การเมืองนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป มากด้วยความละเอียดอ่อน เหมือนกับจะเป็น "เกม" แต่มิได้เป็นเกมอย่างธรรมชาติ ปกติ
1 มิได้เป็นการปะทะกันบนท้องถนน
ที่เห็นบริเวณแยกราชประสงค์ทุกบ่ายวันอาทิตย์ ที่เห็นแวดล้อมเวทีผ่าความจริง แห่งแล้วแห่งเล่า เสมอเป็นสินค้าตัวอย่าง
เหมือนกับความพยายามของ "ไทยสปริง"
ก็อย่างที่ "น้ำเสียง" อันสะท้อนผ่านคลิปสนทนายืนยันออกมาอย่างหนักแน่น มั่นคงยิ่งว่าปริมาณน้อยลงตามลำดับ
ที่หลับๆ ตื่นๆ ณ ท้องสนามหลวง ก็เสมอเป็นการรอคอย
ขณะเดียวกัน 1 การเคลื่อนไหวที่ดำเนินอยู่จึงเป็นการเคลื่อนไหวในทางลึก ระหว่างหัวต่อหัว หยั่งเชิงกันและกัน
หยั่งด้วยกำลัง หยั่งด้วยการต่อรอง
สิ่งที่ต้องให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษมิได้เป็นแต่ละระลอกของปรากฏการณ์ หากอยู่ที่ความพยายามในการกดดันมากกว่า
"เป้าหมาย" อยู่ตรงไหน
ในที่สุด การปล่อย "คลิป" ออกมาก็ดำเนินไปเหมือนกับการปล่อยข่าว "หึ่ง! ปลด ผบ.ทบ." อันกระหึ่มออกมาก่อนหน้านี้
นั่นก็คือ ต้องการ "เสี้ยม"
ทะลวงลิ่มเข้าไปเพื่อแยกสภาวะแนบชิดระหว่างรัฐบาลกับ ผบ.เหล่าทัพให้ถอยห่างออกจากกัน
สร้างความหวาดระแวง แคลงใจ
แม้ความเป็นจริงในการปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.มิได้เกิดขึ้น แต่ก็ทะลวงเข้าไป
แหย่งอย่าง "หยั่งเชิง"
ลองย้อนไปสำรวจดูองค์ประกอบของการปั่นและป่วนสถานการณ์ 1 เป็นการปล่อยออกมาผ่าน "ช่องทางไหน"
ไม่ว่าช่องทางของ หึ่ง ! ปลด ผบ.ทบ.
ไม่ว่าช่องทางของ "คลิป" การสนทนาของ ไวอะกร้า กับ ถั่งเช่า
ตามมาด้วยสำทับที่ว่า "หากภายในสัปดาห์นี้ไม่มีการแสดงจุดยืนจาก ผบ.เหล่าทัพก็แสดงว่าเขายอมจำนนและอยู่ใต้อาณัติมานานแล้ว จึงไม่มีปากเสียง"
เห็นหรือยังว่าใครคือ "เป้าหมาย"
ทุกอย่างยังดำเนินไปเหมือนกับเมื่อตอนที่มีการยึดทำเนียบรัฐบาลในเดือนสิงหาคม 2551 ดำเนินไปอย่างที่โปสเตอร์ 1 จากหน้ากากขาวคือ
"เมื่อไหร่ ทหารไทยจะเหมือนทหารอียิปต์"
สถานการณ์อันเนื่องแต่การยึดทำเนียบรัฐบาลในเดือนสิงหาคม และสถานการณ์ในเดือนตุลาคม 2551 ตามมาด้วยน้ำเสียงสำทับแข็งกร้าวจาก ผบ.ทบ.
"ถ้าเป็นผมลาออกแล้ว"
เป็นการพูดผ่านรายการ 1 ของโทรทัศน์ เป็นการพูดโดยคณะของ ผบ.เหล่าทัพอันขึงขังเป็นอย่างมาก
เป้าหมายอยู่ที่รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
จากนั้น ในเดือนพฤศจิกายนก็มีการยึดสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และในเดือนธันวาคม 2551 ฤทธานุภาพของตุลาการภิวัฒน์ก็สำแดงผล นั่นก็คือ การยุบพรรคพลังประชาชน
รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็พังครืน
นั่นคือท่วงทำนองอันเริ่มจากคณะทหาร นั่นคือกระสวนการไหวเคลื่อนตามแนวทางแห่งตุลาการภิวัฒน์
เป้าหมายยังอยู่ "ที่เดิม" ไม่แปรเปลี่ยน
การเมืองไทยจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ยังไปไม่ถึงไหน เหมือนยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก
มิได้เป็นการเมืองที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นกองหน้า มิได้เป็นการเมืองที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นหัวหอก
เป็นการเมือง "หลังม่าน" ลึกลับ ซ่อนเงื่อน
ที่มา.มติชน
////////////////////////////////////////////////////////////////////
1 มิได้เป็นการปะทะกันบนท้องถนน
ที่เห็นบริเวณแยกราชประสงค์ทุกบ่ายวันอาทิตย์ ที่เห็นแวดล้อมเวทีผ่าความจริง แห่งแล้วแห่งเล่า เสมอเป็นสินค้าตัวอย่าง
เหมือนกับความพยายามของ "ไทยสปริง"
ก็อย่างที่ "น้ำเสียง" อันสะท้อนผ่านคลิปสนทนายืนยันออกมาอย่างหนักแน่น มั่นคงยิ่งว่าปริมาณน้อยลงตามลำดับ
ที่หลับๆ ตื่นๆ ณ ท้องสนามหลวง ก็เสมอเป็นการรอคอย
ขณะเดียวกัน 1 การเคลื่อนไหวที่ดำเนินอยู่จึงเป็นการเคลื่อนไหวในทางลึก ระหว่างหัวต่อหัว หยั่งเชิงกันและกัน
หยั่งด้วยกำลัง หยั่งด้วยการต่อรอง
สิ่งที่ต้องให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษมิได้เป็นแต่ละระลอกของปรากฏการณ์ หากอยู่ที่ความพยายามในการกดดันมากกว่า
"เป้าหมาย" อยู่ตรงไหน
ในที่สุด การปล่อย "คลิป" ออกมาก็ดำเนินไปเหมือนกับการปล่อยข่าว "หึ่ง! ปลด ผบ.ทบ." อันกระหึ่มออกมาก่อนหน้านี้
นั่นก็คือ ต้องการ "เสี้ยม"
ทะลวงลิ่มเข้าไปเพื่อแยกสภาวะแนบชิดระหว่างรัฐบาลกับ ผบ.เหล่าทัพให้ถอยห่างออกจากกัน
สร้างความหวาดระแวง แคลงใจ
แม้ความเป็นจริงในการปลด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกจากตำแหน่ง ผบ.ทบ.มิได้เกิดขึ้น แต่ก็ทะลวงเข้าไป
แหย่งอย่าง "หยั่งเชิง"
ลองย้อนไปสำรวจดูองค์ประกอบของการปั่นและป่วนสถานการณ์ 1 เป็นการปล่อยออกมาผ่าน "ช่องทางไหน"
ไม่ว่าช่องทางของ หึ่ง ! ปลด ผบ.ทบ.
ไม่ว่าช่องทางของ "คลิป" การสนทนาของ ไวอะกร้า กับ ถั่งเช่า
ตามมาด้วยสำทับที่ว่า "หากภายในสัปดาห์นี้ไม่มีการแสดงจุดยืนจาก ผบ.เหล่าทัพก็แสดงว่าเขายอมจำนนและอยู่ใต้อาณัติมานานแล้ว จึงไม่มีปากเสียง"
เห็นหรือยังว่าใครคือ "เป้าหมาย"
ทุกอย่างยังดำเนินไปเหมือนกับเมื่อตอนที่มีการยึดทำเนียบรัฐบาลในเดือนสิงหาคม 2551 ดำเนินไปอย่างที่โปสเตอร์ 1 จากหน้ากากขาวคือ
"เมื่อไหร่ ทหารไทยจะเหมือนทหารอียิปต์"
สถานการณ์อันเนื่องแต่การยึดทำเนียบรัฐบาลในเดือนสิงหาคม และสถานการณ์ในเดือนตุลาคม 2551 ตามมาด้วยน้ำเสียงสำทับแข็งกร้าวจาก ผบ.ทบ.
"ถ้าเป็นผมลาออกแล้ว"
เป็นการพูดผ่านรายการ 1 ของโทรทัศน์ เป็นการพูดโดยคณะของ ผบ.เหล่าทัพอันขึงขังเป็นอย่างมาก
เป้าหมายอยู่ที่รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
จากนั้น ในเดือนพฤศจิกายนก็มีการยึดสนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และในเดือนธันวาคม 2551 ฤทธานุภาพของตุลาการภิวัฒน์ก็สำแดงผล นั่นก็คือ การยุบพรรคพลังประชาชน
รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็พังครืน
นั่นคือท่วงทำนองอันเริ่มจากคณะทหาร นั่นคือกระสวนการไหวเคลื่อนตามแนวทางแห่งตุลาการภิวัฒน์
เป้าหมายยังอยู่ "ที่เดิม" ไม่แปรเปลี่ยน
การเมืองไทยจากรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ยังไปไม่ถึงไหน เหมือนยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก
มิได้เป็นการเมืองที่มีพรรคประชาธิปัตย์เป็นกองหน้า มิได้เป็นการเมืองที่มีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นหัวหอก
เป็นการเมือง "หลังม่าน" ลึกลับ ซ่อนเงื่อน
ที่มา.มติชน
////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น