ช่วงนี้ข่าวสารบ้านเรามีความหลากหลายสูงมาก เพราะเรื่องเก่าอย่างปัญหาน้ำท่วมก็ยังมีอยู่ให้เห็นตามสื่อ 30 จังหวัดสถานการณ์น้ำท่วมยังไม่คลี่คลาย ภาคใต้ ก็มีมรสุมแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมเยือนอยู่ มิได้ขาด ภาคเหนือก็หนาวสั่นจนขากรรไกร แทบเป็นตะคริว ที่ตายเพราะภัยหนาวก็มีให้เห็นกันแล้วปีนี้ หันไปดูทางด้านตะวันตก... คุณพระช่วย! กลายเป็นเขตภัยพิบัติชายแดน หรือภัยสงครามไปเสียแล้ว อยู่ดีๆ ก็มีระเบิด มาตกเป็นกิฟต์วอเชอร์...เออ..เข้าท่าดีเหมือน กันนะเมืองไทย
บางครั้ง...บางอารมณ์...ดูข่าวกลับไป กลับมาแล้วให้สงสัยมิได้เจ้าค่ะ???? นี่มัน ประเทศเดียวกันหรือเปล่า????.....อะไรมัน จะเยอะไปหมด???? งงสิเจ้าคะ...
แต่ภัยพิบัติใดก็ไม่เลวร้ายและเจ็บปวดเท่าข่าวนี้....ประชาชนที่มีทัศนคติยอมรับรัฐบาล ทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดี กินดี!!! ประมาณว่าโกงไม่ว่าขอข้าอิ่มด้วย...ว่างั้นเหอะ.... แนวคิดอุบาทว์นี้มีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นจาก 63.2% ในเดือนตุลาคม 2551 เพิ่มมาถึง 76.1% ในปัจจุบัน...พุ่งกว่าสถิติของราคา ทองเสียอีกนะเจ้าคะ
ซ้ำร้ายความคิดอันน่าขยะแขยงนี้ยิ่ง กำลังระบาดไปไกลยิ่งกว่าเชื้อโรคร้ายในฤดูร้อน กระจายไปทั่วทุกสาขาอาชีพ เพราะจากการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ทัศนคติของ ประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ยอมรับได้กับรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชั่น แต่ขอให้ประเทศ ชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดี กินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย
แม้เจเนอเรชั่นใหม่ๆ ที่กำลังจะเติบโตขึ้นมาเป็นขุมกำลังของชาติ มาเป็นอนาคต ของประเทศ ก็ซึมซับเอาแนวคิดแบบนี้เข้า ไปเต็มหัวเสียแล้ว เป็นที่น่าอนาถใจยิ่งนัก เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้บ่งบอกว่า มาตรฐานการแยกแยะดีชั่วของเรามันหดหายไปเสียแล้ว บรรทัดฐานทางจริยธรรม มันบิดเบือน มันผิดเพี้ยนตั้งแต่วิธีการคิด.... จนถึงการแสดงออก
ซึ่งในเรื่องนี้ผู้นำของประเทศจะว่าไง ล่ะเจ้าคะ?? ท่านนายกฯ อภิสิทธิ์ได้กล่าวไว้ เมื่อตอนเปิดงาน ป.ป.ช.โลก ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ว่า การทุจริตเป็นภัย ที่ทุกประเทศต้องร่วมกันต่อต้าน ทุกวันนี้คนไทยและเยาวชนยอมรับการโกง หากทำ ให้เศรษฐกิจเจริญก้าวหน้า ซึ่งขัดกับความ เชื่อเดิมที่ว่า การโกงจะทำให้เศรษฐกิจเสื่อมถอย ทั้งที่ไม่มีการคอร์รัปชั่นใดที่จะมีผลดี ทั้งนี้การต่อต้านการทุจริตเป็นเรื่อง ทางศีลธรรม ใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ เพราะหากประชาชนยังไม่รู้สึกต่อต้านการ ทุจริต เราก็ยังจะเผชิญปัญหานี้ในอนาคต
ดังนั้น ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงต้อง มาร่วมมือกันต่อต้านการคอร์รัปชั่น โดยบทบาทของภาคประชาสังคม และสื่อมวลชนก็เป็นส่วนสำคัญในการต่อต้าน ขณะเดียวกับ ผู้มีตำแหน่งสำคัญและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ก็ต้องให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ไทยเป็น 1 ในประเทศที่วางมาตรการ ป้องกันการทุจริตที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัด จ้างภาครัฐ และโชคดีที่ ในหลวงให้แนวคิด ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่หากคนไทยทุก คนสามารถทำได้ จะเป็นรากฐานในการสร้างศีลธรรมที่แข็งแกร่งได้
สวยหรูเจ้าค่ะ...งดงามทุกถ้อยคำวจีที่เอื้อนเอ่ย...หากขอแต่อย่าให้มันเป็น แค่ลมปากที่พ่นออกมาแล้วละลายไปกับสายลมเท่านั้น รัฐบาลและผู้นำต้องจริงใจ กับการแก้ปัญหานี้ด้วย เริ่มจากจุลภาค ไปสู่มหภาค เริ่มจากไอ้ที่ใกล้ตัวนั่นแหละเจ้าค่ะ ไม่ต้องไปมองไหนไกลดอก...เพราะ หญ้าปากคอกก็ยาวจนแหย่รูจมูกถึงไหนต่อ ไหนแล้ว...เล็มมันเสียหน่อยดีหรือเปล่า เจ้าค่ะคุณนายกฯ เจ้าขา....
ที่มา.สยามธุรกิจ
****************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น