ความพยายามในการเจรจา สงบศึก ระหว่างเครือข่าย เสื้อแดงกับฝ่ายรัฐบาล ทั้งใต้ดิน-บนดิน ยังเดินหน้าต่อเนื่อง
แม้ว่าบางช่วง-บางจังหวะก้าว จะมีการเปลี่ยนตัวลงเล่นในเกมการเจรจา
ทว่าตัวเล่นหลัก ยังคงเป็น นายวีระ มุสิกพงศ์ และเครือข่าย "ปราจีนบุรี คอนเน็กชั่น" ที่มีองค์ประกอบครบเครื่องทั้งฝ่ายพิราบ-นักรบ-นายพล และนักการเมือง
ทั้งวัฒนา เมืองสุข นักการเมืองที่ปลอดจากพันธนาการโทษทางการเมือง ยังสังกัดฝ่ายค่ายเพื่อไทย
ทั้ง พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก เครือข่ายนายทหารวงศ์เทวัญ
ร่วมวงสอดประสานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการกับ จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นักการเมืองสายพิราบ ที่มีแนวทางการต่อสู้ก้าวข้าม "ทักษิณ ชินวัตร"
ต่อสายเข้ากับ ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เข้าถึง-เข้าใจวงสังคมและผู้มีอำนาจ
ส่ง-รับ-ถ่ายเทแลกเปลี่ยนชุดข้อมูล กับคณะกรรมการอิสระ เพื่อที่จะควานหาข้อเท็จจริงเบื้องหลังความรุนแรงชุด นายคณิต ณ นคร อย่างเป็นระบบ
ทำให้เกิดข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี และข้อเสนอเพื่อพิจารณาถึงศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เพื่อ ต่อยอดไปถึงการขอความกรุณาต่อ "ศาล" เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การประกันตัว
แต่ความพยายาม-เจรจา ผลิตข้อเสนอ อย่างเป็นระบบ ไม่เป็นผล
นักการเมืองในวงเจรจาลับ เปิดเผยอุปสรรคสำคัญของการไม่บรรลุผลการเจรจาสมานฉันท์ ว่าอยู่ที่แกนนำ นปช. "ขาใหญ่" มีมวลชนสายเหยี่ยวให้การสนับสนุนอุ่นหนาฝาคั่ง อย่าง "จตุพร พรหมพันธุ์" เป็นแนวรบสำคัญ
การเจรจา-จรยุทธ์ในเมืองของนักการเมือง-แกนนำเสื้อแดงสายสายพิราบจึงสะดุดหลายจังหวะก้าว
ความพยายามของ "วีระ มุสิกพงศ์" ถูกขัดแข้ง-ขัดขา จากพวกแกนนำคนกันเอง
การเจรจาลับจากการพบเผชิญหน้าแบบ "บังเอิญ" จึงถูก "จตุพร" วิพากษ์
การเจรจา-ปรองดอง จึงถึงแนวร่วมอย่าง "สุรชัย แซ่ด่าน" วิจารณ์อย่างรุนแรง
ขณะที่ก้าวย่างการเจรจากลางแจ้งในเมือง ระหว่างฝ่าย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและคณะ กับฝ่ายตัวแทน นปช.สายนางธิดา ถาวรเศรษฐŒ เป็นจังหวะที่ต่างฝ่ายต่างหวัง "ชนะทั้งคู่"
ฝ่าย นปช.และพวก ต้องการการประกันตัว แกนนำทั้งหมด ก่อนเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่
ส่วนฝ่ายรัฐบาลและคณะ ต้องการการยุติการเคลื่อนไหวที่รุนแรง ทั้งในเมืองและเขตชนบท และมีเงื่อนไขเรื่อง "มาตรฐานเดียว" และโยนลูกกลับไปที่กระบวนการของศาล
ยุติธรรม นายกรัฐมนตรีเปิดเผยเงื่อนไขว่า "มีขั้นตอนการพูดคุยหาข้อสรุปเพื่อยื่นต่อศาล และเป็นดุลพินิจของศาล"
"ผมพูดตรงไปตรงมาและย้ำหลายครั้งว่า ถ้าผมไปทำอะไรพิเศษกับแกนนำเป็นเรื่อง 2 มาตรฐานนะ เพราะว่าเราจะต้องดูแลทุกคนเป็นพื้นฐานเดียวกัน" เรื่อง 2 มาตรฐานถูกนำมาย้อนเกร็ด
ขณะที่ผู้บัญชาการฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายการเมือง อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี แบ่งรับแบ่งสู้กับการเจรจาเพื่อแลกกับอิสรภาพของ 7 หัวขบวนเสื้อแดง แม้จะยอมรับว่าวงเจรจาในที่แจ้ง "เป็นสัญญาณที่ดี"
ปฏิบัติการที่เกิดขึ้น 24 ชั่วโมง หลังการเจรจากลางแจ้ง คือ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม ได้เข้าเยี่ยม น.พ.เหวง โตจิราการ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นาย วิภูแถลง พัฒนภูมิไท นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายนิสิต สินธุไพร นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก ในเรือนจำ เพื่อหารือถึงการให้กรมคุ้มครองสิทธิฯเข้าไปช่วยเหลือ ในการยื่นขอประกันตัวต่อศาล
หลังจากใช้เวลาหารือนานกว่า 3 ชั่วโมง ได้ข้อสรุปว่า การประกันตัวแกนนำ นปช.ได้มอบหมายให้นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธานกลุ่ม นปช. เป็นผู้รับผิดชอบในการยื่นขอประกันตัวต่อศาลอาญา โดยขอให้กรมคุ้มครองสิทธิฯ เป็นที่ปรึกษาในการยื่นประกันตัว โดยแกนนำ นปช.จะรวบรวมเงินมาเป็นหลักทรัพย์ ในการยื่นขอประกันตัวเอง ไม่ขอความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม
รักษาการประธาน นปช. บอกความในใจว่า "อยากให้แกนนำ นปช. และกลุ่มแนวร่วมทั้ง 19 คน ได้รับการประกันตัวในอาทิตย์หน้าก่อนเทศกาลปีใหม่ เพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัว"
ชะตากรรมของแกนนำในแดนกรงขัง ยังถูกฝากไว้กับคนนอกคุก
แกนนำสายพิราบและสายเหยี่ยว ยังปะทะทางความคิด ไม่ตกผลึก
รัฐบาลและเครือข่ายอำนาจ ยังอยู่ในฐานะเป็นต่อ อย่างน้อยก็จนกว่าแกนนำนอกคุกจะยอมจำนน
ที่มา.ประชาชาติธุรกิจ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น