--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ก่อสร้าง บุก CLMV

อุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างไทย กำหนดวิสัยทัศน์ไทยเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตวัสดุก่อสร้างทันสมัยอาเซียน กุมส่วนแบ่งตลาด 50% แนะไทยปูพื้นฐานอาเซียน เน้นเพิ่มR&D ภายใต้แผนกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง เป็นคลัสเตอร์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงอยู่ที่ระดับ 2 ล้านล้านบาทต่อปีคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของไทย มีทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่ที่เป็นบริษัทระดับโลกสามารถพัฒนาศักยภาพ จนขยายธุรกิจสู่ตลาดสากล รัฐจึงกำหนดวิสัยทัศน์ ให้ประเทศไทยเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีการผลิตวัสดุก่อสร้างที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน โดยมีส่วนแบ่งตลาดในประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ไม่ต่ำกว่า 50% ภายในปี 2560 พร้อมกับการเป็นศูนย์กลาง ของการวิจัยและพัฒนา (R&D) ทางด้าน อุตสาหกรรมก่อสร้าง

นางนันทวัลย์ กล่าวต่อว่า ไทยจำเป็น ต้องส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการให้มีความเข้มแข็ง เพิ่มการวิจัยและพัฒนาด้านแรงงาน ด้านรูปแบบผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมใหม่ ในขณะเดียวกันต้องหาแนวร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หลากหลาย ภายใต้แผนกลยุทธ์พัฒนาเพื่อเป็นฐานสำหรับอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในอนาคต

ทั้งนี้ การเชื่อมโยงตลาดเออีซีนับเป็นการปูรากฐานและเครือข่ายเพื่อสร้าง ความแข็งแกร่งก่อนก้าวอย่างมั่นคงในภูมิภาคอื่น โดยเน้นขยายตลาดธุรกิจก่อสร้างไปยังประเทศเพื่อนบ้าน การสร้างมูลค่าเพิ่มในผลิตภัณฑ์ การใช้ประโยชน์จากแหล่งวัตถุดิบในประเทศสมาชิกอาเซียน การเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่างเสรี และการปรับตัวต่อการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น อันเนื่องมาจากสินค้านำเข้ามีราคาที่ถูก

"เมื่อประเทศไทยเข้าสู่เออีซี แน่ นอนว่าโอกาสทางธุรกิจขนาดมหาศาล ก็รออยู่ด้วย แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศนับเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ครั้งสำคัญ เพื่อเพิ่มขีดความ สามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต และสนับสนุนการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับกลุ่ม CLMV (กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม) ที่กำลังพัฒนาเมือง และโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศอย่างแข็งขัน ต่างต้องการสินค้าและวัสดุก่อสร้างของไทย เพราะเป็นที่ยอมรับเรื่องคุณภาพและมาตรฐาน" นางนันทวัลย์ กล่าว

+ พม่าตลาดใหม่ยิ่งนานยิ่งโต

นายบูรณ์ อินธิรัตน์ ผอ.สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงย่างกุ้ง เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมภาคบริการ มีศักยภาพมากในพม่า อาทิ ก่อสร้าง และ การท่องเที่ยว ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายการค้าการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่อง ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง การตกแต่งภายใน โรงแรม ภัตตาคาร สปา สถาบันการศึกษา โรงพยาบาล คลินิกความงาม เป็นต้น โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ปูนซีเมนต์ เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

พม่าเป็นตลาดใหม่ที่นับวันจะเติบโต ขึ้นเรื่อยๆ การค้าระหว่างไทยกับพม่าในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย.) ของปีนี้ การ ส่งออกขยายตัวดีกว่า 22% คิดเป็นมูลค่า กว่า 2,777 ล้านเหรียญสหรัฐ (86,087 ล้านบาท) ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 12% มีมูลค่า 2,912 ล้านเหรียญสหรัฐ (90,272 ล้านบาท)และทั้งปีคาดว่าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 25% ซึ่งในปี 57 ทูตพาณิชย์ ได้ประเมินในเบื้องต้นไว้ว่าจะขยายตัวราว 30% ทั้งนี้ในพม่าจะมีสถานการณ์สำคัญหลายอย่าง เช่น ในเดือนธันวาคมปีนี้จะเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ในปี 2558 จะมีการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งในปัจจุบันมีความพยายาม เปิดประเทศมากขึ้น และในปี 2557 จะเป็นประธานอาเซียน รวมทั้งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจบิมสเทค (BIMSTEC) และการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS)

+ "WINDSOR" เจาะหัวเมืองรับโอกาส

นายธีรัตถ์ อุทยานัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด เปิดเผยว่า WINDSOR ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในกลุ่มสินค้าประเภทประตูหน้าต่างไวนิล ด้วยการรุกเข้าสู่ตลาด รีเทล จากเดิมที่เน้นขายให้กับโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก ด้วยการเปิดโชว์รูม WINDSOR 25 แห่งทั่วประเทศ โดยจะเริ่มต้นเปิดตัวก่อน 4 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประกอบด้วย สนามบินน้ำ รัตนาธิเบศร์ ลาดพร้าว และฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เพื่อสร้าง experience ให้กับลูกค้า และเป็นการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายเข้าสู่ผู้บริโภคโดย ตรง ขณะที่ในต่างจังหวัดอยู่ในหัวเมืองหลัก เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น อุดรธานี ภูเก็ต หาดใหญ่ เป็นต้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาค ขณะเดียวกันก็เป็นการรองรับลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่จะเดินทางเข้ามามากขึ้นเมื่อเป็นเออีซีด้วย

ที่มา.สยามธุรกิจ
----------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น