รับมือครึ่งปีหลังสินค้าจ่อปรับราคา หลังแบกต้นไม่ไหวขอความร่วมมือผู้ผลิตตรึงราคายาวถึงสิ้นปี
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการดูแลราคาสินค้าและลดค่าครองชีพประชาชนช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน โดยกำหนดให้ใช้มาตรการในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เชื่อว่าจะไม่เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด เพราะว่าเป็นมาตรการที่ดูแลครบทุกภาคส่วน ยึดหลักราคาสมเหตุสมผล
การดูแลค่าครองชีพเน้นย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล ต้องทำอย่างเหมาะสม ทั้งคุมสินค้าไม่ให้ขึ้นราคา ไม่ให้มีการเอาเปรียบ และต้องกระตุ้นการใช้จ่ายไปพร้อมๆ กัน ผ่านงานขายสินค้าซึ่งเป็นเครื่องมือที่กระทรวงมีอยู่ให้ประชาชนใช้จ่ายได้ในราคาย่อมเยา"
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า สินค้าที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป เนื่องจากต้นทุนค่าแรงและค่าเช่าสูงขึ้น ซีอิ๊ว ใช้วัตถุดิบนำเข้าซึ่งราคาถั่วเหลืองสูงขึ้น เช่นเดียวกับนมสดพร้อมดื่ม สินค้า 2 รายการนี้ ได้ขอปรับราคาแล้วแต่อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัม ต้นทุนค่าแรง ค่าภาชนะบรรจุเพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนวัตถุดิบเท่าเดิม ซึ่งได้ขอปรับขึ้นราคาแล้วแต่ยังไม่เห็นชอบ นอกจากนี้ยังมีอาหารสัตว์ (ยกเว้นไก่ไข่และหมู) เพิ่มขึ้น 4.32-11.01% น้ำปลาตราทิพรส ปรับขึ้นจากขวดละ 25 บาท เป็น 27 บาท ปูนซีเมนต์ ซึ่งราคายังไม่เกินเพดานกำหนด ก๊าซหุงต้ม ปรับราคาวันที่ 1 ก.ย. นี้
วางมาตรการดูแลราคาสินค้า
สำหรับมาตรการกำกับดูแลราคาสินค้าครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย การกำกับดูแลราคาสินค้า ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ให้มีราคาสมเหตุสมผลเป็นธรรมและปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป มาตรการขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นปี 2556 ประสานธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่จัดมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือนส.ค. จนถึงสิ้นปี 2556 มาตรการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัดทั่วประเทศเพิ่มขึ้นในพื้นที่ระดับจังหวัดและอำเภอ และมาตรการทางกฎหมายในกรณีที่สินค้าปรับเพิ่มขึ้นมาก จะประกาศเป็นสินค้าควบคุม
นอกจากนี้ มีมาตรการเสริมผ่านการออกตรวจสอบพฤติกรรมทางการค้า โดยช่วงเดือนต.ค. 2555 - ก.ค. 2556 ตรวจสอบ 263,097 ราย พบผิด 82 ราย ปรับเป็นเงิน 55,200 บาท ตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัด 3,917,138 เครื่องต่อหีบห่อ พบผิด 16,080 เครื่องต่อหีบห่อ
ขณะที่เครือข่ายที่เป็นเครื่องมือกำกับดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพ ได้แก่ โครงการธงฟ้า จัดขึ้น 2,003 ครั้ง ลดภาระค่าครองชีพประชาชน 6.015 ล้านคน เป็นเงิน 606.39 ล้านบาท ร้านถูกใจ 5,009 แห่ง ร้านธงฟ้า 5,953 แห่ง อาสาธงฟ้า 1569 มีสมาชิก 5,500 ราย ตลาดสดดีเด่น 290 แห่ง ร้านค้าก๊าซหุงต้มชั้นดี 171 ร้าน การรับประกันคุณภาพสินค้าและบริการ 52 ราย ยุวชนธงฟ้า 45 โรงเรียน 4,500 คน และน้ำมันเต็มลิตร 1,150 แห่ง
คุมเข้มสินค้าจำเป็น
กระทรวงพาณิชย์ ยังได้กำหนดมาตรการเฉพาะสำหรับสินค้าจำเป็น ได้แก่ การกำกับดูแลอาหารสำเร็จรูป (อาหารจานเดียว) 3 แนวทาง ได้แก่ 1.กำกับดูแลต้นทุนวัตถุดิบไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นมากด้วยการเชื่อมโยงวัตถุดิบจากผู้ผลิต 2.ขอความร่วมมือร้านอาหารในค้าปลีกสมัยใหม่ ศูนย์อาหารราชการ ตลาดสด ให้มีอาหารบางรายการจำหน่ายตามราคาแนะนำ และ 3.จำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงราคาถูกแก่ร้านอาหารธงฟ้าเพื่อตรึงราคาหรือลดราคาอาหาร ซึ่งจะมีการนำข้าวสารบรรจุถุงจากโครงการรับจำนำข้าวจำหน่ายให้ร้านอาหารธงฟ้าต่อไป
ส่วนสินค้าสุกร กำหนดโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร ตามที่ Pig Board เสนอให้สหกรณ์/สมาคมผู้เลี้ยงสุกรรับซื้อสุกรเพื่อส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน เป้าหมาย 1.5 แสนตัว ให้ดำเนินการเมื่อราคาสุกรภาคกลาง เท่ากับหรือมากกว่ากิโลกรัมละ 55 บาท โดยสนับสนุนค่าขนส่งจากต้นทางถึงปลายทางและค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการเฉลี่ยตัวละ 400 บาท ไข่ไก่ โครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ ปี 2555 EGG Board เสนอชดเชยการปลดแม่ไก่ยืนกรงไม่เกิน 65 สัปดาห์ ตัวละ 10 บาท เสนอให้ส่งออกต่างประเทศ ชดเชยฟองละ 0.50 สตางค์ และรณรงค์บริโภคไข่ไก่ ทั้งนี้ EGG Board ให้ตรึงราคาไข่ได้ไว้ที่ฟองละ 3.70 บาท
ชู3โครงการช่วยค่าครองชีพ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายในเร่งศึกษารูปแบบโครงการลดปัญหาค่าครองชีพ โดยให้รวมโครงการร้านถูกใจ ร้านโชวห่วยโชว์สวย ร้านอาหารธงฟ้า ซึ่งแนวทางต่างๆ จะนำเสนอต่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้พิจารณาเห็นชอบในเร็ว ๆ นี้ เบื้องต้นมองว่าจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการทั้งหมด อาทิ การขนส่ง ระบบคอลเซ็นเตอร์รับคำสั่งซื้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งธุรกิจค้าส่งปลีกไทย 5,212 ราย ซึ่งจะได้รับการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ ปรับภาพลักษณ์ร้านค้า ฯลฯ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่าร้านค้าส่งมียอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 13% ต่อเดือน ร้านค้าปลีกเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 17% ต่อเดือน
สหพัฒน์ยันไม่ขยับราคาถึงสิ้นปี
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือนก.ย. นี้ เป็นต้นไป เชื่อว่าไม่กระทบต่อต้นทุนผลิตและขนส่งสินค้า ทำให้บริษัทต้องปรับราคาสินค้าแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่งค่อนข้างน้อย
"สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การขยับราคาสินค้าของกลุ่มธุรกิจร้านอาหารซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้ก๊าซแอลพีจีค่อนข้างมาก อาจทำให้ร้านค้าฉวยจังหวะขึ้นราคา 5-10 บาท ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพผู้บริโภค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขอความร่วมมือร้านเหล่านี้ให้ตรึงราคาขาย หากจำเป็นต้องขึ้นควรขยับเพียงเล็กน้อย เพราะเมื่อเทียบกับต้นทุนก๊าซ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"
โดย สหพัฒน์ ยืนยันว่า จะตรึงราคาสินค้าจนถึงปลายปีนี้ ซึ่งสถานการณ์ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขณะนี้ ไม่เอื้อต่อการปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะการแข่งขันสูง แต่ละค่าย กลับ "ลดราคา" กระตุ้นกำลังซื้อและยอดขายอีกด้วย
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการดูแลราคาสินค้าและลดค่าครองชีพประชาชนช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชน โดยกำหนดให้ใช้มาตรการในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เชื่อว่าจะไม่เป็นการบิดเบือนกลไกตลาด เพราะว่าเป็นมาตรการที่ดูแลครบทุกภาคส่วน ยึดหลักราคาสมเหตุสมผล
การดูแลค่าครองชีพเน้นย้ำว่าเป็นเรื่องสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล ต้องทำอย่างเหมาะสม ทั้งคุมสินค้าไม่ให้ขึ้นราคา ไม่ให้มีการเอาเปรียบ และต้องกระตุ้นการใช้จ่ายไปพร้อมๆ กัน ผ่านงานขายสินค้าซึ่งเป็นเครื่องมือที่กระทรวงมีอยู่ให้ประชาชนใช้จ่ายได้ในราคาย่อมเยา"
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า สินค้าที่มีแนวโน้มปรับราคาสูงขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป เนื่องจากต้นทุนค่าแรงและค่าเช่าสูงขึ้น ซีอิ๊ว ใช้วัตถุดิบนำเข้าซึ่งราคาถั่วเหลืองสูงขึ้น เช่นเดียวกับนมสดพร้อมดื่ม สินค้า 2 รายการนี้ ได้ขอปรับราคาแล้วแต่อยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนน้ำตาลทรายบรรจุถุง 1 กิโลกรัม ต้นทุนค่าแรง ค่าภาชนะบรรจุเพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนวัตถุดิบเท่าเดิม ซึ่งได้ขอปรับขึ้นราคาแล้วแต่ยังไม่เห็นชอบ นอกจากนี้ยังมีอาหารสัตว์ (ยกเว้นไก่ไข่และหมู) เพิ่มขึ้น 4.32-11.01% น้ำปลาตราทิพรส ปรับขึ้นจากขวดละ 25 บาท เป็น 27 บาท ปูนซีเมนต์ ซึ่งราคายังไม่เกินเพดานกำหนด ก๊าซหุงต้ม ปรับราคาวันที่ 1 ก.ย. นี้
วางมาตรการดูแลราคาสินค้า
สำหรับมาตรการกำกับดูแลราคาสินค้าครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย การกำกับดูแลราคาสินค้า ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ให้มีราคาสมเหตุสมผลเป็นธรรมและปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป มาตรการขอความร่วมมือผู้ผลิตให้ตรึงราคาสินค้าถึงสิ้นปี 2556 ประสานธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งขนาดใหญ่จัดมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศ เริ่มตั้งแต่เดือนส.ค. จนถึงสิ้นปี 2556 มาตรการจัดงานธงฟ้าราคาประหยัดทั่วประเทศเพิ่มขึ้นในพื้นที่ระดับจังหวัดและอำเภอ และมาตรการทางกฎหมายในกรณีที่สินค้าปรับเพิ่มขึ้นมาก จะประกาศเป็นสินค้าควบคุม
นอกจากนี้ มีมาตรการเสริมผ่านการออกตรวจสอบพฤติกรรมทางการค้า โดยช่วงเดือนต.ค. 2555 - ก.ค. 2556 ตรวจสอบ 263,097 ราย พบผิด 82 ราย ปรับเป็นเงิน 55,200 บาท ตรวจสอบเครื่องชั่งตวงวัด 3,917,138 เครื่องต่อหีบห่อ พบผิด 16,080 เครื่องต่อหีบห่อ
ขณะที่เครือข่ายที่เป็นเครื่องมือกำกับดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพ ได้แก่ โครงการธงฟ้า จัดขึ้น 2,003 ครั้ง ลดภาระค่าครองชีพประชาชน 6.015 ล้านคน เป็นเงิน 606.39 ล้านบาท ร้านถูกใจ 5,009 แห่ง ร้านธงฟ้า 5,953 แห่ง อาสาธงฟ้า 1569 มีสมาชิก 5,500 ราย ตลาดสดดีเด่น 290 แห่ง ร้านค้าก๊าซหุงต้มชั้นดี 171 ร้าน การรับประกันคุณภาพสินค้าและบริการ 52 ราย ยุวชนธงฟ้า 45 โรงเรียน 4,500 คน และน้ำมันเต็มลิตร 1,150 แห่ง
คุมเข้มสินค้าจำเป็น
กระทรวงพาณิชย์ ยังได้กำหนดมาตรการเฉพาะสำหรับสินค้าจำเป็น ได้แก่ การกำกับดูแลอาหารสำเร็จรูป (อาหารจานเดียว) 3 แนวทาง ได้แก่ 1.กำกับดูแลต้นทุนวัตถุดิบไม่ให้เพิ่มสูงขึ้นมากด้วยการเชื่อมโยงวัตถุดิบจากผู้ผลิต 2.ขอความร่วมมือร้านอาหารในค้าปลีกสมัยใหม่ ศูนย์อาหารราชการ ตลาดสด ให้มีอาหารบางรายการจำหน่ายตามราคาแนะนำ และ 3.จำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงราคาถูกแก่ร้านอาหารธงฟ้าเพื่อตรึงราคาหรือลดราคาอาหาร ซึ่งจะมีการนำข้าวสารบรรจุถุงจากโครงการรับจำนำข้าวจำหน่ายให้ร้านอาหารธงฟ้าต่อไป
ส่วนสินค้าสุกร กำหนดโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร ตามที่ Pig Board เสนอให้สหกรณ์/สมาคมผู้เลี้ยงสุกรรับซื้อสุกรเพื่อส่งออกประเทศเพื่อนบ้าน เป้าหมาย 1.5 แสนตัว ให้ดำเนินการเมื่อราคาสุกรภาคกลาง เท่ากับหรือมากกว่ากิโลกรัมละ 55 บาท โดยสนับสนุนค่าขนส่งจากต้นทางถึงปลายทางและค่าใช้จ่ายด้านบริหารจัดการเฉลี่ยตัวละ 400 บาท ไข่ไก่ โครงการรักษาเสถียรภาพราคาไข่ไก่ ปี 2555 EGG Board เสนอชดเชยการปลดแม่ไก่ยืนกรงไม่เกิน 65 สัปดาห์ ตัวละ 10 บาท เสนอให้ส่งออกต่างประเทศ ชดเชยฟองละ 0.50 สตางค์ และรณรงค์บริโภคไข่ไก่ ทั้งนี้ EGG Board ให้ตรึงราคาไข่ได้ไว้ที่ฟองละ 3.70 บาท
ชู3โครงการช่วยค่าครองชีพ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมการค้าภายในเร่งศึกษารูปแบบโครงการลดปัญหาค่าครองชีพ โดยให้รวมโครงการร้านถูกใจ ร้านโชวห่วยโชว์สวย ร้านอาหารธงฟ้า ซึ่งแนวทางต่างๆ จะนำเสนอต่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้พิจารณาเห็นชอบในเร็ว ๆ นี้ เบื้องต้นมองว่าจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการทั้งหมด อาทิ การขนส่ง ระบบคอลเซ็นเตอร์รับคำสั่งซื้อ เป็นต้น
นอกจากนี้ ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดำเนินกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งธุรกิจค้าส่งปลีกไทย 5,212 ราย ซึ่งจะได้รับการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ ปรับภาพลักษณ์ร้านค้า ฯลฯ ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาพบว่าร้านค้าส่งมียอดขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 13% ต่อเดือน ร้านค้าปลีกเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 17% ต่อเดือน
สหพัฒน์ยันไม่ขยับราคาถึงสิ้นปี
นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เดือนก.ย. นี้ เป็นต้นไป เชื่อว่าไม่กระทบต่อต้นทุนผลิตและขนส่งสินค้า ทำให้บริษัทต้องปรับราคาสินค้าแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทใช้ก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่งค่อนข้างน้อย
"สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การขยับราคาสินค้าของกลุ่มธุรกิจร้านอาหารซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้ก๊าซแอลพีจีค่อนข้างมาก อาจทำให้ร้านค้าฉวยจังหวะขึ้นราคา 5-10 บาท ส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพผู้บริโภค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องขอความร่วมมือร้านเหล่านี้ให้ตรึงราคาขาย หากจำเป็นต้องขึ้นควรขยับเพียงเล็กน้อย เพราะเมื่อเทียบกับต้นทุนก๊าซ เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น"
โดย สหพัฒน์ ยืนยันว่า จะตรึงราคาสินค้าจนถึงปลายปีนี้ ซึ่งสถานการณ์ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคขณะนี้ ไม่เอื้อต่อการปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะการแข่งขันสูง แต่ละค่าย กลับ "ลดราคา" กระตุ้นกำลังซื้อและยอดขายอีกด้วย
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น