สุดซอย.. ออกอาการ สุดซวย... อย่างที่ได้เตือนเอาไว้จริงๆ
เพราะวันนี้ไม่ได้มีแค่บรรดาขาประจำเจ้าเก่าเท่านั้น แต่กำลังบานสะพรั่งขยายวงต่อต้านการนิรโทษกรรมเหมาเข่งออกไปทั่วหมดทุกหัวระแหงแล้ว
คงต้องถามพรรคเพื่อไทยแล้วว่า การที่เปิดฉากแลกแบบล่อนจ้อนหมดเช่นนี้ เป็นการเดิมพันที่เกินเค้ามากเกินไปหรือเปล่า???
จริงๆ การที่ปล่อยให้นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก้มหน้าก้มตาทำงาน ไม่ต่อล้อต่อเถียงทางการเมือง จนอยู่มาได้ครบ 2 ปี แล้ว ถือว่ากำลังเดินมาถูกทาง
และกำลังจะมีเดิมพัน 2 ล้านล้านบาทให้สร้างผลงานอมตะ อภิมหาอลังการงานสร้าง จ่อลุ้นเป็นเดิมพันสำคัญอยู่ ซึ่งหากค่อยๆเล่นไปเรื่อยๆ ครั้งละล้าน 2 ล้าน ก็สามารถเล่นไปได้ 40-50 ปี โดยที่คู่แข่งทางการเมืองจะหมดสภาพไปเอง เพราแพ้ซ้ำซาก
ที่ผ่านมาการที่จะชนะประชาธิปัตย์ในสนามการเมืองไม่ใช่เรื่องยาก เพราะของมันเคยชนะกันมาตลอด หากอนาคตจะชนะไปอีกเรื่อยๆจะแปลกตรงไหน จุดนี้แหละที่ทุกคนไม่เข้าใจ ทำไมพรรคเพื่อไทยอุตริทุ่มเดิมพันชนิดหมดตัวเช่นนี้
ในเกม 2 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์แทบจะหมดเค้าเล่น กระจองอแงตีรวนไปเรื่อยๆ รือเสา รือพื้น รื้อผนังพังหลังคา เล่นเสงาะแสงะไปตามเรื่อง แบบไม่มีเค้าไม่มีเดินพันจะเอาชนะ
ยิ่งที่ผ่านมาประชาชนเองก็เบื่อหน่ายกับการเล่นการเมืองแบบมวยคู่อาฆาต ที่มุ่งผลประโยชน์ส่วนตัว ไม่ใช่ผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ทำให้กระแสของประชาธิปัตย์นับตั้งแต่ไปละทิ้งหลักการ โดดขึ้นเป็นรัฐบาลจากผลพวงของการัฐประหาร จึงยิ่งทำให้คนเห็นธาตุแท้มากขึ้น
เกมแบบนี้ เพื่อไทยชนะเห็นๆอยู่แล้ว นายกฯยิ่งลักษณ์ควรสร้างประวัติการณ์เป็นายกหญิงคนแรก แล้วก็เป็นนายกฯที่อยู่ครบเทอม 4 ปีได้ไม่ยาก... แต่พอมาเดิมพันแบบไม่ฉลาดเช่นนี้เลยเสียของอย่างน่าเสียดาย
ทั้งๆที่ต่อให้ชนะก็งั้นๆ
ในขณะที่หากพลาดพลั้งแพ้ ก็มีสิทธิพังครืนได้ง่ายๆ ก็ไม่รู้ว่าถูกใครวางยาให้ทุ่มเค้าเดิมพันแบบมึนๆ จนออกมาในรูปนี้
ที่สำคัญถ้าแพ้เพราะแรงของประชาชนจริงๆ นอกจากจะหมดเดิมพันแล้ว จะไม่ใช่แค่รัฐบาล หรือแค่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่จะต้องไป แม้แต่ตัวบุคคลก็พลอยเสี่ยงสูงไปด้วย
เพราะหากทำได้ เขากะเล่นกันยกตระกูล ให้อยู่เมืองไทยไม่ได้กันเลยด้วยซ้ำ... ไม่รู้จริงๆหรือ?
ถามจริงๆ มันคุ้มกันหรือไม่กับการเดิมพันเสี่ยงๆครั้งนี้
เดิมพันที่เล่นเอาบรรดากองเชียร์อกสั่นขวัญแขวน เล่นพิเรนทร์แบบนี้ ถามว่า ขณะนี้เดือดร้อนอะไรมากมายนักหรือ จึงต้องเทเค้าจนหมดตัวล่อนจ้อนแบบนี้
ยิ่งถ้าจะเล่นเพื่อความมันของคนชื่อ “ประยุทธ์ ศิริพานิชย์” แล้วเอาลูกเอาหลานของุกคนมาเสี่ยงด้วยแบบนี้ สะใจมากใช่ไหมประยุทธ์!!!
อย่ามาอ้างให้เหม็นขี้ฟันเลยว่า ต้องการสร้างความปรองดอง ต้องการทำเพื่อสมานฉันท์
ใช้สมองส่วนไหนคิดว่า จะสร้างความปรองดองได้บนความขัดแย้ง
ลำพังไม่ได้มีร่างกฎหมายชนวนระเบิดฉบับนี้ คู่อาฆาตขั้วตรงข้ามทางการเมืองก็ถล่มกันเละจนไม่มีทางปรองดองได้ง่ายแล้ว
มามีกฎหมายฉบับวางยา เหมาเข่งเพื่อความสะใจเข้าให้เช่นนี้ ไหนล่ะความปรองดอง
มีแต่จะฆ่ากันตายล่ะไม่ว่า... จะตะบี้ตะบันหลอกลวงผู้คน หลอกลวงสังคมไปทำไมว่าสิ่งที่ทำจะสร้างความปรองดองได้ หลอกได้อย่างเก่งก็แค่หลอกตัวเองไปวันๆเท่านั้นแหละ
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ ที่คิดว่าจะได้จารึกว่าเป็นผู้สร้างความปรองดอง จะได้เป็นรัฐมนตรี ระวังจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าเป็นคนที่ทำให้คนไทยลุกขึ้นมาฆ่าฟันกัน... ถึงวันนั้นจะรับผิดชอบไหวหรือ
รับได้หรือกับการที่จะถูกจารึกชื่อนามสกุลในฐานะคนบาป ที่ทำลายความปรองดอง
ใครก็ตามที่คิดเล่นเกมแบบนี้ได้ ต้องถือว่า Stupid สิ้นดีจริงๆ!!!
ฉะนั้นไม่แปลกที่วันนี้ คนส่วนหนึ่งในสังคม แถมทำท่าว่าจะเป็นคนส่วนใหญ่เสียด้วย เริ่มที่จะเบื่อหน่ายสภาพคู่กัดทางการเมือง จนเอือมระอาทั้งพรรคเพื่อไทย และเซ็งสุดๆกับพรรคประชาธิปัตย์ จนขยับมองหาทางเลือกใหม่ ทางออกใหม่กันบ้างแล้ว
กลายเป็นโอกาสทองของพรรคทางเลือกที่ 3 ไปในทันที
หลายคนพูดชัดอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ในเมื่อเห็นอยู่แล้วว่า ไม่ว่าจะเลือกเพื่อไทยหรือเลือกประชาธิปัตย์ ใครขึ้นเป็นรัฐบาล ก็ต้องถูกอีกฝ่ายถล่มแน่นอน ซึ่งหากปล่อยให้ฟัดกันไปเรื่อยๆเป็นมวยคู่อาฆาตทางการเมืองเช่นนี้
บาปเคราะห์ก็จะตกอยู่กับประเทศชาติ ตกอยู่กับลูกหลานไทยในอนาคต
แค่ทุกวันนี้การเมืองไม่ได้สำนึกเลยว่า การที่สารพัดผลสำรวจออกมาว่า ประเทศไทยล้าหลัง หรือที่เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม สำรวจว่าการศึกษาของไทยเป็นอันดับที่ 8 ในกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศนั้น การเมืองไม่ได้รู้สึกอับอายบ้างเลยงั้นหรือ?
นักการเมืองเคยสำนึกบ้างหรือไม่ว่า ประเทศไทยนั้นดีทุกอย่าง ไม่ว่าสภาพภูมิอากาศ หรือทรัพยากรธรรมชาติ ที่ไม่ดีมีแค่อย่างเดียยวคือนักการเมืองที่เล่นการเมืองแบบห่วยๆ จนประเทศชาติตกต่ำนั่นแหละ
ทุกวันนี้ที่ประเทศชาติจมปลักติดอยู่ในภาวะวิบัติ ก็เพราะการเมืองอ่อนแอ คิดแบบโง่ว่าผู้คนในประเทศโง่เขลา หลอกลวงให้อยู่กับรูปแบบเดิมๆได้ไม่อยากอย่างนั้นใช่หรือไม่
เชื่อจริงๆหรือว่า ผู้คนมองอะไรไม่เห็นนอกจากเห็นแค่หัวแม่เท้าตนเองใช่มั้ย
ถ้านักการเมืองเก่าๆคิดได้แค่นี้ก็สมควรจะต้องสูญพันธุ์แล้ว เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ได้ยอมก้มหน้ารับชะตากรรม โดยมองแค่หัวแม่เท้าอีกต่อไป แต่คนรุ่นใหม่เริ่มกล้าคิดกล้าแสดงออก และกล้าที่จะมีปฏิกริยา
อย่างน้อยที่ออกมาพรึ่บเต็มถนนในเวลานี้ ที่ไม่ใช่พวกหน้าเก่าเจ้าประจำ ก็น่าจะทำให้นัการเมืองสำนึกได้บ้างแล้วว่า
ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว!!!
คนรุ่นใหม่ๆคิดเป็น และจะไม่เลือกอดีตที่ฟัดกันไม่เลิกอีกต่อไปอย่างแน่นอน
หากมีทางเลือกที่ 3 ที่หน้าตาดีๆ ประวัติดีๆ คุณภาพดีๆ ออกมาเป็นทางลเอกให้กับประชาชนแล้ว รับรองได้ว่าทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์นั่นแหละจะหนาว!!!
ซึ่งพรรคทางเลือกที่ 3 อาจจะไม่ต้องมีนโยบายอะไรให้มากมายเหมือนพรรคการเมืองในอดีตเลยก็ได้ เพราะผู้คนเอียนกับนโยบายที่สวยหรู แต่หลอกลวงไปเรื่อยๆ จนผู้คนเอือมระอาและเบื่อหน่ายที่จะฟังกันแล้ว เพราะฟังกันมาตลอด
ขอแค่พรรคทางเลือกที่ 3 มีแค่นโยบายหลักข้อเดียว คือ หากใครคอรัปชั่น ก็ยึดทรัพย์ และติดคุกตลอดชีวิต
แค่ลงโทษนักการเมืองเลวๆอย่างจริงจัง
รับรองได้ว่า พรรคการเมืองที่ยึดนโยบายข้อนี้ชนะชัวร์
ที่มา.บางกอกทูเดย์
/////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น