หลังจากที่ได้มีการผลักดันกันมาอย่างยาวนานมากกว่า 30 ปี วันนี้ความฝันของพี่น้องเกษตรกร ก็เป็นจริง โดยได้มีการจัดตั้งสภาเกษตรกรแห่งชาติขึ้นมาร่วมมือทำงานกับรัฐบาลในการร่วมคิด วิเคราะห์ และลงมือแก้ไขปัญหาความ ทุกข์ยากของพี่น้องเกษตรกรให้หมดสิ้นไป นับจากนี้ไปจะมีองค์กรที่ตั้งขึ้นมาทำหน้าที่ในการเป็นปากเสียง แทนเกษตรกรในการแก้ปัญหา ปากท้องและปัญหาทำกิน
11 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา สภา เกษตรกรแห่งชาติและรัฐบาลได้ประกาศ "คิกออฟ" เดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ และจัดทำแผนแม่บทพัฒนาภาคเกษตรกรรมจากล่างสู่บน หวังพลิกมิติใหม่ในการพัฒนาภาคเกษตรไทย และเสริมสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศ ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ได้กล่าวในการแถลงข่าวการจัดประชุมสัมมนา "การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สภาเกษตรกรแห่งชาติสู่มิติใหม่แห่งการพัฒนาภาคเกษตรกรรมอย่างยั่งยืน" ว่า หลังจากใช้เวลากว่า 4 ปี ในการผลักดันสภาเกษตรกรแห่งชาติตามพระราชบัญญัติสภาเกษตรกรแห่งชาติ พ.ศ.2553 สภาเกษตรกรฯ ได้เดินหน้า ขับเคลื่อนภารกิจของตัวเองในทันที โดยเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายด้าน การเกษตรร่วมกับภาครัฐในหลายด้าน และนับเป็นครั้งแรกที่มีตัวแทนเกษตรกรอย่างแท้จริงเข้ามามีส่วนร่วมและเป็นกระบอกเสียงในการทำงานร่วมกับรัฐบาล ซึ่งแตกต่างจากที่ผ่านมาการกำหนดนโยบาย ด้านการเกษตรไม่เคยผ่านความเห็นจากเกษตรกรทำให้แก้ปัญหาไม่ตรงจุด
ดังนั้น เพื่อเป็นการประกาศทุกภาคส่วนได้รับรู้ถึงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สภาเกษตรกรแห่งชาติอย่างเป็นรูปธรรมเป็นครั้งแรก รวมทั้งเป็นเวทีในการระดมความคิดของเกษตรกรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการจัดทำแผนแม่บท เพื่อพัฒนาเกษตรกรรมจากล่างสู่บน เสริมสร้างความเข้มแข็งของเครือข่ายเกษตรกร ทั่วประเทศ สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดทั่วประเทศ 1,732 คน พนักงานสำนักงานสภาเกษตรกร 261 คน ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องรวมทั้งหมด 2,200 คน จะมีการประชุมสัมมนา เพื่อประกาศเจตนารมณ์สร้างความร่วมมือพัฒนาประเทศชาติ โดยอาศัยพลังจากเกษตรกรทั่วประเทศ
นายประพัฒน์ กล่าวด้วยว่า ในการดำเนินงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติ ช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมานับแต่ถ่ายโอนการกำกับ ดูแลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขึ้น ตรงต่อนายกรัฐมนตรี ได้ช่วยลดช่องว่าง ระหว่างรัฐบาลและเกษตรกร ช่วยให้ปัญหา ต่างๆ ไม่ลุกลามมาบนท้องถนน หรือปิดล้อม ทำเนียบรัฐบาล เพราะสภาเกษตรกรฯ ได้เป็นตัวแทนในการนำปัญหาความเดือดร้อน ของพี่น้องเกษตรกรพูดคุยกันบนโต๊ะ แทนการพูดคุยบนท้องถนน ซึ่งเชื่อว่าบทบาทหน้าที่ของสภาเกษตรกรฯ ดังกล่าว จะช่วย ให้เกิดความเป็นปึกแผ่นในมวลหมู่พี่น้องเกษตรกร ช่วยให้พี่น้องเกษตรกรไทยมีศักดิ์ศรีในอาชีพ และเป็นที่ยอมรับของสังคม ในอนาคต
"ในช่วง 2 ปีแรกของการจัดตั้งนับตั้งแต่ปี 2553 เป็นการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งสมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดทั่วประเทศ สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ การจัดตั้งสำนักงานสภาเกษตรกร จังหวัด สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ภายใต้การสนับสนุนดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนายกรัฐมนตรีได้รับโอนงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติ จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไว้ในการกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" นายประพัฒน์ กล่าว
นอกจากนี้ ภายในงานยังจัดให้มีการ ปาฐกถาในหัวข้อ "ภาคเกษตรไทยในทศวรรษหน้าจะไปทางไหน?" โดย นาย วีรพงษ์ รามางกูร ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) การซักซ้อมเสวนา แนวทางการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์สภาเกษตรกรแห่งชาติ ปี 2556-2559 สู่การปฏิบัติเพื่อการพัฒนาภาคเกษตรกรรมอย่าง ยั่งยืน โดยประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ รวมถึงการจัดนิทรรศการทางวิชาการ และ การแสดงผลผลิตผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
นายประพัฒน์ ยังกล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่สำคัญของการจัดการประชุมสัมมนาครั้งนี้ว่า ก็เพื่อแสดงการขอบคุณต่อ รัฐบาลที่ได้ให้การสนับสนุนงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติเป็นอย่างดี รัฐบาลเห็นปัญหาความทุกข์ยากความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรให้การช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ไม่เมินเฉยต่อปัญหาดังเช่นกรณีล่าสุด ในเรื่องการปรับราคารับจำนำข้าวเปลือกของ รัฐบาลในรอบการผลิตปัจจุบันจากตันละ 12,000 บาท เป็น 15,000 บาท จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2556 ตามข้อเรียกร้องของพี่น้องเกษตรกร
ที่มา.สยามธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น