ประชาชาติธุรกิจ
เมื่อ "ทักษิณ" คาดการณ์ว่า เปลี่ยน "หัว" เพื่อไทย จาก "ยงยุทธ" เป็น "พล.ต.อ.โกวิท" แล้วจะ "ไม่ได้อะไร" แลกเปลี่ยน
เมื่อแผนที่ 5 ฝ่ายในโครงสร้างกระดานอำนาจพลิกแผนการเคลื่อนไหวที่ต้องการถอย 5 ก้าวแบบ "ไม่แพ้" ทั้ง 2 ฝ่ายต้องถูกพับ
ไม่มีการเปลี่ยนหัวหน้า-เลขาธิการพรรค
ไม่มีการเบิกตัว "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" ออกจากคุกมาประชุมร่วมกับนายทหาร ฝ่ายเสนาธิการ แกนนำพันธมิตร และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ไม่มีการประกันตัวคนเสื้อแดงออกจากคุกเพื่อ "วัดใจ" ไม่ให้เคลื่อนไหวแลกกับเกมการถอนประกันตัว
ไม่มีการพิจารณา "ร่างนิรโทษกรรม" ให้กับคนบ้านเลขที่ 111 ในช่วงสิ้นปี เตรียมพร้อมลงรับสมัครเลือกตั้งสมัยหน้า
ไม่มีการพิจารณาจัดทัพรับเลือกตั้ง
แนวโน้มของความเป็นพรรคเพื่อไทย จึงกลับไปสู่การเคลื่อนไหวทางการเมือง "แบบเดิม"
ต้นแบบที่-ทุกคำสั่งลงนามมาจากนอกประเทศ เป็นคำสั่งที่ "อ้างถึง" ทักษิณ ชินวัตร
แม้การขับเคลื่อนโดย "ปลอดประสพ สุรัสวดี" คณะกรรมการบริหารพรรคก็ไม่มีความหมาย
แม้สัดส่วน ส.ส.ในกรรมการบริหาร จะมีตัวแทนจากทุกภาค ก็ไม่ได้สะท้อนความเป็น "ตัวแทน"
จึงมีความพยายามตั้งคณะกรรมการซ้อนขึ้นมาอีก 1 ชุด เรียกว่า "คณะสามสิบ" เพื่อรวบรวมกลุ่มนักการเมือง 111 และนักการเมืองอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน รวมกับตัวแทนจาก ส.ส.พรรคเพื่อไทยไว้เป็นกรรมการยุทธศาสตร์การเมือง
แบ่งเป็น ส.ส.จำนวน 15 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากคณะกรรมการประสานงานภาคต่าง ๆ อีก 15 คนเป็นตัวแทนจากกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาและผู้ทรง คุณวุฒิที่เป็นอดีต 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย อดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน แกนนำพรรคเพื่อไทย
องค์ประกอบ "คณะ 30" ประกอบด้วย นายวราเทพ รัตนากร นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และนายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นต้น
ขับเคลื่อนควบคู่คณะกรรมการประสานภารกิจพรรคเพื่อไทย ที่มี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นประธาน
ภายใต้การบริหารจัดการจากพี่น้องในตระกูล "ชินวัตร" อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายพายัพ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
ชื่อ "พล.ต.อ.โกวิท" จึงถูกตัดออกไปจากสารบบการปรองดอง เพราะปากคำ "ทักษิณ" ที่ถูกคณะ ส.ส.ที่ใกล้ชิด "อ้างถึง"
ความว่า "พ.ต.ท.ทักษิณได้พยายามชี้แจงว่า ควรจะให้ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ที่ลาออกไป กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม มากกว่าที่ให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เพราะอาจเกิดปัญหาขึ้นภายในพรรคตามมา หลังเกิดกระแสความไม่พอใจจากหลายกลุ่มในพรรค ขณะเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท ก็มีข้อเสียในเรื่องของมนุษยสัมพันธ์ ไม่แน่ใจว่าทนแรงเสียดทานทางการเมืองได้มากน้อยแค่ไหน"
ส.ส.กลุ่มปากน้ำ-อ้างว่า "มีคนมาพูดเรื่องนี้เยอะ ก็เป็นห่วงว่าจะเกิดความแตก แยกลุกลามออกไป สถานการณ์การเมืองวันนี้ จำเป็นต้องปรองดองทั้งในและนอกพรรค เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาแล้ว"
ข้อความ-คำพูดของ "ทักษิณ" ที่ถูก เผยแพร่ในพรรค ยังเพิ่มเติมสำทับว่า "ไม่ขัดข้อง หากใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค ขอให้พรรคเดินหน้าต่อได้ และช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดความปรองดอง นายยงยุทธก็ยังทำงานได้ดีอยู่"
คำสั่ง-ทักษิณฝากผ่าน ส.ส.ที่เป็นพาหะข่าวบอกว่า "เป็นห่วงสถาบันและประเทศมากกว่าชีวิตของตัวเอง อยากเห็นความ ปรองดอง และพร้อมทำทุกอย่างให้เกิดความปรองดองขึ้นในบ้านเมือง ให้ ส.ส.ทุกคนช่วยเดินหน้าสร้างความปรองดอง หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ก็จะช่วยคิดนโยบายหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยไปช่วยเหลือประชาชน เพราะทนเห็นชาวบ้านเดือดร้อนไม่ได้"
คำสั่งที่เคยมีก่อนหน้านี้ 72 ชั่วโมง จากกลางกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ที่เคยบอกผ่านไปถึงรัฐบาล-กองทัพ ว่า 1.เปลี่ยนหัวหน้าพรรคที่สะท้อนภาพจงรักภักดี 2.ปรับโครงสร้างพรรค 3.สั่ง ส.ส.เพื่อไทยห้ามขึ้นเวที "ล้มเจ้า" 4.ลดบทบาทคนในตระกูล "ชินวัตร" 5.ห้ามปราม ส.ส.เสื้อแดง-จตุพร พรหมพันธุ์ หยุดเคลื่อนไหว
แลกกับรัฐบาล-อภิสิทธิ์ที่ต้อง 1.แผนปล่อยตัวแกนนำเสื้อแดง 2.ตั้งวงเจรจากับ 5 ฝ่าย กองทัพ-รัฐบาล-พันธมิตร-เสื้อแดง-เพื่อไทย 3.จัดทำร่างข้อตกลงนิรโทษกรรมเฉพาะกลุ่ม 111 4.ร่วมร่างแผนเลือกตั้ง และ 5.ต่างฝ่ายต่างถอยไปอยู่ในที่ตั้ง
องค์คณะที่เจรจาบนโต๊ะกลางกรุงเทพฯ ทั้งจาตุรนต์ ฉายแสง-พงศ์เทพ เทพกาญจนา-ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร- ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ และปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ตั้งต้น-เดินแผนปรองดองอย่างเป็นขั้นตอนตามกฎหมายถูกล้มโต๊ะข้ามโลก
ทุกความขัดแย้งทางการเมือง ยังดำรงอยู่ต่อไป "ทักษิณ" ยังเอื้อมมือที่มองเห็น เข้ามาจัดฉากในพรรคเพื่อไทยต่อไป
ทุกแผนปรองดองที่ถูกเตรียมปฏิบัติการ กลับไปสู่จุด set zero
*********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น