--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

กล่าวหา‘ทักษิณ’ไม่จงรักภักดีศาลตัดสินไม่ผิด

ศาลจังหวัดมีนบุรีตัดสินยกฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ เอเอสทีวี ร่วมกันหมิ่นประมาท “ทักษิณ” กรณีกล่าวหาใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง คิดเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองประเทศ และไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันเบื้องสูง ระบุเป็นการตั้งคำถามที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมจึงไม่เข้าข่ายทำให้เสียหาย ด้านศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืนจำคุก “สนธิ” 1 ปี ไม่รอลงอาญา กรณีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยกพวกป่วนเวทีปราศรัย ยื่นหลักทรัพย์ 2 แสนประกันตัวสู้ต่อชั้นฎีกา

ที่ศาลจังหวัดเชียงราย ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีที่นายเก่งกาจ ศรีหาสาร นักวิชาการป่าไม้ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันและปราบปรามภาคเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติ เป็นโจทก์ฟ้องนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในข้อหาหมิ่นประมาทกรณีกล่าวหานำพวกไปป่วนเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯที่สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ด้วยการปาประทัดยักษ์เข้าใส่ฝูงชนจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ทั้งนี้ ภายหลังพบว่าคนที่ปาประทัดยักษ์เป็นบุคคลอื่น ซึ่งตำรวจจับตัวดำเนินคดีไปแล้ว ข้อกล่าวหาของจำเลยจึงทำให้โจทก์ได้รับความเสื่อมเสีย นอกจากนี้ยังได้นำข้อกล่าวหาไปเผยแพร่ผ่านสื่อของจำเลยทั้งเว็บไซต์และวิทยุ ทำให้โจทก์ได้รับความเกลียดชังมากขึ้น

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2551 ให้นายสนธิมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 ให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา ให้โฆษณาคำสั่งศาลในหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับเป็นเวลา 7 วัน ซึ่งนายสนธิได้ยื่นประกันตัวและยื่นอุทธรณ์คดี

ศาลอุธรณ์ภาค 5 พิจารณาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามคำอุทธรณ์ของนายสนธิแล้วมีคำพิพากษาแก้ให้นายสนธิมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 เพิ่มโทษจำคุกเป็น 1 ปี 6 เดือน แต่มีเหตุให้บรรเทาโทษ จึงลดโทษเหลือ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 1 ปี ลดโฆษณาคำพิพากษาในหนังสือพิมพ์เหลือ 3 วัน

หลังฟังคำตัดสินนายสนธิได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวมูลค่า 200,000 บาท เพื่อต่อสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป

ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ฟ้องนายประพันธ์ คูณมี แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และบริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท

โจทก์บรรยายฟ้องสรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2551 นายประพันธ์กล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรฯที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ มีการถ่ายทอดสดผ่านเอเอสทีวี ซึ่งมีบริษัทไทยเดย์ฯเป็นเจ้าของ กล่าวหาโจทก์ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจแสวงหาประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง และยังมีแนวคิดที่จะเปลี่ยน แปลงระบบการปกครองประเทศ ไม่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานนำสืบทั้งสองฝ่ายแล้วเห็นว่าข้อความตามฟ้องเป็นการตั้งคำถามถึงการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะเรื่องความจงรักภักดี การตั้งคำถามของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อบุคคลทั่วไปที่สงสัยถึงความไม่บังควรเมื่อได้เห็นภาพโจทก์นั่งเป็นประธานทำบุญในอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม จึงไม่เข้าข่ายละเมิดให้โจทก์เสียหาย พิพากษายกฟ้อง

ที่มา.หนังสือพิมพ์ โลกวันนี้

**********************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น