--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

‘ป๊อก’ภาคอวตาร?

นักเลือกตั้งเล่นบทอึมครึม เซียนเขี้ยวการเมืองสับขาหลอก เดินสายปรองดอง ด้วยลีลา “ตีปลาหน้าไซ” ถางขาหยั่ง “เหยียบเรือสองแคม” ประหนึ่ง หวังรักษาพื้นที่ผลประโยชน์ ลดความเสี่ยง สกัดไม่ให้ดุลอำนาจทะลักออกจากมือ

สถานการณ์ทางการเมืองรูปแบบแปร่ง บังเกิดขึ้นแบบรายวัน สารพัดความร้าวฉานผ่านข้อพิพาทต่างๆ นานา หลุดออกมาให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน จู่ๆ อาวุธยุทโธปกรณ์ล็อตใหญ่หายไปจากค่ายทหารเมืองลพบุรีอย่างไม่มีเงื่อนงำ วันต่อมาระเบิดดังโครมครามสนั่นย่านราชวัตร ประติดประต่อเหตุการณ์ ไปๆ มาๆ สุดท้ายไม่มีอะไรในก่อไผ่

“ท่าน ผบ.ทบ.ป๊อก อนุพงษ์ เผ่าจินดา” เทก แอ็กชั่นขีดเส้น 8 วัน ไล่ล่าแมวขโมย ท่ามกลางอาการคิดดังๆ ของ “นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ผ่านวาทกรรม “เกลือเป็นหนอน”

ก่อนฉากการเมืองจะตัดสลับมาที่ศึกสายเลือด “น้ำเงิน-ฟ้า” ท่านผู้นำเตะตัดขาว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยจอมค้ำถ่อ “มงคล สุระสัจจะ” ด้วยการตั้งคณะกรรมการสอบกรณีคอมพ์ฉาวกระทรวงมหาดไทย ยื้อเวลาขึ้นแท่น “ท่านปลัดฯ” ออกไปอีกเดือน

เปิดช่องให้ “ทีมงานไวกว่าแสง” เหน็บแนมประชาธิปัตย์ กระทบชิ่งวาระเข็น “พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม” ขึ้นแท่น ผู้ช่วย ผบ.ตร. ทั้งๆ ที่ยังมีชนักปักหลัง สองมาตรฐานแม้กระทั่งในซีกรัฐบาล กลายเป็นข้อพิพาทที่ พูดกันอย่างกว้างขวางและสนุกปากในแวดวงสภากาแฟ

ละครสั้นตัดฉากว่องไวปานกามนิตหนุ่ม คล้อยหลัง พูดไม่ทันน้ำลายบูด “นายตำรวจใหญ่” ผู้ที่ “ซาอุดีอาระเบีย” ไม่ปลื้ม ยอมยกธงขาวประกาศไม่รับตำแหน่ง ที่เผอิญเกิดขึ้นในวันเดียวกันกับการประกาศเลื่อนวันลงมติเชือด “ปู่จิ้น-ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในกรณีเมียและลูกถือหุ้นบริษัทที่มีเอี่ยวกับงานประมูลสัมปทานรัฐ

อีกหนึ่งความบังเอิญ คือ บังเอิญที่ “ครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ” เดินหน้าล่าชื่อการออกกฎหมายนิรโทษกรรม โดยไม่แยแสเสียงค้านจากพรรคอันดับหนึ่งอย่างประชาธิปัตย์ แต่บังเอิญไปกว่านั้น คือการปล่อย “คาราวานปรองดองฉบับปลาไหล” ผ่าน “โรดแมปชาละวัน” ของ “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์” ที่ดำเนินคู่ขนานไปกับการชูธงหนุน “ภารกิจนิรโทษกรรม” ของพรรคภูมิใจไทยอย่างมีนัยยิ่ง???

ประติดประต่อเหตุการณ์ภายในซีกรัฐบาล เปิดหน้าซัดกันนัวเนีย โดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยภายนอกจาก พรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วมต้มยำทำแกง แว่วเสียงเอ็ดตะโรที่ดังขึ้น ฟังไปแล้วคล้ายเป็นลางบอกเหตุว่างานเลี้ยง “เทพประทาน” ใกล้ถึงกาลเวลาเลิกรา แต่หากมองไปที่เค้กงบประมาณปี 54 ที่ซีกพรรคร่วมยังไม่ได้ร่วมหม่ำสักสตางค์แดงเดียว มันยิ่งทำให้เกิดอาการสับสนทางความคิดถึงหงุดหงิดทางจิตใจ

ว่าเหตุแห่งความบาดหมางของคนกันเอง มันเกิดจากวาระ “สะตอจอมเขี้ยว” หรือ “สตอเบอร์แหล???”ปริศนาจะไปจบลงตรงไหน จับชีพจรได้ไม่ยาก อ่านทางกันง่ายๆ เช็กได้จากโหงวเฮ้ง “ท่านผบ.ทบ.ป๊อก” ในห้วงลักคนาตุลาฯ อาถรรพ์ ทำนายทาย กันว่า หากวันสิ้นสุดชีวิตราชการทหาร เป็นวันอวตารเกิดใหม่ของ “บิ๊กป๊อก” ในร่าง รมช.กลาโหม หรือ รมว.มหาดไทย

สุดท้ายมันย่อมมีคำตอบอยู่ในตัวของมันเองว่า ฝ่ายกุมอำนาจประเทศ แม้จะทั้งรักทั้งเกลียดกันปานใด แต่ก็ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เพราะผลประโยชน์ที่เคลือบฉาบมันยิ่งใหญ่เกินกว่ามิจฉาทิฐิของฝ่ายกุมอำนาจประเทศ จะยอมตัดใจจากได้!!!

ส่งผลให้ในท้ายที่สุด กลุ่มผลประโยชน์เหล่านี้จึงต้องจำยอมกล้ำกลืนรวมเป็นเนื้อเดียว กัน ด้วยอาการปากมัน แล้วค่อยว่ากันใหม่ก่อน ถึงโค้งอันตรายยุบพรรค

ที่มา.สยามธุรกิจ
************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น