--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

คำต่อคำคลิปลับคนDSI ช่วยวิ่งล้มคดีแชร์ปูแดง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ปิยะวัฒก์"สุดทนเปิดคลิปลับคนเสียงคล้ายรองอธิบดีดีเอส อ้างถึงอธิบดีให้ประกันตัว และโต้งๆ "พสพ.8"เจรจาให้ช่วยทำสำนวนคดีอ่อนมีค่าแรงให้

จากกรณี พันเอก ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ ผู้บังคับการ สำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)โพสต์ข้อความลงเฟชบุ๊ค ระบายความคับข้องใจหลังจาก ดีเอสไอสั่งไม่ฟ้องคดีแชร์ปูแดง และสั่งไม่ฟ้องคดีสำคัญอีก 2 คดี ซึ่งเป็นความเห็นแย้งกับคณะพนักงานสอบสวน โดยตั้งข้อสังเกตจะมีการวิ่งเต้น และมีใบสั่งทางการเมืองมาถึงดีเอสไอ

จากนั้น พันเอกปิยะวัฒก์ ได้เผยแพร่ "คลิปเสียง" จำนวน 2 คลิป ซึ่งคลิปแรก ความยาวประมาณ 5 นาที เป็นการสนทนาระหว่างบุคคลที่มีเสียงคล้ายรองอธิบดี ดีเอสไอ คนหนึ่งกับ พันเอกปิยะวัฒก์ โดยเนื้อหาลักษณะเชิงสั่งการให้ประกันตัวผู้ต้องหาคดีแชร์ปูแดง อ้างเป็นไปตามนโยบายของ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม

ส่วนคลิปที่ 2 ประมาณ 20 นาทีเศษ เป็นการพูดคุยระหว่างพนักงานสอบสวน(พสพ.) ระดับ 8 ยศนำหน้าเป็นพันตำรวจโท กับ พันเอกปิยะวัฒก์ ซึ่ง พสพ. 8 คนนี้พยายามเป็นตัวกลางวิ่งเต้นช่วยเหลือคดีแชร์ปูแดง ให้กับบริษัทเบสท์ 59 จำกัด ซึ่งการสนทนาถูกบันทึกขณะเจรจาวิ่งเต้นคดีกับพ.อ.ปิยะวัฒก์

ในระหว่างที่ พ.อ.ปิยะวัฒก์เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเนื้อหาการเจรจานานกว่า 20 นาที สาระสำคัญคือ ผู้ใหญ่ให้มาเจรจาจะช่วยเหลือผู้ต้องหาอย่างไรได้บ้าง พร้อมกับเสนอมีค่าแรงค่าเหนื่อยตอบแทนให้ แต่พันเอกปิยะวัฒก์ ปฏิเสธหลายครั้ง อีกทั้ง ตอนท้าย พสพ. 8 คนดังกล่าว เหมือนกับคุยโอ่ข่ม พ.อ.ปิยะวัฒก์ อ้างถึงเคยช่วยงานการเมืองให้กับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ช่วยอำนวยการเลือกตั้ง ส.ส.ในปี 2539 จนพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 3 ที่นั่ง


คลิปเสียงที่ 1

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : หวัดดีครับ ตกลงเมื่อคืนไม่ได้โทรเพราะแบตหมด ตกลงแนวทางยังไงครับผม เสียงเหมือนรองอธิบดีดีเอสไอ : ท่านอธิบดีบอกนโยบาย ถามรัฐมนตรีแล้วบอกว่าให้ประกันได้ โดยใช้เงินสด 2 ล้าน หลักทรัพย์ 5 ล้านแล้ว ให้พี่เพิ่มในสัญญาประกัน 2 ประเด็น ประเด็นที่หนึ่ง คือ ไม่เข้าไปยุ่งเหยิงในพยานหลักฐาน ไม่ไปทำลายหลักฐานเอกสารทิ้ง สองคืออย่าเข้าไปก่อหวอด ปลุกปั่นม็อบให้เกิดความไม่สงบ ถ้าขัดในสองประเด็นนี้เราถอนประกัน แล้วก็ท่านอธิบดีไม่อยู่มอบหมายให้ผมเซ็นแทน

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : คืออย่างนี้ครับ เนื่องจากทางทีมผมไปสอบผู้ต้องหาคดีบลูโอเชี่ยนในหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ตอนนี้ทีมที่ทำ ไม่อยู่เลย ถ้าจะขอเป็นเข้ามอบตัววันจันทร์หรือวันอังคารได้ไหมครับ เดี๋ยวให้ทางส่วนสืบสวนสะกดรอย(สร.) เค้าประสาน
เสียงเหมือนรองอธิบดีดีเอสไอ : เค้ามาโชว์ 9 โมง ผมนัดมาเจอ 9 โมง ถ้าเค้าขึ้นมาเราไม่มีทางอื่นให้เค้ากลับไป

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : เช้านี้มีประชุมด้วย
เสียงเหมือนรองอธิบดีดีเอสไอ: พี่มอบใครไปก็ได้ (อ้าง)อธิบดีบอกว่าเค้ามาก็ดีกว่าเราไปตามจับไม่งั้นเดี๋ยวสูญเสียอะไรกัน เดี๋ยวมีอุบัติเหตุ น่าจะเป็นผลดีที่อย่างน้อยเค้ามามอบตัว

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ผมก็โอเคในแนวทางที่รัฐมนตรีให้ แต่ผมเขียนปิดท้ายไปนิดนึงได้ไหมว่ามีการปิดล้อมพนักงาน
เสียงเหมือนรองอธิบดีดีเอสไอ : ครับพี่เขียนในสัญญาประกันเลยว่าไม่ให้ไปยุ่งเหยิงพยาน และปลุกปั่นก่อหวอด โดยพฤติการณ์นำผู้เสียหายมาปิดล้อมเจ้าพนักงานก็อยู่ในเงื่อนไขของการก่อหวอด

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : คดีนี้สื่อมวลชนสนใจ
เสียงเหมือนรองอธิบดีดีเอสไอ: พี่เตรียมพนักงานสอบสวนให้หน่อย 2-3 คน (อ้าง) อธิบดีกังวลเพราะท่านไม่อยู่ ท่านให้นโยบายชัดเจน และบอกว่าคุยกับพี่ไว้แล้ว ขอผมมีหน้าที่แค่เพียงว่า พอเค้ามาก็ส่งให้พี่ทำสัญญาประกัน ในช่วงที่เค้ามามอบตัว เราไม่เกี่ยวกับนักข่าวนะ

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ถ้างั้นวันนี้ ว่าไปเลยแล้วกัน คดีนี้อธิบดีก็ให้สัมภาษณ์ไป อธิบดีก็ทำงาน มันก็ออกมาว่าไม่ผิดจากคดีอื่นๆ ดีเอสไอทำงานร่วมกับกรมวิชาการเกษตร หน่วยงานป้องปราบกระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) เพราะฉะนั้นเราไม่ใช่ผู้ร้าย ถ้ายังไงให้คุณเตรียมไว้ด้วยนะครับเพราะอาจถูกถามว่าอีกคนให้ประกันอีกคนไม่ให้ประกัน จะถูกหาว่าสองมาตรฐาน

คลิปที่สอง

พสพ. 8 : ผู้ใหญ่ให้มาคุยว่าคดีนี้จะดูแลช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง จะมีค่าแรงค่าเหนื่อยให้
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : สร. (ส่วนสืบสวนสะกดรอย) ดูเรื่องนี้มานานมาก แผนการตลาดผิดชัดเจน ผมเคยถูกคณะกรรมาธิการเรียกไปชี้แจงพร้อมกับผู้บริหารปูแดง ปูแดงชี้แจงเพียงรายละเอียดสินค้า ไม่ได้โต้แย้งเรื่องแผนการตลาดกับเราเลย ซึ่งสถิติคดีที่ผ่านมา ที่ผิดก็ผิดตรงแผนการตลาด พสพ. 8 : ตรงนั้นผมแก้ไขได้นะ จะเป็น 2 ช็อต ขึ้นอยู่กับเราจะตั้งต้นแค่ไหนและให้อัยการรับลูกอย่างไร

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ต้องว่าไปตามหลักฐาน ที่แจ้งข้อหาไปแล้ว คือ พ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืมเงินและฉ้อโกงประชาชน ผิดกรรมเดียวตามกฎหมายหลายบท ต้องลงบทหนัก ตามพ.ร.ก.ว่าด้วยการกู้ยืม ในส่วนความผิดอื่นเช่นเรื่องขายตรง และเรื่องปุ๋ยก็ต้องว่ากันไป ตามพ.ร.บ.เกษตรฯ และพ.ร.บ.ขายตรง ถ้าพบความผิดเรื่องสัญญาซื้อขายล่วงหน้าก็ต้องแจ้งข้อหาเพิ่ม แนวทางต้องเป็นอย่างนี้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลักฐานว่าเพียงพอจะดำเนินคดีตามข้อหาที่ผมได้เรียนไปหรือไม่ ซึ่งตอนนี้เรากำลังรวบรวมหลักฐานอยู่

พสพ. 8 : คนทำงานจริง ๆ พี่ให้ใครรับผิดชอบ
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : มือทำจริง ๆ ก็มีนิรันดร (นายนิรันดร ชัยศรี พนักงานสอบสวนระดับชำนาญการ) กับผม
พสพ. 8 : ก็คือพี่ลงไปเล่นเองกับนิรันดร
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ถ้าคดีใหญ่ ๆ คดีที่มีปัญหา ผมจะรับผิดชอบเอง
พสพ. 8 : ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรียุติธรรม หรือใครก็รู้กันหมด คงไม่ต้องเคาะอะไรลงมา ขึ้นอยู่กับข้างในจะเซิฟรับกันยังไง ขึ้นอยู่กับพี่กับนิรันดร เราจะไปหาหลักฐานข้อมูลอื่นมาเติมให้ มันอาจเหมือนกับว่าเปิดช่องไว้หน่อย กันไว้นิดนึง นอกเสียจากไปเจออะไรที่ไปไม่รอดจริง ๆ นั่นก็ต้องชี้แจง
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : อย่างที่ผมบอกไง ทุกอย่างอยู่ที่หลักฐาน ถ้ามัดแน่นมันต้องดำเนินการตามกฎหมาย ถ้าผมไปทำอะไรลักษณะที่ช่วยเหลือ ผมก็โดนเอง ผมขอว่าไปตามหลักฐาน ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะรวบรวมได้ครบถ้วนแค่ไหน เพียงใด
พสพ 8 : ถ้าเป็นอย่างนี้เค้าก็ต้องมีหลักฐานมาหักล้างให้ได้
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ก็ต้องอยู่ที่เค้าว่าจะร่วมมือให้การมากน้อยแค่ไหน แต่ตอนนี้เรียกมาให้การก็ไม่ให้การ

พสพ. 8 : วันนั้นเพียงแต่มายื่นประกัน เดี๋ยวเค้าจะเดินเข้ามา ก็เลยต้องมาคุยกับพี่ว่า ช่องทางแนวทางพอจะมีสักนิดนึง คงไม่ต้องถึงกับ โอ้โฮ... เพราะเรารักษาภาพเราอยู่แล้ว เราคงทำอย่างนั้นไม่ได้ เราก็เดินตามสไตล์ของเรา เพียงแต่เค้าจะเอาอะไรมาหักล้าง
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : มันขึ้นอยู่ที่เขา เราไม่ได้เอาผิดกับตัวผู้ต้องหาอย่างเดียว เราให้โอกาสเค้าพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ในดีเอสไอต้องเป็นอย่างนี้ ถ้าคุณมีหลักฐานมาหักล้างก็เอามาให้เรา เรามีมาตรฐานในการชั่งน้ำหนัก ถ้าคิดว่าถูกไม่ผิด เอามาเลยเราจะเป็นคนชั่งน้ำหนักเอง

พสพ. 8 : มันก็คือมีพี่กับนิรันดร หลัก ๆ แค่ 2 คน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : หลัก ๆ มีอยู่ 2 คน นอกนั้นก็เป็นเด็ก ๆ มอบหมายให้ลงพื้นที่ มอบประเด็นให้สอบสวน ถ้าคดีที่มีปัญหา ผมรับผิดชอบคนเดียวอยู่แล้ว
พสพ. 8 : จริง ๆ ข้างในมันก็เคลียร์ได้ อย่างที่วันนั้นเค้ามามอบตัวกับพี่ เราถือว่าถ้าคุณจะวิ่งเพื่อขอความร่วมมือ คุณก็ต้องให้ความร่วมมือกับเราด้วย เค้าก็โอเคทุกอย่าง เว็บไซต์ที่เคยออกเค้าก็หยุดหมด นี่เบื้องต้นนะพี่นะ ก็ว่ากันไป พอผู้ใหญ่เค้าสะกิดมา บางอย่างก็เหมือนว่าน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า แทนที่จะไปถึงศาล ผมเชื่อว่าเดี๋ยวอธิบดีต้องเรียกพี่ไปคุย

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : เลขาฯ ก็เรียกมาผมก็ว่าไป ผมก็ว่าไปตามหลักฐาน ยึดหลักฐานอย่างเดียว ผมทุกอย่างว่าไปตามหลักฐานถ้าไม่ผิดก็ให้ความเป็นธรรมแต่ถ้าผิดผมก็ไม่เคยเว้นเหมือนกัน
พสพ. 8 : ผมเชื่อว่าอย่างนั้น มันมีผิดบ้างถูกบ้าง ไม่มีอะไร 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : แต่ตอนนี้เรามีหลักฐานเชื่อว่าเขากระทำผิด เราจึงดำเนินการ
พสพ. 8 : เรื่องนี้ต้นเรื่องมาจากที่ไหน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : มาจาก สคบ. ยื่นเรื่องให้เราไปสืบสวนสะกดรอย
พสพ. 8 : แล้ว สคบ.เอาเรื่องมาจากไหน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : มีผู้เสียหายไปร้องเรียน ร้องผ่านกรรมาธิการและเว็บไซต์
พสพ. 8 : มันมาจากคู่กรณีเค้า พี่รู้ใช่ไหม
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ผมไม่รู้ ใครเป็นคู่กรณี

พสพ. 8 : จะได้เลาะเงินมาให้ก่อน เดี๋ยวจะเลาะไม่ทัน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ปัญหามันจะตามมาอีกเยอะ กับเงินที่เราต้องคืนผู้เสียหาย ผมทำงานยึดถือคำสอนของ อาจารย์จรัญ (จรัญ ภักดีธนากุล) ที่บอกว่าปิยะวัฒก์จำไว้นะแชร์ลูกโซ่ทำยังไงก็ได้ต้องเอาเงินคืนพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ผมยึดถือสิ่งที่ท่านบอกมาตลอด คิดแต่ว่าต้องคืนเงินเค้าให้มาก ในอดีตชม้อยได้คืนคนละอีกตั้ง แทบยึดอะไรไม่ได้เลย

พสพ. 8 : แชร์อีซี่ยังยึดคืนมาได้บ้าง
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : แชร์อี่ซี่ยึดคืนมาได้ร้อยล้านก็ยังดี
พสพ. 8 : ไอ้พวกนี้มันยังไม่ใหญ่พอ มันก็วน ๆ ไม่คิดว่าเราจะไปทุบมัน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ในชีวิตราชการ ผมได้รับการปลูกฝังให้ทำงานถูกต้อง ให้ความเป็นธรรมไม่กลั่นแกล้งใคร ถ้าหลักฐานถึงผมก็เรียนท่านว่าผมต้องดำเนินการ ถ้าไม่ถึงผมก็ให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา คดีที่ผ่านมาใช่ว่าเราฟ้องทุกคน อย่างแม่ทีมบางคนเราก็สั่งไม่ฟ้อง ถ้าเราสั่งฟ้องไป อัยการสั่งไม่ฟ้องเราก็ไม่ติดใจ เพราะบางครั้งมีการเอาชื่อคนไปใส่เป็นกรรมการ มีอำนาจลงนามผูกพัน แต่เรียกมาสอบแล้วเชื่อว่ามันไม่น่าจะรู้เรื่องอะไร เราก็ไม่ฟ้อง

พสพ. 8 : คนพวกนี้เค้าคิดว่าเค้าทำสุจริต แต่การตลาดมันนำไปเรื่อย เพราะมันต้องแข่งขัน พอทำไปทำมาคนนั้นแนะนำอย่างนี้ คนนี้แนะนำอย่างนั้น พวกนี้มันไม่รู้แค่ไหนมันเลยไม่เลย ตัวเองก็มั่นใจอยู่ว่ามันไม่เลย เพราะเค้าไปคุยกับผู้ใหญ่ว่าอย่างนั้น คดีนี้พี่ตั้งพนักงานสอบสวนเพิ่ม 30 คนเหรอ
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ต้องลงสอบสวนหลายพื้นที่ กระจายสอบทั่วประเทศ งานเราเยอะตอนนี้หนัก ลานมัน นมโรงเรียนอีก วันนี้ผู้ต้องหาคดีลานมันก็เข้ามอบตัวอีก
พสพ. 8 : อ๋อ ลานมันเรื่องยาวนะ ได้ตัวใหญ่บ้างไหมพี่
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ได้ ได้ครบหมด
พสพ. 8 : พนักงานสอบสวนที่ตั้งเพิ่มทำทั้ง 3 เรื่องเลยเหรอพี่
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ใครมีประสบการณ์แชร์ลูกโซ่ดึงมาช่วยหมด
พสพ. 8 : คดีนี้จะใช้ระยะเวลานานเท่าไหร่

พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ก็ต้องพยายามให้เร็วที่สุด พี่ต้องเร่งเพราะนิรันดร มีคดีบลู โอเชี่ยน สยาม สอบผู้ต้องหาไปแล้ว 200 คน ต้องไปสอบผู้เสียหายหลายจังหวัดทั้งภาคเหนือและอีสานแต่เวลาไปสอบก็ให้สอบคดีปูแดงไปด้วย เพื่อไม่ให้เสียเที่ยว เพราะในแต่ละพื้นที่มีข้อมูลทั้งหมด บอกกันอย่างพี่อย่างน้องนะ ชีวิตพี่ไม่ทำในเรื่องทุจริต จะค่าเหนื่อยอะไรผมไม่รับทั้งนั้น ผมขอดูหลักฐานบนความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต ขณะเดียวกันก็จะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายผู้ต้องหา ให้โอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ มีอะไรให้มาแสดง การฟ้องหรือไม่จะชั่งจากน้ำหนักพยาน ผมรับรองว่าให้ความเป็นธรรมและไม่กลั่นแกล้งใคร ในชีวิตราชการผมไม่คิดจะทำเรื่องทุจริต ผมได้รับการปลูกฝังอย่างนี้มาตลอด เราเป็นครูอาจารย์พูดเรื่องนี้กับศิษย์มาตลอด ให้เข้าใจแล้วกัน

พสพ. 8 : นายเค้าฝากมา
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ผมเข้าใจ แต่ไม่ต้องพูดอย่างนี้กับผม ให้เข้าใจพี่แล้วกัน ก็จะพยายามเร่งทำให้รู้ถึงในเรื่องความเสียหาย ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการให้ความร่วมมือ แต่ท่านต้องเข้าใจนะสำนักคดีอาญางานเยอะ ปวดกระบาลเลย เคยพูดกับลูกน้องเหมือนกันว่าคดีลานมันคงทำจนเกษียณ แต่ก็มีลานมันที่ซื่อสัตย์สุจริต
พสพ. 8 : ถ้ามีคดีเข้ามาอีกจะทำอย่างไร
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ก็เกลี่ยคนไปทำ ผมรักน้อง ๆ ในสำนักคดีอาญาก็อย่างนี้ ทำให้ผมไม่เคยไปบี้หรือกวดขัน ปีที่แล้วจบ 26 เรื่อง ลูกน้องผมทำรู้เวลา เรียนผู้ใหญ่ด้วยว่าผมจะให้ความเป็นธรรม
พสพ. 8 : ปี 39 คณะของท่านไตรรงค์ให้ผมไปลง ส.ส.ที่หัวหิน
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ท่านไตรรงค์ สุวรรณคีรี เหรอ
พสพ. 8 : ครับ ผมอำนวยการให้จนพรรคประชาธิปัตย์ได้ ส.ส.มา 3 คน และผมก็ไปอยู่กับท่านมา 3 ปี ผมพูดเพราะเดี๋ยวพี่จะสงสัยว่าผมรู้จักไปหมดเลย
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ก็ดี กว้างขวางดี
พสพ. 8 : ผมก็เหมือนพี่แหละไม่ไปวิ่งใคร ถ้าผมวิ่ง ป่านนี้ผมไปไหนๆแล้ว ผมไม่ชอบวิ่ง
พ.อ.ปิยะวัฒก์ : ท่านไปดูได้เลย ผมไม่เคยวิ่งในเรื่องตำแหน่ง ไม่เคยคิดว่าจะได้ขึ้นเป็น ผบ. เมื่อได้เป็นก็ทำงานเต็มที่
พสพ. 8 : ผมจะกลับไปบอกเค้าว่า มีหลักฐานอะไรให้เตรียมมา

********************************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น