--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

ทักษิณ-แมนเดลาตำนานต่อสู้อยุติธรรม

ที่มา.บางกอกทูเดย์

ปริศนาความกังวลรูปถ่าย
หลายคนเห็นอาการของคณะบุคคลในรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แล้วอดที่จะเกิดความรู้สึกไม่ได้ว่า

แบบนี้จะปรองดอง สมานฉันท์ กันได้จริงๆ อย่างที่นายอภิสิทธิ์ พยามสร้างภาพในขณะนี้หรือไม่

เพราะเพียงแค่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายตระกูลชินวัตร เผยแพร่รูปภาพเพียง แค่ 2 รูป โดยมีเจตนาเพียงแค่จะโต้ข่าวลือที่ปล่อยผ่านสื่อบางสื่อ ที่พยายามสร้างข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังป่วยหนัก หรือบางทีอาจจะเสียชีวิตแล้ว

เจตนาจริงๆ เพียงแค่จะบอกว่ายังสบายดีอยู่ ยังไปพบปะผู้คนต่างๆ ได้โดยที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี

รวมทั้งเจตนาให้รู้ว่า ยังคงมีการโกหกประชาชน ผ่านสื่อบางสื่อ หรือผ่านกลไกบางกลไกอยู่อย่างต่อเนื่อง

ก็แค่นั้นเอง
แต่กลับกลายเป็นว่า การจับโกหกสื่อบิดเบือน กลายเป็นเผือกร้อนสำหรับบางคนในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

รูปจริงหรือไม่? รูปตกแต่งหรือเปล่า? ... วิเคราะห์กันสารพัดไปโน่นเลย

แถมบางคนพยายามจับผิดรูปกันชนิดเอาเป็นเอาตาย หาระดับแสง ระดับเงา กันเสียยิ่งกว่าหน่วยงานพิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียอีก

ทำเอาสังคมไทยงุนงงไม่น้อยว่า ลึกๆ ที่ทำให้พล่านกันหนักขนาดนี้ เป็นเพราะอะไรหรือ

มาถึงบางอ้อ ก็เพราะว่า บังเอิญช่วงที่ต้องการตอบโต้ข่าวป่วยนั้น บังเอิญเป็นช่วงเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีนัดหมายกับ นางวินนี่ แมนเดลา พอดี ซึ่งนางวินนี่ ได้บอกเป็นนัยๆ ว่า การนัดเจอกันครั้งนี้ จะมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย

นั่นคือ นางวินนี่ ได้บุ๊คตารางเวลาของนายเนลสัน แมนเดลา ไว้ให้พบปะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้วก่อนหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้รู้ล่วงหน้ามาก่อน

และนั่นจึงทำให้มีการถ่ายรูปคู่ระหว่างนายเนลสัน แมนเดลา กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในห้องทำงานที่มูลนิธิของนายเนลสัน แมนเดลา

หลังจากนั้นจึงได้เดินทางไปพบกับนางวินนี่ แมนเดลา ที่บ้านพัก

สาเหตุที่นางวินนี่ แมนเดลา แยกกันพบเป็น 2 สถานที่ ก็เพราะปัจจุบัน นายเนลสัน กับนางวินนี่ ได้หย่าร้างกันอยู่ แต่นางวินนี่ต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พบนายเนลสันด้วย จึงช่วยนัดหมายพิเศษให้

ซึ่งเมื่อเป็นรูปถ่ายคู่กับนายเนลสัน และนางวินนี่ ตรงนี้แหละที่ทำให้กลายเป็นประเด็นสะดุ้งเฮือกทางการเมืองของกลุ่มขั้วอำนาจปัจจุบัน ที่มีโยงใยหลายกลุ่มหนุนหลัง

เพราะทั้งนายเนลสัน และนางวินนี่ ล้วนเป็น “แมนเดลา” ที่ต่อสู้กับความอยุติธรรมทางการเมือง ต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่แท้จริงมายาวนาน จนกลายเป็นตำนานของประชาธิปไตยโลก ที่คนทั่วโลกรู้จัก

เพราะนายเนลสัน แมนเดลา พิสูจน์ให้เห็นว่า กำแพงคุก ข้อกล่าวที่ไม่ยุติธรรมต่างๆ หรือแม้กระทั่งอำนาจใดๆ สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้อยู่ดี หากเจอกับบุคคลที่ยึดมั่นและต่อสู้ด้วยหลักการที่ถูกต้อง

สภาวะของนายเนลสัน แมนเดลา ณ วันนี้ เป็นข้อพิสูจน์ยืนยันที่ดีที่รับรู้กันทั่วโลก

ในขณะที่นางวินนี่ แมนเดลา ก็เป็นอีกตำนานในการต่อสู้เคียงคู่กับนายเนลสันมาตลอด นายเนลสันสู้ในคุก นางวินนี้สู้นอกคุก เพื่อให้โลกได้รับรู้ความจริงอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 20-30 ปีที่ผ่านมา

ข้อมูล ความจริง และแนวคิดในการต่อสู้ทั้งหลาย ก็ได้นางวินนี่นี่แหละที่เชื่อมต่อให้สังคมภายนอกกำแพงคุก และคนทั่วโลกได้รับรู้ และทำให้ภาพของนายเนลสัน แมนเดลา สามารถเป็นตำนานการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ตรงนี้แหละที่ทำให้กลุ่มบุคคลที่ต้องการโจมตีและทำลายภาพลักษณ์ต่างๆ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถที่จะรับได้กับ 2 ภาพนี้ จนต้องออกอาการสงสัยว่า เป็นรูปแต่งหรือเปล่า

เพราะการที่นายเดลสัน แมนเดลา ซึ่งเป็นตำนานการต่อสู้ในระบอบประชาธิปไตย ให้การต้อนรับ จับมืออย่างอบอุ่นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ย่อมหมายความว่า นี่คือการพบกันระหว่างผู้ที่ต้องต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมด้วยกัน

ภาพอย่างนี้แน่นอนว่า ใครก็ตามที่มีคราบไคลของเผด็จการสิงสู่จิตใจอยู่ ย่อมไม่สบายใจแน่
เช่นกันกับรูปคู่กับนางวินนี่ ซึ่งหากเป็นคนที่ศึกษาและติดตามการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมของนายเนลสัน ย่อมรู้ดีว่า การวางแผนที่ลึกซึ้ง การเดินเกมต่างๆ ล้วนมาจากผู้หญิงแกร่งที่ชื่อนางวินนี่ แมนเดลา คนนี้แหละ

ดังนั้นแม้สุดท้ายทั้งคู่จะหย่าร้างกัน แต่นายเนลสัน ก็ยังให้เกียรตินางวินนี่ โดยยังคงยินยอมให้ใช้สกุล แมนเดลา ต่อไปได้เหมือนเดิม

ซึ่งการที่มันสมองในการต่อสู้กับอำนาจไม่เป็นธรรมทางการเมือง อย่างนางวินนี่ เมื่อได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เช่นนี้ หารได้มีการชี้แนะ แนะนำกระบวนยุทธบางอย่างให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ

แน่นอนว่า จะให้กลุ่มขั้วอำนาจที่ไล่ล่าทำลายล้าง พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ในเวลานี้ สบายใจได้อย่างไร

ดังนั้น เป็นไปได้หรือไม่ว่า 2 รูปที่เผยแพร่ออกมานั้น ไม่ได้แค่การยืนยันว่า ไม่ได้ป่วย และยังสบายดีอยู่ เพราะเพิ่งจะถ่ายเมื่อ วันที่ 27 สิงหาคม ที่ผ่านมานี่เอง

แต่ยังเกี่ยวโยง สะท้อนภาพการต่อสู้ทางประชาธิปไตยด้วยนั่นเอง

จึงทำให้ถึงกับออกอาการพล่านกันเช่นนี้

ซึ่งหากเป็นอย่างที่วิเคราะห์จริง แบบนี้ความปรองดอง สมานฉันท์ ที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้หรือ???
เป็นห้วงเวลาที่น่าสงสารประเทศไทย และน่าสงสารคนไทยชะมัด

เพราะล่าสุดบล็อกเกอร์ชื่อ Saksith Saiyasombut ซึ่งระบุว่าเป็นนักข่าวพาร์ทไทม์ และเขียนบล็อกเกี่ยวกับข่าวในประเทศไทยเป็นภาษาอังกฤษ ได้มีการยืนยันมาว่า ได้สอบถามไปยังสำนักงานของเนลสัน แมนเดลา ซึ่งระบุที่อยู่ไว้บนเว็บไซต์ของประเทศแอฟริกาใต้

ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ได้เข้าพบนายแมนเดลาจริงหรือไม่?

ซึ่งได้รับคำยืนยันมาว่าเป็นความจริง

แต่เป็นการพบปะแบบส่วนตัว จึงไม่ได้มีภาพถ่ายอย่างเป็นทางการจากทางสำนักงาน

โดยต้นฉบับอีเมลตอบจากสำนักงานของแมนเดลา

Dear Mr Saksith Saiyasombut,
There was no official meeting between Mr Thaksin and Mr Mandela. Mr Thaksin paid Mr Mandela a courtesy call when he was visiting the country.
We do not have photographs or documents as no business was discussed and the courtesy call was during Mr Mandela’s private time. The Foundation did not take any photographs.
Wes it was a private courtesy call.
Regards,Sello Hatang, Manager: Information Communications, Nelson Mandela Foundation
แบบนี้แล้ว สังคมไทยก็คงรู้ชัดเจนมากขึ้นไปอีก ว่า ใครคือคนที่พูดความจริง
และใครคือคนที่ชอบโกหกให้คนอื่นฟังเป็นรายวัน

แต่ถ้ายังเจอประเภทข้างๆคูๆ ตะแคงซ้ายตะแคงขวา ก็คิดแต่จะใส่ร้ายเค้าว่า จ่ายสตางค์เพื่อขอพบปะกับนายเนลสัน แมนเดลลา

ระวังจะถูกฟ้องร้องข้ามประเทศ ในฐานะที่ไปดูภูกผู้นำประเทศของเขา

อย่าลืมว่า "เนลสัน แมนเดลลา" ถือเป็น Icon ของนักต่อสู้สันติวิธีเพื่อประชาธิปไตยที่แท้จริงของโลก ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามี Integrity สูงสุด คงไม่บ้ารับเงิน 2-3 ล้านเหรียญ แล้วเอาชื่อเสียงไปเสี่ยงแน่ๆ

เออ ถ้าเป็นนักการเมืองสวะๆแถวๆนี้ ที่เขมือบกันปากมัน ก็ว่าไปอย่าง!!!

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น