มันช่างพอเหมาะพอเจาะกันดีเสียจริงๆ??
เลือดรักชาติรักแผ่นดินของ วีระ สมความคิด และเครือข่ายประชาชนหัวใจรักชาติช่วงนี้ดูจะกระฉูดแรงเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะกับประเด็นปราสาทเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อน
ดูช่างเป็นช่วงจังหวะเวลาที่พอเหมาะพอเจาะกับช่วงการจะเลือกตั้ง ส.ก.-ส.ข.กรุงเทพมหานครได้อย่างพอดิบพอดีเสียจริงๆ
หลายพรรคการเมืองต่างต้องการที่จะวางฐานเสียงในกรุงเทพฯเพื่อรองรับการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในอีกไม่นานนี้ผ่านการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง ส.ก. และ ส.ข.
สามพรรคการเมืองหลักที่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ก.-ส.ข.ลงเกือบทุกเขตใน กทม.ก็พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย และพรรคการเมืองใหม่
และก็นับเป็นครั้งแรกที่พรรคการเมืองใหม่ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ก.-ส.ข.ลงในนามพรรคเป็นครั้งแรก
ก็ขอให้การเคลื่อนไหวของ วีระ สมความคิด และพลพรรค...เป็นการเพื่อชาติ ไม่ใช่เพื่อเสียงก็แล้วกัน...สาธุ???
...........................................................................................................
ไม่น่าไปไหนรอด??
โหวตร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2554 ที่หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าอาจมีปัญหาในการลงมติจากพรรคภูมิใจไทย...เหตุเพราะรถเมล์เอ็น จี วี สี่พันคันของกระทรวงคมนาคม ที่มี โสภณ ซารัมย์ เป็นเจ้ากระทรวงถูก อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีเบรกซะหัวทิ่มหัวตำไปไม่กี่วันก่อน
ทั้ง “ปู่จิ้น” ชวรัตน์ ชาญวีรกูล มท.1 หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และ โสภณ ซารัมย์ เจ้ากระทรวงหูกวางก็ออกมายืนยันมั่นเหมาะแล้วว่าไม่มีวันที่จะหักหลังพรรคประชาธิปัตย์อย่างเด็ดขาด
คงไม่ใช่เพราะไม่อยากถอยหลังเพราะกลัวเป็นหมา....หรือต้องการเดินหน้าเพื่อชาติ ตามสโลแกนของ บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ มท. 2 เป็นหลักแน่
กูรูข้างสภาเขาว่า....ช่วงนี้ยังไม่บรรลุความมุ่งหมาย
ต่อให้เอาม้ามายุด เอาช้างมาฉุด....ภูมิใจไทยก็ไม่มีวันทิ้งประชาธิปัตย์ไปไหนได้
มิน่า...อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ถึงได้กล้าหักด้ามพร้าด้วยเข่าเอาดื้อๆๆ???
........................................................................................................................................
เรื่องของชมรมคนอกหัก??
ตั้งใจจะขอเป็นรัฐมนตรีเป็นวาระสุดท้ายก่อนวางมือทางการเมือง
เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานยังไม่ครบวาระก็ถูกปรับขยับออกนอก ครม.เอาดื้อๆ
ข่าวว่าช่วงกำลังซดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในอยู่ยามนี้ มีมือดีดอดไปเกี้ยวจะให้ ไพฑูรย์ แก้วทอง เซย์กู๊ดบายประชาธิปัตย์ ไปรวมพลคนอกหักตั้งพรรคใหม่ที่มีฐานเสียงหลักอยู่ทางภาคเหนือตอนล่าง......
เท็จจริงอย่างไร...กระซิบถามมิสเตอร์เอกซ์ดูก็ได้
ข่าวว่าจะขอเป็นพรรคขนาดเล็ก...เพื่อให้เจ๊กลากไป ไทยลากมาจะได้สะดวก???
.......................................................................................................................................................
เรื่องนี้เขมรไม่เกี่ยว
ก็ต้องขอแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่านของ หนุ่มมหาสารคาม ดร.ศักดิ์ศิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จากอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล โยกมาเป็นรองปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ ก่อนขึ้นเป็นปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์แล้วโยกมาเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในที่สุด
ไปร่วมประชุมกรรมการมรดกโลกกับ สุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ประเทศบราซิลมาหลัดๆ จนทำให้กรรมการมรดกโลกเลื่อนการพิจารณาการบริหารจัดการพื้นที่เขาพระวิหารออกไปอีกหนึ่งปี
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขมร และเขมรไม่เกี่ยวนะ
มันเกี่ยวกับอุบัติเหตุล้วนๆ อย่าพาโลเกไปกันใหญ่ล่ะ!!
...........................................................................................................................................................
ข้าราชการบำนาญเขาขอร้อง
เตรียมปรับเงินเดือนข้าราชการใหม่อีกรอบในเดือนเมษายนปีหน้า
มันก็สมควรอยู่หรอก...ก็เงินมันเฟ้อ แถมค่าครองชีพก็สูงขึ้น เงินเดือนหรือก็ไม่ได้ปรับมานานนม...นี่ถ้า “แม้วพลัดถิ่น” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ถูกรถถังไล่บี้จนต้องหนีไปอยู่ต่างแดน ป่านนี้เงินเดือนข้าราชการก็ปรับขึ้นไปหลายรอบแล้ว
ว่าแต่ว่า.....อย่าลืมหันมามองที่ข้าราชการบำนาญด้วยก็แล้วกัน
อุตส่าห์ตรากตรำทำงานเพื่อชาติหนีพ่อค้ามาให้พระยาเลี้ยงกว่าจะพ้นพงหนามจนได้รับบำนาญก็ใช่สุขสบายกับเงินเดือนของราชการมากมายเท่าไรนัก
ปรับเงินเดือนให้ข้าราชการแล้ว ขุนคลังใหญ่ กรณ์ จาติกวณิช อย่าลืมปรับบำนาญให้คนแก่บ้างก็แล้วกัน
ปรับเงินเดือนให้ข้าราชการขึ้นห้าเปอร์เซ็นต์ ปรับบำนาญขึ้นห้าเปอร์เซ็นต์มันก็น่าจะแฟร์ดีเหมือนกันนะ
ประชานิยมก็ทำสุดลิ่มทิ่มตำมาหมดแล้ว...จะทำกับข้าราชแก่ๆตาดำๆ อีกบ้างก็ไม่เห็นจะเสียหายที่ตรงไหน??
.............................................................................................
คอลัมน์.ตอดนิดตอดหน่อยใต้ฟ้า
ที่มา.บางกอกทูเดย์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น