การเมืองไทยช่วงท้ายปีมีเรื่องให้ลุ้นระทึกเกือบทุกสัปดาห์
พื้นที่ข่าว 2 สัปดาห์ก่อนต่อเนื่องสัปดาห์ที่แล้ว
เป็นเรื่องคำวินิจฉัยคดียุบพรรคประชาธิปัตย์จากกรณีเงิน 29 ล้านและ 258 ล้าน
มาถึงสัปดาห์นี้นอกจากผลเลือกตั้งซ่อมส.ส. 5 เขต 5 จังหวัด
ใครสอบได้ ใครสอบตก จะเป็นกระจกสะท้อนแนวโน้มเลือกตั้งใหญ่ปีหน้า
กับอีกเรื่องน่าจับตาไม่แพ้กัน
กรณี'ทักษิณ'ได้รับเชิญจากคณะกรรมาธิการด้านความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป หรือซีเอสซีอี ให้เดินทางเข้าสหรัฐ
เพื่อชี้แจงปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในไทยช่วงสลายม็อบเดือนเม.ย.-พ.ค.
นัดหมายกัน 16 ธ.ค.นี้
ต้องจับตาเพราะรัฐบาลไทยหลายคนเชื่อว่า ทักษิณไม่น่าเข้าสหรัฐได้เนื่องจากมีปัญหายื่นขอวีซ่า
หรือถ้าจับพลัดจับผลูหลุดเข้าไปได้ก็ยังต้องลุ้นช็อตสองว่า
จะโดนทางการสหรัฐล็อกตัวส่งกลับไทยตามสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่
ยังไม่มีใครรู้ว่าจริงๆ แล้วสหรัฐคิดทำอย่างไรกับเรื่องนี้
แต่ทั้งสองฝ่ายคือรัฐบาลและเครือข่ายนายใหญ่ ต่างก็ออกมาให้ข่าวเกทับบลัฟแหลก
ฝ่ายรัฐบาลไล่ตั้งแต่นายกฯอภิสิทธิ์ รัฐมนตรีกษิต จนถึงศอฉ.
มั่นใจว่าสหรัฐคงไม่ยอมเปิดประตูรับทักษิณ เข้าประเทศง่ายๆ แน่
ขณะเดียวกันบรรดาแนวร่วมรัฐบาลพยายามจะเพิ่มน้ำหนัก ด้วยการหยิบยกกรณีรัฐบาลไทยดำเนินการส่งตัว'วิกเตอร์ บูท'ให้สหรัฐแทนที่จะส่งให้รัสเซีย ขึ้นมาพูดถึง
ทำนองว่าเมื่อเป็นเช่นนี้สหรัฐก็ต้องส่งตัว'ทักษิณ'ให้ไทยเป็นการตอบแทน
ซึ่งเป็นเรื่องต้องระมัดระวัง
เพราะนายกฯอภิสิทธิ์ เพิ่งปฏิเสธไปว่าไม่เคยมีการเจรจาต่อรองใดๆ กับทางการสหรัฐในการแลกตัววิกเตอร์ บูท กับทักษิณ
รวมถึงก่อนหน้านี้นายกฯอภิสิทธิ์ ยังได้ปฏิเสธอย่างแข็งขันว่าการส่งตัววิกเตอร์ บูท ให้กับสหรัฐนั้น
เป็นการตัดสินของศาลไทย โดยรัฐบาลหรือฝ่ายบริหารไม่ได้มีส่วนเข้าไปแทรกแซงแม้แต่น้อย
โฆษกศาลเองก็ออกมาแถลงยืนยันเช่นกัน
การอ้างสนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนั้นไม่เป็นไรเพราะมีอยู่จริง
แต่การเอาเรื่องวิกเตอร์ บูท มาเป็นข้อต่อรองว่าสหรัฐต้องส่งตัว'ทักษิณ'ให้ไทยนั้น ไม่น่าจะถูกต้อง
เดี๋ยวศาลไทย'งานเข้า'เสียเปล่าๆ
แถมรัสเซียยังจะโกรธเอาอีกด้วย
ข่าวสดรายวัน คอลัมน์เหล็กใน
---------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น