นครั้งแรกคือภาพของตึกสันติไมตรีและรังนกกระจอกใหม่ ที่เมื่อก่อนเคยโล่งเตียน มีเพียงต้นหญ้าขึ้นประปราย ได้กลายเป็นสวนขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ไทรอังกฤษ และไทรเกาหลีที่มีรูปทรงเป็นพุ่มสูง และต้นปาล์มยะวาที่สูงชะลูด ถูกปลูกอยู่อย่างประปรายไร้ระเบียบ จนนักข่าวประจำทำเนียบหลายคนพากันตั้งฉายาใหม่ให้แก่ต้นไม้เหล่านี้ว่า เหมือนในภาพยนตร์เรื่อง "จูราสสิคพาร์ก" หรือเหน็บแหนมว่าต้นไม้เหล่านี้ดูเหมือนกับ "เปรตวัดสุทัศน์ฯ" ที่มายืนอยู่ข้างรังนกกระจอก

นักข่าวประจำทำเนียบหลายคนคิดว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ในครั้งนี้ รัฐบาลมีจุดประสงค์สำคัญ เพื่อปรับฮ้วงจุ้ยตามความเชื่อ แต่นักข่าวแทบทุกคนไม่เชื่อว่าแม้จะมีการปรับฮวงจุ้ยจริง รัฐบาลจะมีความมั่นคงได้ ถ้าไม่สามารถทำงานตอบสนองความต้องการของประชาชน

นายจีรพงษ์ ประเสริฐพลกรัง ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวเนชั่น กล่าวว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งที่ 3 ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อปรับภูมิทัศน์ครั้งนี้ คิดว่าทำเนียบรัฐบาลมีความร่มรื่นมากขึ้น แต่ว่ามีปริมาณค่อนข้างหนาแน่นไปนิดหน่อยและไม่สวยงามเหมือนแต่ก่อน แม้กระทั้งตำรวจทำเนียบฯ ยังแซวว่า ถ้าจะเข้ามาในทำเนียบฯ ต้องมีเข็มทิศ ไม่เช่นนั้นอาจหลงป่าได้ ทั้งนี้ เชื่อว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องดวง เพราะว่ามีซินแสมากำหนดจุดใช้ปูนขาวโรยพื้นไว้เพื่อให้นำต้นไม้มาลง แต่เมื่อปรับแล้วจะสมประสงค์ตามความเชื่อหรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด น่าจะเป็นการที่รัฐบาลต้องทำงานรับใช้ประชาชนด้วยความจริงใจมากกว่า

ด้าน น.ส.เพ็ญพรรณ แหลมหลวง ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวไทย ให้ความเห็นว่า การมีต้นไม้เข้ามาก็ทำให้ทำเนียบน่าอยู่มากขึ้น ร่มรื่นมากขึ้น เป็นร่มเงาให้กับคนทำงาน แต่การที่รัฐบาลจะอยู่ได้หรืออยู่ไม่ได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นไม้ แต่อยู่ที่การบริหารงานมากกว่า

ขณะที่คนในรัฐบาล เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง มองว่าการปรับภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดวงหรือฮวงจุย แต่เกี่ยวข้องกับการทำให้ทำเนียบรัฐบาลมีความสวยงามมากขึ้นมากกว่า

นายสุเทพ กล่าวว่า การปรับปรุงภูมิทัศน์ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมือง เพียงแต่เป็นการทำให้ที่ทำการรัฐบาลดูดี เพราะต้องมีการต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองอยู่ตลอดเวลา เพียงแต่ทำให้ดูสวยงามไปตามสภาพ อย่าคิดมาก และตนไม่รู้เรื่องซินแสและฮวงจุ้ย ตนเชื่อในสิ่งที่เป็นวิทยาศาสตร์และพิสูจน์ได้ ขอยืนยันว่ารัฐบาลมั่นคงแข็งแรงดีทุกอย่าง

แม้นายสุเทพจะยืนยันว่ารัฐบาลยังมั่นคงแข็งแรงดีทุกอย่าง ใครจะแน่ใจได้ว่า จะไม่มีคลืนใต้น้ำอีกมากมายคอยซุ่มกระทบให้รัฐบาลนี้ล่มลงก่อนเวลาอันควร แต่ที่แน่นอนการปรับภูมิทัศน์ครั้งนี้ คนที่เหนื่อยหนักกว่าเดิมแน่นอน คงหนีไม่พ้น "คนสวน" ของทำเนียบรัฐบาลแห่งนี้นี่เอง

ที่มา.มติชนออนไลน์
*****************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น