ประชาชาติธุรกิจ
ปรากฏการณ์-สัญญาณความ ขัดแย้งเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ มักชัดเจน เสียงดัง และเป็น รูปธรรม ในช่วงที่ฝ่ายนิติบัญญัติพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี
แม้กระทั่งสมัยที่ไทยรักไทยเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ก็ยังมีเสียงตะโกนจาก ส.ส.ภาคต่าง ๆ เรื่องการจัดสรรงบประมาณลงพื้นที่ แบบฝนตกไม่ทั่วฟ้า
ในยุคพรรคร่วมรัฐบาลมีตัวหาร พรรค และมี ส.ส.แปรพักตร์จากฝ่ายค้านเข้าร่วมสังฆกรรม ยิ่งทำให้การพิจารณาจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ได้ทั่วฟ้าน้อยลง
โควตา-จำนวนเสียง-พื้นที่สำหรับเสียงโหวตงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2554 จาก 7 พรรค 285 เสียง ในฝ่ายรัฐบาล กับ 2 พรรคฝ่ายค้าน จึงถูกเรียกขานชื่อแทบทุกสัปดาห์ เพื่อทบทวน "ตารางเงิน" ในงบประมาณ
ทั้งจาก พรรคประชาธิปัตย์ 172 คน
พรรคภูมิใจไทย 32 คน
พรรคเพื่อแผ่นดิน 32 คน (รวมเสียง ที่เคยโหวตไม่ไว้วางใจ)
พรรคชาติไทยพัฒนา 25 คน
พรรครวมชาติพัฒนา 9 คน
พรรคกิจสังคม 5 คน
พรรคมาตุภูมิ 3 คน
รวมกับเสียงของ ส.ส.ที่แปรพักตร์เปลี่ยนขั้วมาจากพรรคเพื่อไทย 5 คน และจากพรรคประชาราชอีก 2 คน
พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 7 อาจไม่ส่งเสียงคร่ำครวญเรื่องพื้นที่ได้งบประมาณน้อย แต่สำหรับพรรคใหม่-กระแสยังไม่ติดหู แถมมีคู่ขัดแย้ง เป็นศัตรูหมายเลข 1 ของ "ทักษิณ ชินวัตร" ต้องผลักให้ "ภูมิใจไทย" ต้องดิ้นรน สร้างทั้งกระแส และเพิ่มกระสุน
ตัวเลขที่ปรากฏในตารางงบประมาณ และมติคณะรัฐมนตรีที่ "อนุมัติเพิ่ม" งบประมาณให้กระทรวงภายใต้การกำกับของพรรคภูมิใจไทย ทั้งมหาดไทย-คมนาคม-พาณิชย์-สาธารณสุข-เกษตรฯ กลายเป็น "ใบเสร็จ" ที่ชัดแจ้ง เรื่องการกระชับ "ความเหลื่อมล้ำ" ในพรรคร่วมรัฐบาล
ในขณะที่กรรมาธิการพิจารณาปรับตัวเลขงบประมาณใหม่อีก 33,449 ล้านบาท ก่อนจะมีการพิจารณางบประมาณ ในวาระ 2 และ 3 ระหว่างวันที่ 18-19 สิงหาคม
ตัวเลขไปปรากฏที่กระทรวงมหาดไทยได้รับงบฯเพิ่มมากสุด 8,970 ล้านบาท
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ของอธิบดี "ไพรัตน์ สกลพันธุ์" ได้จัดสรร 8,142,110,500 บาท ในนามงบพัฒนาจังหวัด และต่อท่อไปถึงการจัดสรรใน องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในชื่อ "เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ"
มีพื้นที่ถูกระบุไว้ใน "แผนที่-ภูมิใจไทย" อาทิ อบจ.ปทุมธานี ที่มีชื่อ-คนสีน้ำเงิน "ชาญ พวงเพ็ชร์" เป็นนายก อบจ. รวม 2 รายการ 58,170,000 บาท เพื่อสร้างโครงการสวัสดิการการเรียนรู้ และสร้างถนน
และ อบจ.พะเยา อีก 15 โครงการ อาทิ "สร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก" มูลค่า 2,457 ล้านบาท แบ่งเป็น 8 โครงการ อยู่ในพื้นที่ อ.ดอกคำใต้ เพื่อทดสอบ-โน้มน้าวจิตใจคนในตระกูล "ตันบรรจง" แห่งพรรคเพื่อไทย
ในภาคกลาง เน้นลงที่ อบจ.ลพบุรี ของนายก อบจ.ชื่อ "สุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช" หนึ่งในสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ได้รับจัดสรร "ปรับปรุงถนนลาดยางผิวถนน" 14 โครงการ มูลค่า 304 ล้านบาท
ภาคเหนือติดอีสาน อย่าง อบจ.เลย ผ่านการพิจารณา 10 โครงการ มูลค่า 163 ล้านบาท อบจ.ศรีสะเกษได้ไป 82 ล้านบาท
ย่านอีสานใต้ ที่ อบจ.สุรินทร์ พื้นที่สีน้ำเงิน ของอาจารย์ใหญ่-เนวิน ชิดชอบ ได้รับการจัดสรร-ในตาราง 9 โครงการ วงเงิน 140 ล้านบาท ส่วน "นอกตารางงบฯ" จะพิจารณาในภายหลัง
นอกจากนั้น ก็มี อบจ.สายประชาธิปัตย์ อาทิ อบจ.ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, กระบี่, ยะลา, อุบลราชธานี ที่ถูกอนุมัติ แต่อยู่ในระดับตัวเลขไม่เกิน 100 ล้านบาท
พวกพื้นที่สีแดง ได้รับการจัดสรรพอเป็นกระสาย อาทิ อบจ.เชียงราย ได้รับ 10 ล้านบาท อบจ.นครพนม 17 ล้านบาท และ อบจ.นครราชสีมา พื้นที่ของ พรรคเพื่อแผ่นดิน และรวมชาติพัฒนา ได้รับ 13 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่แดงแท้ อย่างเชียงใหม่, ชลบุรี, เชียงราย, อุดรธานี ไม่มีรายการในตารางงบประมาณ
ตัวแทนจากปีกขวา "ภูมิใจไทย" นาง พรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แบ่งรับ-แบ่งสู้ในภาวะ "ร่วมกันเดิน-แยกกันตี" กับพรรคประชาธิปัตย์
เธอบอกว่า "เรื่องงบประมาณ ถ้าถามว่า งบประมาณมาพรรคภูมิใจไทยไม่น้อย ไม่จริงล่ะมั้ง เพราะกระทรวงพาณิชย์ยังโดนตัดยุบตัดยับ กว่าจะได้..."
ตัวแทน-สาย สมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะคนในพรรคร่วม ชี้แจงว่า "จริง ๆ ทุก ๆ พรรคก็อาจจะเหมือน ๆ กัน เพียงแต่ฝ่ายค้านอาจจะบอกว่า โหย...ไปลงของพรรคภูมิใจไทยเยอะ ความจริงเป็นเพราะพรรคภูมิใจไทยดูกระทรวง เช่น คมนาคม มันหนัก ๆ ทั้งนั้นเลยนะ ถนนทำทีหนึ่ง ไม่ใช่หลักหมื่นบาท แต่เป็นล้านเลย นอกจากกระทรวงคมนาคม ก็มีกระทรวงมหาดไทย มันทั้งประเทศเลยล่ะ หรือแม้แต่พาณิชย์ ซึ่งพาณิชย์ไม่ได้อยู่ในเป้า เพราะไม่ได้เยอะอยู่แล้ว"
คำชี้แจงของจำเลยพรรคร่วมคือ "แม้ตรงนี้ดูเหมือนเยอะ แต่มันเป็นภารกิจงาน แต่จริง ๆ ไม่ได้เยอะ เพราะไอ้โน่นก็ตัด ไอ้นี่ก็ตัด ไม่ได้เยอะเท่าไหร่หรอก เพราะถ้าเยอะจริง ก็ต้องเยอะกว่านี้"
คำมั่นสัญญาในการโหวตวาระสำคัญ จึงถูกประกาศล่วงหน้าจากปาก"พรทิวา" ว่า
"ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ไม่ได้มีปัญหาอะไร และเรื่องการโหวตงบประมาณ ทางพรรคภูมิใจไทยก็ช่วยดูอยู่แล้วว่า ให้เป็นไปในแนวทางที่เราพร้อมให้ความสนับสนุนเรื่องงบประมาณให้ผ่าน เพื่อว่าจะได้จบตรงนี้ เงินจะได้ออกมาพัฒนาบริหารประเทศ"
เธอหัวเราะ เมื่อถูกถามว่า พรรค ประชาธิปัตย์ได้งบประมาณมากอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ ก่อนจะตอบว่า
"ไม่รู้เหมือนกัน...เพราะเขาดูหลายกระทรวงมั้ง มันก็เลยดูเหมือนเยอะ"
ความเคลื่อนไหวทางการเมือง-จังหวะขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจมหภาค ที่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ลงไปล้วงลูก เช่น โครงการด้านคมนาคม หลายหมื่นล้าน "พรทิวา-นักเลงจากค่ายภูมิใจไทย" ไม่ถือสา
เธอวิเคราะห์ว่า แม้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะนำเสนอผ่านคณะรัฐมนตรี แต่...
"ถึงอย่างไร ก็ต้องผ่านกระทรวงคมนาคม อันนี้ต้องถามเจ้ากระทรวงคมนาคม ว่าท่านเป็นยังไง ท่านรู้สึกยังไง หรือแม้กระทั่งเรื่องการบินไทยกับไทย ไทเกอร์แอร์ ก็เป็นมุมมอง...ถ้าพูดอย่าง การค้านะ เขาก็บอกว่า เป็นเรื่องการแชร์ส่วนแบ่งตลาดมาเพิ่มมากขึ้นเนี่ย มันก็ไม่ผิด แต่ถามว่า มันถูกไหม ที่แอร์ไลน์ที่เป็นอันดับหนึ่งลงไปเล่นเอง"
พรทิวาแย้งจากมุมน้ำเงินว่า "ขณะที่ในส่วนนกแอร์ ทำไมไม่มาทำให้มันดีก่อน เขาก็มองว่า คนละตลาด ก็ถูก...ก็ไม่ได้พูดผิด มันอยู่ที่คิดแบบไหน คิดทางไหน แต่ถ้ามองว่า เจ้ากระทรวงยังไม่รู้...ในทางการทำงาน มันก็แปลก ๆ นะคะ"
ในฐานะที่อยู่คนละปีก แม้พรรคเดียวกัน "พรทิวา" ชี้โพรงว่า ต้องเปิดปาก "โสภณ ซารัมย์" ในฐานะเจ้ากระทรวงคมนาคม สายตรงอาจารย์ใหญ่-เนวิน
ปรากฏการณ์ความขัดแย้ง-ยื้อแย่งในตารางงบประมาณ สะท้อนภาพการเมืองเก่าในพรรคการเมืองน้องใหม่ วัย 1 ขวบ กับพรรคแก่-อาวุโส 64 ปี
ทั้ง 2 พรรค ยังคงอยู่ในครรลอง ร่วมกันเดิน-แยกกันตี
*****************************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น