ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
ปรากฏการณ์ซื้อตัว ส.ส.และการลงพื้นที่ชิงตัว-ชิงพื้นที่ภาคอีสานทำให้การเลือกตั้ง พื้นที่อีสาน คือจุดยุทธศาสตร์ ชี้ชะตาประเทศ
"ไชยา พรหมา" ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย สัมผัสรูป-รส-กลิ่น-เสียง ภาคอีสานมาแล้ว 7 สมัย
ตั้งใจบอก ส.ส.ภาคอีสานด้วยกัน และส่งสัญญาณถึง ส.ส.ภาคอื่น ว่า
"นิสัยคนอีสานมีมิตรไมตรีกับคนทุกภาค เป็นคนให้อภัย ทำให้เมื่อใครเข้าไปทำ อะไรในพื้นที่ก็มีการตอบแทนบุญคุณ"
ประกอบกับ "การเมืองพัฒนามาถึงปัจจุบัน คนอยู่ตามท้องไร่ท้องนา อยู่ในภูเขาในป่า ก็สามารถรับสัญญาณดาวเทียมได้ ทุกวันนี้จานดาวเทียมเครื่องหนึ่งประมาณ 2-3 พันบาท ถูกกว่ามอเตอร์ไซค์ เขาสามารถเลือกดูทีวีที่มีหลากหลาย"
คนอีสาน ไม่จน-ไม่โง่ อีกแล้ว
"ในอดีต คนที่อยู่ห่างไกลปืนเที่ยง ก็เชื่อผู้นำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นมีอิทธิพลต่อชาวบ้าน เพราะชาวบ้านต้องอยู่โดดเดี่ยว การสื่อสารก็ไม่มี การคมนาคมไม่สะดวก การศึกษาไปไม่ถึง ต้องอาศัยผู้นำ ผู้นำว่าไงก็เชื่อตามนั้น นี่เป็นจุดอ่อน ทำให้ "เจ้าบุญทุ่ม" การเมืองประเภทซื้อเสียงมีอิทธิพลในอดีต"
"ตอนนี้การเมืองเปลี่ยนไปแล้ว ถนนมีทุกหมู่บ้าน เดินทางจากชั่วโมง แต่วันนี้ใช้เวลาไม่กี่สิบนาที แต่ก่อนไม่มีโทรศัพท์ ไฟฟ้า เดี๋ยวนี้โครงสร้างพื้นฐานมีส่วนทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เร็วขึ้น"
"ดาวเทียม โทรศัพท์ อินเทอร์เน็ต มีไปถึงตำบล นี่คือโลกไซเบอร์ ไปได้รวดเร็ว วันนี้โทรศัพท์เครื่องละพันกว่าบาท และค่ายมือถือมีโปรโมชั่นราคาไม่แพง ทำให้ติดต่อสื่อสารเร็วขึ้น"
"โดยเฉพาะการอพยพของแรงงานอีสานเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมความเปลี่ยนแปลงของสังคม เพราะมาเจอความศิวิไลซ์ การได้รับรู้การเมืองในเมืองหลวง มีการชุมนุมการเมืองอะไรต่าง ๆ ก็กลับไปถ่ายทอดให้ที่บ้านฟัง เขารู้ว่ามีการปราศรัยที่สนามหลวง และที่กรุงเทพฯมีความนิยมเรื่องอะไร"
การซื้อตัว-ซื้อหัวคะแนน-ซื้อเสียงอาจจะยังมี แต่ไม่มาก เพราะสมมติฐานที่ว่า "คนอีสานโง่...ซื้อได้" ใช้ไม่ได้อีกแล้ว
"แนวคิดนี้เป็นจุดอ่อนของการเมืองในภาคอีสาน ที่ทำให้นักการเมืองเอามาเป็นเครื่องมือในการช่วงชิงและอาศัยจุดอ่อนตรงนี้มาเป็นเป้าหมายในการเอาชนะ เราจะเห็นว่าในอดีตมี "เจ้าบุญทุ่ม" หิ้ว กระเป๋าเจมส์ บอนด์ไป แล้วไปซื้อเสียงในภาคอีสาน ก็อาจจะประสบความสำเร็จ"
"การเมืองในภาคอีสานเปลี่ยน เห็นได้ชัดคือวันนี้ ประชาชนเขาเลือกนโยบายที่เขาได้ประโยชน์ จากการลงคะแนนให้พรรคการเมืองแล้วได้เป็นรัฐบาล ได้ผลประโยชน์จีรังยั่งยืนกว่าผลประโยชน์ เล็กน้อยก่อนการเลือกตั้ง"
"ในอดีตเลือกผู้แทนฯได้รัฐบาลมาก็เป็นช่วงระยะสั้น ๆ ไม่มีความต่อเนื่องทางการเมือง ทำให้รัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ทำให้การเลือกตั้งมุ่งเอาชนะเพื่อมา จัดตั้งรัฐบาล ในอดีตประชาชนจึงลงคะแนนให้แก่ผู้ให้ผลประโยชน์ตอบแทนที่เห็น ๆ ในทันที ไม่ได้คิดอะไรมาก"
"ทำให้เกิด ส.ส.นกแล ในยุคสมัยที่พรรคไทยรักไทย เพราะประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าถ้าเลือกพรรคนี้ ได้ผู้นำคนนี้และนโยบายที่เขาหาเสียงไว้ สามารถที่จะแก้ไขปัญหา ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ผลคือหลังจากเลือกตั้งปี"44 พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯอยู่ครบเทอมแล้ว เลือกตั้งปี"48 พรรคไทยรักไทยได้ 377 เสียง เป็นรัฐบาลพรรคเดียวเป็นครั้งแรก"
"นั่นจะเห็นได้ว่าประชาชนไม่ได้ตัดสินใจเลือกเพราะเงิน แต่ตัดสินใจเพราะนโยบายที่ดี และเขาได้รับผลจากการปฏิบัติของรัฐบาล มีผลมาสู่วิธีคิด ทำให้มีการเปลี่ยนแปลง กระทั่งปัจจุบันสภาพแบบนี้ก็คงอยู่ ประชาชนต้องการผลประโยชน์ที่ไม่ใช่ผลประโยชน์รายตัว อันนี้เป็นสิ่งที่เข้าไปในสายเลือด"
พื้นที่อีสานและภาคเหนือจึงเป็นเค้กการเมืองที่ทุกพรรคต้องการ แต่ "ไชยา" บอกว่า "ไม่ง่าย"
"พรรคจะได้ขับเคลื่อนในสถานการณ์ปัจจุบัน ตรงไหนที่เรามั่นใจแล้ว ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่น สร้างขวัญกำลังใจ สิ่งสำคัญในพื้นที่อีสาน คือเมื่อพรรคลงพื้นที่แล้วเกิดความอบอุ่น ฉะนั้นกระแสตอบรับในภาคอีสานและภาคเหนือ มันจะทำให้เป็นกระแสที่ส่งผลไปยังภาคอื่น ๆ อย่างน้อยภาคอีสานก็เป็นพื้นที่เป้าหมายของเรา"
"มวลชนเราก็อยู่ที่นั่น คะแนนนิยมเราก็อยู่ที่นั่น ภาคเหนือก็เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการไปกระตุ้น ไปรีชาร์จแบตเตอรี่ของมวลชน ก็จะทำให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจมากขึ้น"
"อีสาน เหนือ เป็นพื้นที่หลักอยู่แล้ว เราต้องเน้นหนัก เหมือนกับภาษาที่เขาเรียกว่า "ตอกตะปูปิดฝาโลง" หมายความว่า พรรคการเมืองอื่นเข้าไปไม่ได้เลย มันก็ต้องไม่ให้เกิดการแย่งชิงมวลชน"
"เพราะการขับเคลื่อนในแต่ละภาคมีฟีดแบ็กไปถึงภาคอื่น แต่ถ้ามวลชนใน ภาคอีสานและภาคเหนือ สามารถจะตรึง ไว้ซึ่งฐานหลักของพรรค ก็จะทำให้การทำงานง่าย"
"เขตพื้นที่หลักเราก็ตรึงกำลังเพื่อไม่ให้เกิดการแย่งชิงมวลชน หรือการแทรกของพรรคการเมืองอื่น เราก็มีเวลาไปทุ่มยังพื้นที่ที่จัดเป็นระดับลงมา อีสาน เหนือ อาจจะเป็นพื้นที่สีเขียว คือสอบผ่าน แต่พื้นที่ภาคกลางเป็นพื้นที่ที่มีความอ่อนไหว ก็อาจจะเป็นอีกสีที่ไม่แดงไม่เขียว ก็จัดลำดับความสำคัญ เพราะฉะนั้นเป้าหมายการทำงานต้องแยกระดับ"
"ตรงไหนเป็นฐานของเขา เราเจาะไม่ได้ เราแตะไม่ได้ ก็ไม่ต้องเสียเวลาในการทุ่มเท"
"วันนี้บอกได้ว่าความเข้าใจการเมืองของคนอีสานมีมากขึ้นกว่าเดิม ประชาชนทำนาเสร็จแล้วมีเวลาดูทีวี ช่องสาม ห้า เจ็ด เก้า และสัญญาณดาวเทียมมีผลอย่างมาก"
ขณะที่ ส.ส.ทุกพรรค ทุกขั้ว ล้วนจับตาการเปลี่ยน "หัว" และการปรับโครงสร้าง "ก๊ก" ในพรรคเพื่อไทย "ไชยา" บอกว่า "หัวของอีสาน" แม้จะไม่ใช่คนอีสาน แต่ขอให้เป็น "หัวชินวัตร" ก็ขายได้
"อย่างน้อยต้องยอมรับว่าตอนที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบมาเป็นพรรคเพื่อไทย ในจังหวะเราซวนเซ เราก็ได้ใช้สถานที่ ได้การอุปถัมภ์จากท่านพายัพ (ชินวัตร) ในจังหวะซวนเซท่านก็มาซัพพอร์ต และท่านก็เป็นน้องชายอดีตนายกฯทักษิณ ถึงแม้ท่านไม่ใช่คนอีสาน แต่เราก็สามารถเอามาเป็นจุดขายได้"
เพราะสุดท้ายการหาเสียงในภาคอีสาน หากใครไม่เอ่ยชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร" อาจสอบตก
****************************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น