--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

หึ่ง!ลานจอดรถสุวรรณภูมิ พาณิชย์โดดอุ้ม-GENจ่อถอนหุ้นขอคืน40ล.

ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ

ปมฉาวสัมปทาน "ลานจอดรถสุวรรณภูมิ" บานปลาย "รมว.โสภณ" อ้างไม่ยุ่ง "ปิยะพันธ์" อึกอักไม่อยากตอบ ขณะที่ "สำนักงานทะเบียนธุรกิจการค้า" ทำพิลึก นายทะเบียนมีอำนาจเหนือ ผอ.สำนักงาน "เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียน" คู่กรณี ทอท.บริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ จำกัด ส่วน GEN ผู้ร่วมทุนจ่อถอนหุ้น 40 ล้าน

นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการสัมปทานลานจอดรถในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) "ทอท." ขัดแย้งอยู่กับเอกชนที่ได้งานนั้น ตนไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยว ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการชุดนายปิยะพันธ์ จัมปาสุต เป็นประธาน ควบคุมดูแลการทำงานร่วมกับฝ่ายบริหาร โดยต้องป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแก่องค์กร ส่วนรายละเอียดและวิธีการจะต้องไปดำเนินการกันเอง และผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับการแสดงข้อมูลทั้งหมด

ขณะที่นายปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการ ทอท. กล่าวว่า ยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลรายละเอียดหรือการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการสัมปทานลานจอดรถอาคารเอและบีในสนามบินสุวรรณภูมิ ขนาดพื้นที่ 1.6 แสนตารางเมตร

ต่างจากเหตุการณ์แถลงข่าวมติที่ประชุมคณะกรรมการวันจันทร์ที่ 6 กันยายนที่ผ่านมา ครั้งนั้นประธานคณะกรรมการเอ่ยถึงเรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ ว่า สัมปทานลานจอดปัจจุบันที่ทำกันอยู่ในอาคารเอและบี ระหว่าง ทอท. กับบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ จำกัด ยังไม่มีข้อยุติใด ๆ

อีกทั้งเป็นกรณีแตกต่างกันกับการยกเลิกสัมปทานโครงการสุวรรณภูมิสแควร์ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณารายได้ ทอท. ที่มีนายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็นประธาน อนุมัติให้นำที่ดินลานจอดรถระยะยาว (longterm parking) 62,380.50 ตารางเมตร ให้บริษัท แป้งร่ำ รีเทล จำกัด ซึ่งไม่เคยมีใครรู้จัก แถมผลการดำเนินงานมีกำไรปีละแค่ 1,200 บาท เข้าบริหารการลงทุนสูงถึง 450 ล้านบาท นานถึง 15 ปี โดยไม่ได้นำหารือหรือขอมติเข้าที่ประชุมบอร์ดแต่อย่างใด จึงยกเลิกได้อย่างรวดเร็วเพราะขัดนโยบาย

ความเคลื่อนไหวหลังจาก นำเสนอเอกสารหลักฐานสัมปทานโครงการลานจอดรถอาคารเอและบีสุวรรณภูมิ ที่นางพิมลวรรณ คชเดช ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1 นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กระทรวงพาณิชย์ อ้างอิงเอกสารหมายเลข 1 ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2553 เรื่อง "คำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียน" เรียน นายธรรศ พจนประพันธ์ และนายธนกฤต เจตกิตติโชค กรรมการ บริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งหลักฐานนี้ได้นำส่งมายังคณะกรรมการพิจารณารายได้ ทอท.

ในเอกสารเพิกถอนการจดทะเบียนระบุว่า อ้างถึงคำขอจดทะเบียน คำขอที่ 81530423-05 วันที่ 23 เมษายน 2553 ตามอ้างถึงการยื่นคำขอจดทะเบียแก้ไขเพิ่มเติมจำนวนหรือชื่อกรรมการซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัท และแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณฑ์สนธิข้อ 3 (วัตถุที่ประสงค์) ของบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ จำกัด ทะเบียนเลขที่ 0105553045168 ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร และนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2553 นั้น บัดนี้นายทะเบียนได้มีคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียนคำขอดังกล่าวแล้ว รายละเอียดตามปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย ทั้งนี้หากผู้ใดไม่เห็นด้วยมีสิทธิอุทธรณ์ต่อนายทะเบียนผู้ออกคำสั่งภายใน 15 วัน

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2553 เอกสารดังกล่าวถูกเปิดเผยสู่สาธารณะโดยเป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง มีผู้บริหารและเจ้าของสนามบินพาณิชย์หลายคนวิเคราะห์ว่า การทำสัญญาเพื่อให้สัมทานของ ทอท. กับบริษัทที่ถูกเพิกถอนการจดทะเบียนบริษัทนั้น จะสร้างความเสียหายแก่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะสุวรรณภูมิเป็นสนามบินนานาชาติของประเทศและคนไทย

จากนั้นอีกเพียงวันเดียวคือ 14 กันยายน 2553 สำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ที่ (1) 4/2553 มีเอกสาร เรื่อง "เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียน" จากกระทรวงพาณิชย์ (ซึ่งอยู่ในความดูแลของ นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) สั่ง ณ วันที่ 14 กันยายน 2553 โดยนางสาวสุรีย์ ศรีภักดี นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1 เพิกถอนคำสั่งของนางพิมลวรรณ คชเดช ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1

เอกสารเพิกถอนคำสั่งเพิกถอนจดทะเบียนดังกล่าวสร้างความสับสนแก่หลายฝ่ายใน ทอท.ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหน่วยงานและสัมปทานลานจอดรถสุวรรณภูมิ รวมทั้งมีการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับเอกสาร "เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนการจดทะเบียน" ครั้งหลังสุดวันที่ 14 กันยายน 2553 นั้น ดำเนินการโดยนายทะเบียนธุรกิจการค้าคนหนึ่ง เหตุใดจึงมีอำนาจลงนามเพิกถอนคำสั่งของผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า ครั้งแรกเมื่อ 23 กรกฎาคม 2553 ได้

นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในกรณีของบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ ทางกรมได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตจริง เนื่องจากมีการร้องเรียนจากนายธรรศ พจนประพันธ์ ว่า มีการลงนามปลอมแปลงของบริษัทแบบไม่ชอบธรรม หลังจากนั้นนายธนกฤต เจตกิตติโชค มายื่นอุทธรณ์คัดค้านการเพิกถอนดังกล่าว ดังนั้นตามกระบวนการทางกรมจึงต้องชะลอคำสั่งเพิกถอนในครั้งแรกออกไปก่อน

โดยให้ทั้ง 2 ฝ่ายไปฟ้องร้องพิสูจน์กันในชั้นศาลให้เรียบร้อยก่อน หากศาลมีการสืบพยาน หรือพิสูจน์ได้ว่ามีการปลอมแปลงลงนามเอกสารจริง ตามที่ฝ่ายแรกยื่นฟ้องร้องมา ทางกรมก็จะเพิกถอนใบอนุญาตการจดทะเบียนบริษัททันที พร้อมกับจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ปลอมแปลงเอกสารด้วย

"กรณีที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดกับบริษัทปาร์คกิ้ง เป็นรายแรก ปัจจุบันมีคดีที่ฟ้องร้องค้างอยู่ที่กรมถึง 218 เรื่องแล้ว ทางกรมก็ให้ไปเคลียร์กันในชั้นศาลให้เรียบร้อยก่อน กรมจะดำเนินการในอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ได้" นายบรรยงค์กล่าว

อย่างไรก็ตามตามระเบียบการยื่นคัดค้านการจดทะเบียนบริษัทนั้นกำหนดไว้ภายใน 15 วัน แต่เป็นที่น่าสังเกตุว่าการเพิกถอนครั้งแรกเมื่อ23 กรกฎาคมนั้น หลังเหตุการณ์ได้ผ่านไปแล้วถึง 3 เดือน การเพิกถอนครั้งที่ 2 หลังเหตุการณ์ผ่านไปแล้วกว่า 2 เดือนเช่นกัน

ต่อมาเมื่อ 16 กันยายน 2553 บริษัท เจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GEN ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า เมื่อ 27 เมษายน 2553 เคยแจ้งข่าวผ่านเว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตามจดหมายเลขที่ ตล.011/2553 ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติให้ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ จำกัด 400,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 40 ล้านบาท โดยจ่ายชำระเงินค่าหุ้นล่วงหน้าไป 20 ล้านบาท เพื่อให้บริษัท ปาร์คกิ้งฯ นำไปเป็นหลักประกันการออกหนังสือค้ำประกันของธนาคารแห่งหนึ่ง เพื่อให้สามารถทำสัญญากับ ทอท.รับสิทธิบริหารที่จอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ

จากข้อมูลดังกล่าวทางบริษัท เจเนอรัล เอนจิเนียริ่ง จำกัด ขอชี้แจงตลาดหลักทรัพย์ฯว่า การลงทุนซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ จำกัด ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาว่าจะลงทุนเพิ่มเติมหรือขอเงินล่วงหน้าค่าหุ้นจองคืน 20 ล้านบาท โดยจะทำให้ชัดเจนภายในกันยายนนี้ แล้วจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบแนวทางต่อไป

นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ และนายนิรันดร์ ธีรนาถสิน ผู้อำนวยการสุวรรณภูมิ ซึ่งคณะกรรมการมีมติให้ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง เริ่ม 1 ตุลาคมนี้ ปรากฏว่าผู้บริหาร ทอท.ทั้ง 2 คน ไม่ปริปากเอ่ยถึงแนวทางที่จะดำเนินการกับบริษัท ปาร์คกิ้ง แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งยังคงเก็บเงินสดในลานจอดสุวรรณภูมิวันละเกือบ 1 ล้านบาท โดยไม่ส่งให้เจ้าของพื้นที่คือ ทอท.แม้แต่บาทเดียว แถมยังฟ้องดำเนินคดีเพื่อเอาผิด ผอ.นิรันดร์ ศาลชั้นต้นนัด 27 กันยายนนี้
*******************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น