--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2553

“เป็ด”ชรา อย่าอาวรณ์!!

อายุ65! ได้เวลากลับบ้าน!!
บรรดาผู้ครบเกษียณอายุราชการทั้งในอดีตและปัจจุบัน หนีไม่พ้นที่ต้องอุทานว่าเหลือเชื่อ และอดอิจฉาลึกๆในใจไม่ได้

ก็ขนาดคนที่กุมอำนาจกองทัพ คุมตำรวจนับแสนๆคน เมื่อถึงเวลาอายุครบตามกฎหมายกำหนด จะเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะเป็น พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จะอยากลุกจากเก้าอี้หรือไม่อยากลุก เพราะอยากครองตำแหน่งต่อ

หรืออยากที่จะอยู่เพื่อให้ได้เป็นผบ.ตร.ตัวจริงเสียก่อน แต่พออายุครบ 60 ปุ๊บ 30 กันยายนปั๊บ ก็ต้องเกษียณอายุราชการในวันที่ 1 ตุลาคมในทันที

โยกโย้ โยเย หรือยึกยื้อเก้าอี้ไม่ได้เด็ดขาด

แต่ปรากฏการณ์เหนือปาฏิหาริย์ ชนิดที่ไม่เคยมีหรือเคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อน ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว และทำให้เห็นถึงมาตรฐานในยุคปัจจุบันว่ามีมากน้อยเพียงใด

ดับเบิ้ลสแตนดาร์ดหรือไม่???

นั่นก็คือคำแหน่ง ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือ ผู้ว่าการ สตง. ซึ่งคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา นั่งผงาดคุมเก้าอี้อยู่

ตามกฎหมาย สตง. เมื่อผู้ว่า สตง.อายุครบ 65 ปี ก็ต้องเกษียณอายุราชการ

วันนี้ คุณหญิงจารุวรรณ หรือคุณหญิงเป็ด อายุครบ 65 ปีเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีใครกล้าบอก หรือกล้ากระซิบสักแอะว่า ให้คุณหญิงเป็ดเกษียณอายุเถอะ...

นิ่งอมพะนำกันโดยถ้วนหน้า

เหตุผลทั้งหลายทั้งปวง ก็เพราะการไปยึดว่า คุณหญิงเป็ดถูกแต่งตั้งขึ้นมาโดยกฎหมายพิเศษนั่นคือโดยคำประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน หรือ คปค. ทั้งๆที่ คปค.ก็หายสาบสูญ แปลงสภาพไปเป็น คมช. เรียบร้อยเนิ่นนานแล้ว

แม้แต่ประธาน คมช. อย่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็ยังไปเวียนว่ายตายเกิดบนถนนการเมืองมาหลายรอบแล้วเช่นกัน

ไม่น่าเชื่อว่ายังมีคนยึดติดที่จะใช้อำนาจ คปค. เป็นเกราะให้คุณหญิงเป็ดนั่งเป็นผู้ว่าการ สตง. ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องแคร์กติกาเรื่องอายุครบ 65 ปีแล้ว

ล่าสุดแม้แต่ นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ยังออกตัวเกี่ยวกับความล่าช้าในการสรรหาผู้ว่า สตง. แทนคุณหญิงจารุวรรณ ว่า คณะกรรมการสรรหาผู้ว่า สตง.ที่มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ได้ประชุมแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะติดขัดในข้อกฎหมาย

เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ที่วุฒิสภาลงมติไปโดยเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งร่างดังกล่าวจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร

ซึ่งนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาฯรับปากต่อที่ประชุม ว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์ที่ 2 เมื่อเปิดสมัยประชุมสภานิติบัญญัติ หากสภาผู้แทนราษฎรยืนยันร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว รัฐบาลก็หยิบยกขึ้นมาประกาศใช้ได้ใน 180 วัน

แต่หากไม่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวก็ตกไป ต้องนำเสนอมาใหม่

ในส่วนของ สตง.เองได้ทำหนังสือมายังตนเพื่อสอบถามในกรณีดังกล่าว รวมทั้งแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ได้ทำหนังสือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า คุณหญิงจารุวรรณ ยังคงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่

นายประสพสุข กล่าวว่า คณะกรรมการสรรหาฯไม่ได้ล่าช้า แต่เมื่อกฎหมายไม่ออกจะทำอย่างไร ถ้ามีกฎหมายบังคับใช้ก็คงไม่มีปัญหา เพราะกรรมการสรรหา พร้อมที่จะดำเนินการสรรหาอยู่แล้ว บางคนบอกว่าสรรหาได้เลย แต่บางคนก็บอกว่ายังทำไม่ได้ เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะตีความ ซึ่งไม่มีใครตอบข้อสงสัยได้

ทางที่ดีก็คือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพื่อให้เป็นข้อยุติผูกพันทุกองค์กร
โยนกลองไปเป็นว่า ให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้สินิจฉัยดีกว่า

แต่นายประสบสุขก็ยอมรับเองว่าเรื่องที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้น ต้องเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร แต่เรื่องนี้ถามว่าเป็นความขัดแย้งระหว่างใครกับใคร ต้องตอบให้ได้ และ ต้องหาคู่ขัดแย้งเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

งานนี้จึงเท่ากับนายประสพสุขชิ่งหนีเอาดื้อๆว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเป็นแค่ตัวกลางหรือเป็นเพียงฝ่ายเลขานุการทำหน้าที่นัดประชุมกรรมการสรรหาเท่านั้น ไม่มีอำนาจทำอย่างอื่น

สุดท้ายจึงกลายเป็นว่า สตง.ก็กลายเป็ดง่อยไปเรื่อยๆ เพราะคุณหญิงเป็ดจะมานั่งทำงานก็กระดาก เนื่องจากมีคนจับตามองไปทั่วว่าจะกล้ามานั่งทำงานหรือไม่

โดยเฉพาะคุณปลื้ม หรือ ม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุลที่ประกาศหรากลางรายการทาง Voice TV ว่าจะไปดูที่ สตง. ว่าคุณหญิงจารุวรรณมานั่งทำงานหรือไม่???

จริงๆ แล้ววันนี้ คุณหญิงเป็ดนั่นแหละคือผู้ที่สามารถจะถอดสลักคำครหาในสังคมได้ดีที่สุด ด้วยการตัดสินใจยื่นใบลาออกด้วยตนเอง
เพราะในโลกนี้ไม่มีกฎหมายใด ที่จะห้ามคนไม่ให้ลาออกจากตำแหน่งได้

ถ้าคุณหญิงเป็ดตัดสินใจให้เด็ดขาด ยึดเจตนารมณ์ของกฎหมาย สตง.ปกติเป็นเกณฑ์ ว่าไม่ว่าใครก็ตามเป็นผู้ว่า สตง. อายุครบ 65 ปี ก็ต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านด้วยกันทั้งนั้น

อย่าได้บอกว่า เป็นห่วง สตง. หรือกลัวว่า สตง.จะไม่มีคนทำงานต่อไปได้ เพราะหากเป็นแบบนั้น คุณหญิงเป็ดมิต้องอยู่ไปจนหงำเหงือกเลยหรือ

ที่สำคัญเป็นการดูถูกคน สตง. ตั้งแต่ระดับ รองผู้ว่าการ เรื่อยลงไป ว่าไม่มีความสามารถที่จะทำงานได้ถ้าไม่มีคุณหญิงเป็ด... ซึ่งแน่นอนว่าไม่จริงแน่นอน

ย้ำนักย้ำหนา กรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี วันนี้คุณหญิงเป็ดสามารถตัดสินใจลาออกได้เอง แล้วให้รองผู้ว่า สตง.ขึ้นมารักษาการดูซิว่า จะทำได้หรือไม่???

ถ้าคุณหญิงเป็ด ซึ่งที่ผ่านมาเน้นการสร้างภาพลักษณ์ในแง่ของคนเคร่งครัดต่อกฎหมาย ครั้งนี้ก็น่าจะเคารพกฎหมายปกติ

แต่หากยึดติดยึดมั่นถือมั่นกับอำนาจรัฐประหารที่แต่งตั้งขึ้นมา... ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งลาออกเถอะ ไม่ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความหรอก
ความสง่างามนั้นหาซื้อไม่ได้ ... ถ้าอยากได้ต้องประพฤติปฏิบัติให้สง่างามที่แท้จริงเท่านั้น
ทาง 2 แพร่งนี้... คุณหญิงเป็ดต้องเลือกแล้วล่ะ

ที่มา.บางกอกทูเดย์
............................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น