--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กลุ่มคนผู้ได้รับสิทธิพิเศษในการทำผิดแล้วลอยนวล !!

บุคคลผู้แสวงหากระบวนการค้นหาความจริง ความยุติธรรม และการปรองดองที่แท้จริงควรยินดีกับข่าวในวันนี้ที่ศาลอาญาในกรุงเทพฯระบุว่า ไม่มีคนเสื้อแดงหรือผู้สนับสนุนคนเสื้อแดงคนไหนในวัดปทุมวนารามติดอาวุธในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 และกองทัพภายใต้การสั่งการของรัฐบาลนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะต้องรับผิดชอบการเสียชีวิตของพลเรือน 6 รายในวัดปทุมฯ เราต้องใช้เวลานานถึง 3 ปีเพื่อให้ความจริงเริ่มเปิดเผย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความลวงโลกของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ที่ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีข้อตำหนิ เพราะคณะกรรมการไม่มีอำนาจทางกฎหมายในการค้นหาความจริง กล่าวคือไม่มีอำนาจในการออกหมายเรียกพยาน

หากปราศจากความจริง ความยุติธรรมไม่มีทางเกิดขึ้นได้ และเมื่อไม่มีความยุติธรรม จึงไม่มีการนิรโทษกรรมที่แท้จริงและประสบผลสำเร็จ บางคนอาจกล่าวว่าในทางพฤตินัยแล้ว กลุ่มต่อต้านประชาธิปไตยหัวรุนแรงและกลุ่มพันธมิตรของพวกเขา รวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ของนายอภิสิทธิ์ได้รับนิรโทษกรรมไปแล้ว นายอภิสิทธิ์และอดีตรองนายกรัฐมนตรีสุเทพถูกแจ้งข้อหาสังหารผู้ชุมนุมพลเรือนในปี 2553 แต่กลับแสดงพฤติกรรมยะโสโอหัง เพิกเฉยต่อเงื่อนไขการประกันตัว ซึ่งเป็นการยืนยันสิทธิพิเศษของพวกเขาในการทำผิดแล้วลอยนวล

ทหารซึ่งเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมในปี 2553 ปฏิเสธอย่างโผงผางที่จะไม่ตอบคำถามใดๆเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเพื่อนร่วมชาติจากเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่สอบสวนคดีดังกล่าวทั้งสิ้น หน้ากากของการทำผิดแล้วลอยนวลเช่นนี้แตกต่างอย่างมากจากการนิรโทษกรรมที่เป็นธรรมและมีประสิทธิผล เพราะเป็นสิ่งชัวร้ายที่นายอภิสิทธิ์นำมาใช้เพื่อเพิกเฉยต่อข้อหาที่เขาถูกแจ้ง

ในทางกลับกัน การนิรโทษกรรมในทางพฤตินัยและสิทธิพิเศษในการทำผิดแล้วลอยนวลของพธม. กองทัพและพรรคประชาธิปัตย์ หมายถึงการที่คนเสื้อแดงทั่วไปยังคงถูกคุมขังในเรือนจำอย่างน่าเศร้า หลายคนถูกป้ายสี ลงโทษโดยกระบวนการยุติธรรมที่มีมลทิล และมีการสร้างหลักฐาน คนเสื้อแดงเหล่านี้ไม่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว ไม่ได้ประกันตัว และบางครั้งได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดี และอาจเรียกได้ว่าเป็นการทารุณกรรม หลายคนยังคงเศร้าเสียใจกับการสูญเสียมิตรสหายของการสังหารหมู่ปี 2553 หลายคนยังคงมีบาดแผลทางร่างกายและจิตใจจากการสังหารหมู่ครั้งนั้น

กระนั้น กลุ่มคนที่ออกคำสั่งสังหารหมู่และเสวยสุขจากการทำผิดแล้วลอยนวลกลับกำลังโจมตีการนิรโทษกรรมอย่างแท้จริงซึ่งจะปลดปล่อยเหยื่อของพวกเขา โดยการใช้ตรรกะที่ไร้สาระและคลุมเครือ มีการอ้างถึงกองกำลังติดอาวุธปริศนาซึ่งไม่เคยมีการพิสูจน์ว่าเชื่อมโยงกับคนเสื้อแดง พวกเขาใช้เรื่องดังกล่าวสร้างอำนาจทางศีลธรรมและกฎหมายในการยิง คุมขังและสังหารผู้ชุมนุม แม้จะมีความพยายามจากนายอภิสิทธิ์ในการจัดตั้งกระบวนการค้นหาความจิรงผ่านทางคณะกรรมการจอมปลอมอย่างคอป. แต่พวกเขากลับไม่มีหน้าที่ที่จะต้องเปิดเผย “ความจริง” ใดๆ สิ่งเหล่านี้เป็นภาระหน้าที่ในทางกฎหมายก่อนมีจะการนิรโทษกรรมที่แท้จริง

นิรโทษกรรมคือวิธีการหนึ่งในการแก้ไขความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม หากไม่มีความจริง ไม่มีความยุติธรรม และคนเพียงกลุ่มหนึ่งได้รับสิทธิพิเศษในการทำผิดแล้วลอยนวลเท่านั้น การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนย่อมไม่เกิดขึ้น

Read more from นปช
////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น