--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

‘มาร์ค’ฟีเวอร์!

ชื่อ “มาร์ค” นั้น สำคัญไฉน???..คนไทยคงไม่ต้องใช้สะระตะไตร่ตรองอะไรๆ มากมายก็คงเพียงพอที่จะซึมซับกับความแช่มชื่นช่วงปลายปีก่อนเข้าสู่ห้วงแห่งปีกระต่ายประหนึ่งของขวัญปีใหม่จากฉายานามนี้ได้

ใกล้ตาแต่ไกลตีนนั่นคือ..“มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก” มิลเลียนแนร์ศาสดาเฟซบุ๊ก หนุ่มน้อยหน้ามนผู้เป็นดั่งความภาคภูมิใจของสาวกสังคมออนไลน์อันดับหนึ่งบนพื้นพิภพแห่งนี้ ที่เพิ่งได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปีจากนิตยสาร “ไทมส์” มาหมาดๆ

ใกล้แค่เอื้อม แต่ไล่กวดไม่ทันนั่นคือ..“มาร์ค เว็บเบอร์” นักแข่งรถสูตร 1 ฟอร์มูล่าวัน ทีมเรดบูล เรซซิ่ง ที่เพิ่งมาวาด ลวดลายโชว์ลีลาซิ่งสายฟ้าในงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ถนนแห่งประวิติศาสตร์ สตรีต ออฟ คิงส์ ราชดำเนิน เรดบูล แบงค็อก 2010 เมื่อไม่กี่เพลาที่ผ่านมา

ใกล้จะครบวาระบริหารประเทศอยู่ มะรอมมะร่อ นั่นคือ..“นายกฯ มาร์ค-อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่คล้องหลวงพ่อรอด เดินลุยไฟแดงไฟเหลืองกลางสี่แยกประเทศไทย ไปจวนจะใกล้ถึงปลายทางแห่งการ เลือกตั้งในปีข้างหน้า และเป็นผู้นำพามาซึ่ง ความหวังประชานิยมรูปแบบใหม่

ที่กลายพันธุ์จากรัฐสวัสดิการมาสู่สวัสดิการรัฐ ก่อนจะตกผลึกมาเป็น “ประชาวิวัฒน์ คิดนอกกรอบ บริหารนอกกรอบ” ในท้ายที่สุด!!!แจงสี่เบี้ยแตกไลน์ “วาระประชาวิวัฒน์เร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ” ออกเป็น 5 กลุ่ม..

1.การกระจายที่ดินทำกินและโฉนด ชุมชน แนวทางดำเนินการ จะเร่งรัดกระบวนการออกโฉนดชุมชนให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ กระจายการถือครองที่ดิน โดยเร่งรัดการใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดิน และมาตรการอื่นๆ

2.ลดภาระภาษีค่าครองชีพของผู้มี รายได้น้อย มีทั้งการขยายการเข้าถึงบริการ สาธารณะของรัฐ ลดรายจ่ายพื้นฐานของ ผู้มีรายได้น้อย เช่น ค่าน้ำ ไฟ และค่าเดินทาง และจัดระบบสนับสนุนปัจจัยสี่ที่เหมาะสม ตั้งวงเงินปล่อยกู้นอกระบบมากกว่า 5 พันล้าน

3.เศรษฐกิจนอกระบบ ได้แก่ การขยายระบบสวัสดิการเพื่อแรงงานนอกระบบ มาตรการสนับสนุนอาชีพอิสระ เช่น แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ และหาบเร่แผงลอย และการจัดระบบสถาบันการเงินเพื่อพัฒนาชุมชน และองค์กรการเงินชุมชน ที่คนกลุ่มนี้ จะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินจากสถาบันการเงินของรัฐ ที่ไม่ได้จำกัดวงเงิน โดยวาง ตัวเลขเบื้องต้นไว้ที่ 5 พันล้านบาท

4.การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ปรับระเบียบและกลไกต่อต้านการทุจริตของรัฐ เปิดเผยข้อมูลสำคัญของรัฐผ่านอินเตอร์เน็ต และสร้างความมีส่วนร่วมเอกชนและประชาสังคม เพื่อสร้างเครือข่ายต่อต้านการทุจริต

และ 5.การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน โดยจะกวดขัน และการ ปรับใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงอย่างเป็นระบบ และพัฒนากลไกการเฝ้าระวังภาคประชาชนผ่านเครือข่ายสื่อชุมชน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และระบบโทรทัศน์ วงจรปิด

สรุปอย่างกระชับ คือ วาระการลดค่า ครองชีพ การดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การจัดสรรที่ดินทำกิน และการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ที่กำลังจะระเบิดเงินคงคลังประเทศไทยนับแสนล้าน

ที่เคาะตัวเลขออกมามากมายถึงเพียง นี้คงไม่เกินเลยอะไรไปมากมาย หากนับรวมกับการขึ้นค่าตอบแทนทั้งระบบที่ “ซานตามาร์คใจดี” โปรยปรายงบประมาณชาติในวงเล็บ “พ่อประชานิยมเหลี่ยม” ไปก่อนหน้านี้

ประทับใจโคตรๆ เป็นปลื้มกันสุดๆ กับอภิมหาโปรเจกต์กล่อมให้ลืม “นายใหญ่” ประชาชนคนไทยได้กินพุงปลาโดยไม่ต้องลงมือจับ แต่จะสามารถกวาดต้อนคะแนน นิยมก่อนการเลือกตั้งได้มากน้อยเพียงใด ยังคงเป็นปริศนาอักษรไขว้ระหว่าง “อภิสิทธิ์” กับ “ทักษิณ”

กระนั้นก็เป็นพิมพ์ประชานิยมเดียว กันยิ่งกว่าถอดบล็อก “ลด แลก แจก แถม” แบบไม่เกรงกลัวว่าประชาชนจะเคยตัวจน งอมืองอเท้าไม่ยอมทำมาหากินเอง

ถึงบรรทัดนี้ จึงต้องสะกิดไว้กันลืม และอย่าลืมว่า นักการเมืองมาแล้วก็ไป ไม่มีตรรกะใดที่สะท้อนให้เห็นความจีรังยั่งยืน หากประชาชนคนไทยเอาแต่หลงใหลได้ปลื้มกับอภิมหาโปรเจกต์ “หวังน้ำบ่อหน้า”

ระวังไข้ “มาร์ค” ฟีเวอร์!!!..ตีกลับ รัฐบาลถังแตกหาเงินมาประเคนให้ไม่ทัน วันเผาจริงมาเยือนโดยไม่ได้ตั้งตัว คนไทย สำลักประชานิยมจน “ง่อยเปลี้ยเสียขา” หาปลากินเองไม่ได้

หากไม่เตรียมตัวเตรียมใจตั้งรับไว้ แต่เนิ่นๆ หากวันนั้นมาถึงจริงๆ มีหวังพี่ไทยน้องไทย ล้มทั้งยืนหัวฟาดพื้น แต่ไร้ฟูก น็อกคาเวทีประเทศไทย แล้วอย่า หาว่าไม่เตือน..ขอรับ!!!

ที่มา.สยามธุรกิจ
************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น