โดย หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน
นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ยังยืนยันว่าวาทกรรมสร้างความปรองดองของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชาตินี้ก็ไม่สำเร็จ ซึ่งนายอภิสิทธิ์เองก็ออกมายอมรับ
นอกจากนี้นายบรรหารยังท้วงติงการใช้งบประมาณเกือบ 600 ล้านบาทของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ (คปร.) และคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป (คสป.) ว่าไม่ควรใช้เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไร การปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต้องเกิดจากการให้อภัยซึ่งกันและกันก่อน ตราบใดที่ยังให้อภัยกันไม่ได้การปรองดองก็เป็นไปไม่ได้
นายบรรหารจึงสรุปว่า “สิ้นหวัง” กับการแก้ปัญหาบ้านเมืองหรือการหาทางออกของประเทศไทยขณะนี้ ซึ่งหลายฝ่ายก็เห็นเช่นเดียวกับนายบรรหาร เพราะตราบใดที่รัฐบาล โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ ยังแก้ปัญหาด้วยคำพูดหรือวาทกรรมสวยหรู แต่ในทางปฏิบัติยังเหมือน “มือถือสาก ปากถือศีล” ก็ไม่มีใครเชื่อว่ามีความจริงใจ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากการคง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินไว้โดยไม่ปฏิเสธเลยว่าเพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐไล่ล่าและกวาดล้างคนเสื้อแดงและฝ่ายตรงข้ามต่อไป
ขณะที่รัฐบาลก็เพิกเฉยหรือพยายามกลบเกลื่อนการสังหารโหดในเหตุการณ์ “เมษา-พฤษภาอำมหิต” ที่วันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 91 ศพ และบาดเจ็บพิการเกือบ 2,000 ราย แต่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บพิการก็ไม่รู้จะเรียกร้องความเป็นธรรมและความยุติธรรมได้จากใคร เพราะรัฐบาลยังใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินข่มขู่ คุกคาม และจับกุมฝ่ายตรงข้ามอย่างต่อเนื่อง
ภาพลักษณ์ของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ขณะนี้จึงไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลเผด็จการที่ถูกประจานไปทั่วโลก อย่างคณะกรรมการคุ้มครองผู้สื่อข่าว (Committee to Protect Journalists-CPJ) เผยแพร่รายงานพิเศษประจานรัฐบาลไทยที่ไม่จริงจังในการดำเนินการสอบสวนประชาชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ “เมษา-พฤษภาอำมหิต” ซึ่งมีผู้สื่อข่าวต่างชาติ 2 รายถูกยิงเสียชีวิตด้วย
แม้นายอภิสิทธิ์จะแถลงว่าทหารใช้กระสุนจริงเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น และมาตรการควบคุมฝูงชนก็ดำเนินการตามมาตรฐานสากล แต่การตรวจสอบของ CPJ กลับพบว่าทหารยิงปืนใส่ประชาชนที่ไม่มีอาวุธในหลายพื้นที่ รวมทั้งกรณี “ไอ้โม่งชุดดำ” ที่รัฐบาลอ้างว่ายิงกระสุนและระเบิดใส่ทหารนั้น การสืบสวนก็เป็นไปอย่างคลุมเครือ เช่นเดียวกับการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต ซึ่งองค์กร สถานทูต และญาติผู้เสียชีวิตไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของรัฐบาล และไม่มีการมาแสดงความรับผิดชอบการสังหารโหดครั้งนี้เลย
แต่นายอภิสิทธิ์กลับดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับเสียงของประชาชนและประชาคมโลก ยังยิ้มระรื่นเรียกร้องความปรองดองเหมือน “ที่นี่ไม่มีคนตาย” เลย
**********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น