โดย. ศรี อินทปันตี
เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจคนเสื้อแดงที่ต้องรู้สึกอ้างว้างผิดหวังอย่างรุนแรงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ตระบัดสัตย์และเหยียบย่ำศพคนตายหันไปสามัคคีรับใช้กลุ่มอำนาจเก่า ด้วยการอนุมัติร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งโดยปราศจากความละอายแก่ใจใดๆ
แต่แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกเศร้าเสียใจและความผิดหวัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะถูกใช้เป็นบท
เรียนสำหรับการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยในสังคม
เป็นทั้งบทเรียนและการศึกษาค้นคว้าหาแนวทางการต่อสู้ที่จะนำไปสู่ชัยชนะ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประเมินว่า คนเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นมวลชนประเภทที่เขาสามารถกล่อมเกลาชักจูงได้ มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นประเภทฮาร์ดคอร์เท่านั้นที่ดึงดันเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของตน
เขาจึงไม่สนใจต่อความรู้สึกของคนเสื้อแดง ดึงดันเดินหน้านิรโทษสุดซอย ทำให้ตัวเองและผู้สั่งฆ่าประชาชนได้รับนิรโทษกรรม พ้นจากความผิด
ความเห็นนี้สอดคล้องกับกลุ่มอำนาจเก่าที่มีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะกวาดล้างทำลายกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ให้หมดสิ้นไป เหมือนกับการกวาดล้างเข่นฆ่านิสิตนักศึกษาเมื่อ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ การปราบปรามเข่นฆ่าผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อพฤษภาคม ๒๕๓๕ และ ๒๕๕๓
วันนี้คนเสื้อแดงกำลังจะเผชิญกับภัยคุกคามที่น่าสะพรึงกลัว แล้วคนเสื้อแดงควรจะทำอะไร?
เริ่มต้นที่สุดก็คือ คนเสื้อแดงจะต้องรู้ให้ชัดเจนว่า กำลังสู้อยู่กับใคร ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู จะต้องแยกมิตรแยกศัตรูให้ชัดเจน
จากนั้นจะต้องค้นคว้าหาแนวทางการต่อสู้ที่ถูกต้อง โดยแนวทางการต่อสู้นั้นจะต้องสอดคล้องกับสภาวะความเป็นจริงของสังคมและสถานการณ์
ศึกษาบทเรียนการต่อสู้ทั้งของประเทศไทยเราเองและของต่างประเทศ บทเรียนการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นของคณะราษฎรผู้นำการปฏิวัติ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ การต่อสู้ของพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่ทำให้เห็นชัดเจนว่า...
การต่อสู้ที่ไม่มีทฤษฏีชี้นำ ปราศจากยุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่ถูกต้อง มันนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ได้อย่างไร
ทั้งหมดจะขาดความสามัคคีและการรู้จักตัวเองไม่ได้เลย จะต้องเชื่อมั่นว่า วันนี้พลังของคนเสื้อแดงยิ่งใหญ่และไม่ได้แตกแยกอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และอำนาจเก่าประเมินอย่างผิดๆ
วันนี้คนเสื้อแดงไม่มีความจำเป็นจะต้องออกไปสู้รบปรบมือกับใคร แค่แสดงพลังเป็นแสนคนไปนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์ในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน มันก็ทำให้แผ่นดินสะท้านและฟ้าสะเทือนได้อยู่แล้ว
คนเสื้อแดงจะต้องไม่ลืมหลักการการสะสมกำลัง รอคอยโอกาสอย่างเด็ดขาด อย่าทำอะไรให้ศัตรูใช้เป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าปราบปรามได้
วันที่ ๑๐ พฤศจิกายนไปเดินเล่นที่สี่แยกราชประสงค์กันเถอะ
ที่มา.บางกอกทูเดย์
------------------------------
เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจคนเสื้อแดงที่ต้องรู้สึกอ้างว้างผิดหวังอย่างรุนแรงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ตระบัดสัตย์และเหยียบย่ำศพคนตายหันไปสามัคคีรับใช้กลุ่มอำนาจเก่า ด้วยการอนุมัติร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งโดยปราศจากความละอายแก่ใจใดๆ
แต่แทนที่จะหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึกเศร้าเสียใจและความผิดหวัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นน่าจะถูกใช้เป็นบท
เรียนสำหรับการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งระบอบประชาธิปไตยในสังคม
เป็นทั้งบทเรียนและการศึกษาค้นคว้าหาแนวทางการต่อสู้ที่จะนำไปสู่ชัยชนะ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประเมินว่า คนเสื้อแดงส่วนใหญ่เป็นมวลชนประเภทที่เขาสามารถกล่อมเกลาชักจูงได้ มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นประเภทฮาร์ดคอร์เท่านั้นที่ดึงดันเชื่อมั่นในอุดมการณ์ของตน
เขาจึงไม่สนใจต่อความรู้สึกของคนเสื้อแดง ดึงดันเดินหน้านิรโทษสุดซอย ทำให้ตัวเองและผู้สั่งฆ่าประชาชนได้รับนิรโทษกรรม พ้นจากความผิด
ความเห็นนี้สอดคล้องกับกลุ่มอำนาจเก่าที่มีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะกวาดล้างทำลายกลุ่มเสื้อแดงฮาร์ดคอร์ให้หมดสิ้นไป เหมือนกับการกวาดล้างเข่นฆ่านิสิตนักศึกษาเมื่อ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙ การปราบปรามเข่นฆ่าผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อพฤษภาคม ๒๕๓๕ และ ๒๕๕๓
วันนี้คนเสื้อแดงกำลังจะเผชิญกับภัยคุกคามที่น่าสะพรึงกลัว แล้วคนเสื้อแดงควรจะทำอะไร?
เริ่มต้นที่สุดก็คือ คนเสื้อแดงจะต้องรู้ให้ชัดเจนว่า กำลังสู้อยู่กับใคร ใครเป็นมิตร ใครเป็นศัตรู จะต้องแยกมิตรแยกศัตรูให้ชัดเจน
จากนั้นจะต้องค้นคว้าหาแนวทางการต่อสู้ที่ถูกต้อง โดยแนวทางการต่อสู้นั้นจะต้องสอดคล้องกับสภาวะความเป็นจริงของสังคมและสถานการณ์
ศึกษาบทเรียนการต่อสู้ทั้งของประเทศไทยเราเองและของต่างประเทศ บทเรียนการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นของคณะราษฎรผู้นำการปฏิวัติ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ การต่อสู้ของพรรคการเมืองต่างๆ รวมทั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยที่ทำให้เห็นชัดเจนว่า...
การต่อสู้ที่ไม่มีทฤษฏีชี้นำ ปราศจากยุทธศาสตร์และยุทธวิธีที่ถูกต้อง มันนำไปสู่ความพ่ายแพ้ในการต่อสู้ได้อย่างไร
ทั้งหมดจะขาดความสามัคคีและการรู้จักตัวเองไม่ได้เลย จะต้องเชื่อมั่นว่า วันนี้พลังของคนเสื้อแดงยิ่งใหญ่และไม่ได้แตกแยกอย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และอำนาจเก่าประเมินอย่างผิดๆ
วันนี้คนเสื้อแดงไม่มีความจำเป็นจะต้องออกไปสู้รบปรบมือกับใคร แค่แสดงพลังเป็นแสนคนไปนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์ในวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน มันก็ทำให้แผ่นดินสะท้านและฟ้าสะเทือนได้อยู่แล้ว
คนเสื้อแดงจะต้องไม่ลืมหลักการการสะสมกำลัง รอคอยโอกาสอย่างเด็ดขาด อย่าทำอะไรให้ศัตรูใช้เป็นข้ออ้างในการเข่นฆ่าปราบปรามได้
วันที่ ๑๐ พฤศจิกายนไปเดินเล่นที่สี่แยกราชประสงค์กันเถอะ
ที่มา.บางกอกทูเดย์
------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น