--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

‘ไม่หักหลัง คิดคด ทรยศ’

ว่ากันว่า “หากไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน ย่อมไม่อาจรู้จักกับคำว่าชนะที่แท้จริง” เรื่องนี้เห็นจะไม่เกินจริง เพราะต่อไปนี้คือเรื่องราวชีวิตจริงของ ส.ส.หน้าใหม่ หนุ่มไฟแรงวัยเพียง 30 กว่าๆ ที่ผ่านเรื่องราวการเมืองมาอย่างโชกโชน เคยล้มแล้วก็ลุก จนในที่สุดก็ได้มายืนแถวหน้าของ จ.ขอนแก่น กลายเป็นขวัญใจชาวบ้าน ได้ในที่สุด นั่นก็คือ “นวัธ เกาะเจริญสุข” ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย

>> เริ่มสนใจในการเมือง

“เริ่มจากการเล่นการเมืองท้องถิ่นมาก่อน โดยเป็น ส.จ.จากนั้นเป็นรองนายก อบจ.รวมแล้ว ประมาณ 2 สมัย จากนั้นราวปี 40 ก็เริ่มลงการเมือง สนามใหญ่ในนามพรรคราษฎร แต่สอบตก และเมื่อ มีการเลือกตั้งอีกครั้งในราวปี 44 ก็ลงอีกครั้งในนาม พรรคมหาชน แต่ก็สอบตกอีกครั้ง จากนั้นก็เว้นวรรคไปจนกระทั่งในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 50 จึงได้รับความไว้วางใจจากคนในพื้นที่ ในสีเสื้อพรรค พลังประชาชน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า นอกจากผลงาน ที่ทำไว้กับการเมืองท้องถิ่นแล้ว กระแสความนิยม ของพรรคก็มีส่วนสำคัญให้ได้รับเลือกเข้ามา”

>> ผลงานที่ผ่านมา

“เริ่มตั้งแต่การเป็น ส.จ.ก็ทำกิจกรรมกับ ชาวบ้านมาตลอด ทั้งเรื่องการประสานงาน ถนนหนทาง ซึ่งผมจะเน้นในเรื่องของการมีส่วนร่วมกับ ชาวบ้านตลอด ตั้งแต่ครั้งเป็น ส.จ.จนมาถึงตอนนี้”

>> จุดเด่นของตัวเอง

“ผมว่าคงเป็นจุดที่ผมทำงานจริงจัง ไม่หักหลัง คิดคด ทรยศ จงรักภักดีกับพรรค ส่วนหนึ่งเกิดจากประชาชนที่ทำให้ไม่อยาก ไปที่อื่น”

>> ความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า

“เป็นนักการเมืองยังไงก็ต้องพร้อม ถึงจะเลือกวันนี้พรุ่งนี้ก็พร้อมตลอด เพราะเราอาสาเข้ามาแล้ว ที่สำคัญเรามั่นใจ เพราะมีการลงพื้นที่ตลอด ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ผมมั่นใจในกระแส

ของพรรคเพื่อไทย ศรัทธาของคนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ยังคงยึดมั่นอยู่กับอดีตนายกฯ ทักษิณ (ชินวัตร) จนชาวบ้านบอกว่า ต่อให้ ส.ส.ทำดียังไง รักยังไง แต่อยู่พรรคอื่นก็จะไม่เลือก ซึ่งแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ปัจจุบันการเมืองเริ่มเปลี่ยนไป ตัวบุคคลเริ่มไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าจะได้รับเลือกตั้ง หรือไม่แล้ว”

“ตัวอย่างง่ายๆ ที่ผ่านมาผมลงพรรค ราษฎร มหาชน ซึ่งทำโพลออกมานำมาตลอด แต่พอเลือกตั้งจริง ผมสอบตกทั้งสองครั้ง แม้กระแสชาวบ้านจะออกมาว่ารักอดีต ส.จ.อย่างผม เพราะทำผลงานไว้มาก แต่เขาก็บอกว่า เขารักทักษิณมากกว่า เพราะมีผลงานช่วยเหลือพวกเขาเป็นรูปธรรมที่สุดกว่ารัฐบาลไหนๆ ผมจึงขอบอก เลยว่า ถ้าผมไม่ได้อยู่พรรคนี้ ผมคงไม่ได้เป็น ส.ส.และผมก็ไม่ย้ายพรรคอย่าง ส.ส.คนอื่นที่เห็นในสภา เพราะคนที่ย้ายไปแล้ว หลายคนกลับพื้นที่เข้าบ้านไม่ได้ หรือไม่สนิทใจ เพราะไม่โดนโห่ไล่ก็ถูกสาปแช่งจากคนในพื้นที่”

“เพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่า ถ้ามีการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการโกง เปลี่ยนบัตร เปลี่ยนหีบ หรืออะไรก็ตาม ภาคอีสานและเหนือจะตกเป็นของพรรคเพื่อไทย เกือบหมด ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ต้องใช้เงิน ใช้แค่การปราศรัยเท่านั้น จนในที่สุดก็จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง”

>> เรื่องนี้เลยทำให้ที่ผ่านมา

ชาวอีสานมาชุมนุมจำนวนมาก

“ผมไม่เคยเห็นครั้งไหนๆ ชาวบ้านขายข้าวขายของขายผลผลิต แล้วเอาเงิน มาสนับสนุนการชุมนุม หากใครมีเวลาก็ไป ที่สำคัญเขาไม่ง้อ ส.ส.ด้วยว่าจะช่วยหรือไม่ช่วย เขาช่วยกันบริจาคเงิน ช่วยแรง บ้างก็ช่วยเป็นผลผลิตในไร่นามาช่วยในการชุมนุม เขาประชุมบริหารจัดการกันเองหมดโดยที่ ส.ส.ไม่ได้เข้าไปเป็นแกนนำเลย มีบางคนโจมตีว่าคนมาชุมนุมได้เงิน แต่ที่ขอนแก่นตรงกันข้าม คนที่มาชุมนุมนอก จากไม่ได้เงินแล้ว ยังต้องเสียเงินบริจาคอีก บางครั้งมีการทำบัตรขายล่วงหน้าสำหรับ คนที่จะมาชุมนุมในจังหวัด ก็ได้เงินมาหลาย แสนมาเป็นกองกลาง ซึ่งถ้าเป็นอดีตถ้าจะ ให้คนมารวมกันได้ อย่างน้อยก็ต้องมีค่ารถ หรือค่าหัว แต่ตอนนี้การเมืองเปลี่ยนไปกลายเป็นประชาชนเป็นคนลงทุน”

>> เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นภาพอะไร

“มันแสดงให้เห็นว่า ประชาชนเริ่มเห็น เริ่มรู้ เริ่มเชื่อมั่นและศรัทธา โดยเฉพาะการ ศรัทธาในตัวอดีตนายกฯ ทักษิณ ซึ่งเขาเห็น ผลงานจริงที่เป็นรูปธรรม”

>> เปรียบเทียบเสื้อเหลืองกับเสื้อแดง

“เท่าที่สัมผัสมา ในภาคอีสานส่วนใหญ่เป็นเสื้อแดง เพราะเขาบอกเหตุผลว่า ดีกว่าคนที่ไม่ได้ทำอะไรให้บ้านเมือง ที่สำคัญคนที่เคยเห็นต่างส่วนหนึ่งก็เข้ามาเป็นเสื้อแดงเกือบหมดแล้ว เพราะเขาเห็น ว่าที่ผ่านมาไม่เคยเห็นผลดีอะไรอย่างเป็น รูปธรรมเลยจากอีกฝ่าย”

>> การเข้าประเทศของอดีตนายกฯ

หากกลับมาเป็นรัฐบาล

“หากกลับมาเป็นรัฐบาล เรื่องนี้ต้อง ดูความถูกต้องเป็นหลัก ไม่ว่าใครจะทำผิด ไม่ว่าเป็นอดีตนายกฯ หรือผู้ที่ถูกกักขังในข้อหาก่อการร้ายหรือคนอื่นๆ ก็ต้องทำตาม กฎหมาย ในขณะที่การตรวจสอบก็ต้องเป็นไปโดยบริสุทธิ์และยุติธรรม ผิดก็ผิด ถูกก็ถูก”

>> การถูกกล่าวหาว่ากลุ่มเสื้อแดงล้มเจ้า

“สถาบันพระมหากษัตริย์นับเป็นสถาบัน ที่สูงสุดของคนไทย ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคน รักและเทิดทูนพระองค์ท่าน การถูกกล่าวหา เราจึงยอมรับไม่ได้ เป็นการกล่าวหาข้างเดียว เพราะคนไทยเราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ เด็ก เด็กทุกคนต้องร้องเพลงชาติ สวดมนต์ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพราะฉะนั้น คน ในผืนแผ่นดินไทยทุกคน ย่อมต้องรักและเทิดทูนสถาบันทั้งสิ้น ซึ่งการถูกกล่าวหาเช่นนี้ รวมถึงกรณีอดีตนายกฯ ทักษิณ จึงเป็นการ กล่าวหาที่จ้องทำลายล้างทางการเมือง”

“ที่ผ่านมาพรรคก็ได้ชี้แจงให้สังคม รับทราบแล้วว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่เราคงไปห้ามคนที่ใส่ร้ายทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตนได้อย่างไร แต่ผมเชื่อว่าคนเสื้อแดงทุกคน จงรักภักดีต่อสถาบัน เพราะฉะนั้น ถ้าจะให้ดีรัฐบาลไม่ควรนำเรื่องสถาบัน เบื้องสูงเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะ ณ ขณะนี้ หากต้องการความสมานฉันท์ที่แท้จริง รัฐบาลต้องมีความจริงใจ ไม่ทำเพียงเพื่อโค่นล้มอำนาจฝ่ายตรงข้าม”

>> มองรัฐบาลชุดนี้

“จริงๆ คำว่าประชาธิปไตยต้องมาจากประชาชน เพราะฉะนั้น ความต้องการ ใดๆ ของประชาชนควรเป็นที่ตั้ง ผมว่าผู้บริหารที่อยู่แต่ข้างบน ไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของประชาชน อย่างทุกวันนี้พื้นที่ น้ำท่วมในขอนแก่นบางที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือค่าทดแทนอะไรเลย เขาก็โทร.มาถาม ส.ส.ในพื้นที่อย่างผมว่าตกลง รัฐบาลจะช่วยเหลือรายละเท่าไร ช่วยยังไง บางทีน้ำไม่ได้ท่วมบ้านเขา แต่ท่วมในพื้นที่ การเกษตร แล้วเขาจะเอาอะไรกิน หนี้สิน เขาจะทำยังไง ขณะที่รัฐบาลก็ไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้ สุดท้าย ณ ขณะนี้ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร ในขณะที่ภาคใต้ซึ่งถูกน้ำท่วมทีหลังกลับได้รับความช่วยเหลือแล้ว คนอีสานรวมถึงคนส่วนใหญ่มองว่า รัฐบาลไม่มีศักยภาพในการบริหารประเทศชาติ มี ปัญหามากมายถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ได้ ก็ ยิ่งทำให้ประชาชนคิดถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ”

>> เหตุการณ์รุนแรง

ทางการเมืองที่ผ่านมา

“รัฐต้องแสดงความรับผิดชอบโดยเอาผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ หาข้อเท็จจริงแล้วเอาคนสั่งการฆ่าประชาชนมาลงโทษให้ได้ เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควร เกิดขึ้นกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยในสมัยนี้แล้ว เรื่องต่างๆ มันสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยกลายเป็นประเทศที่ไม่มีมาตรฐานไปแล้ว ตอนนี้พี่น้องประชาชนไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งอะไร ผมจึงบอกประชาชนว่า วันนี้ประชาชนต้องเป็นที่พึ่งของตัวเองแล้ว แต่ว่าระหว่างที่เป็นที่พึ่งของตัวเองนี้ จะมี ส.ส.เพื่อไทยยืนอยู่เคียงข้างตลอด”

>> จุดสิ้นสุดความขัดแย้ง

“ความขัดแย้งจะจบลงได้ เมื่อมีการ เลือกตั้งใหม่ แล้วทุกฝ่ายไม่ว่าสีเสื้อใดต้อง ยอมรับในกติกา แต่การเลือกตั้งต้องเป็นไป อย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ถ้าพรรคใดได้เสียง ข้างมาก อีกฝ่ายก็ต้องยอม”

>> กรณีมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ
ยุบพรรคเพื่อไทย

“ผมเรียนว่า ในขณะที่พรรคการ เมืองบางพรรคเสนอยังไงก็ไม่ถูกยุบ ซึ่งอาจมีของขลังอะไรบางอย่าง แต่ผมเชื่อว่า ถ้าเป็นพรรคเพื่อไทยถูกเสนอให้ยุบพรรควันไหน ผมฟันธงได้เลยว่าถูกยุบแน่นอน แล้วจะถูกยุบอย่างรวดเร็วด้วย ไม่มีข้ามเดือนข้ามปี ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ความเชื่อมั่นใน ระบอบประชาธิปไตยของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่อีสานเริ่มเสื่อมไปมาก อย่าง ไรก็ตาม แม้ไม่มีพรรคเพื่อไทย วันหนึ่งก็ต้องมีพรรคอื่นที่เข้ามาสานต่อ เพราะศรัทธาของคนอีสานก็ยังมีจุดยืนเดิม”ครบถ้วนกระบวนความสำหรับมุมมองอันแหลมคมของนักการเมืองหนุ่มไฟแรงอย่าง “นวัธ เกาะเจริญสุข” ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย


ที่มา.สยามธุรกิจ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น