--- พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา ---

วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

4ปี กับภารกิจฟื้นเชื่อมั่น กบข. !!??

เปิดใจ โสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กบข. 4 ปี กับภารกิจปรับภาพลักษณ์-ผลักดันองค์กรให้มีความโปร่งใสเข้าใจสมาชิก

โสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ซึ่งกำลังจะหมดวาระงานในช่วงเดือนธ.ค.2556 เปิดใจกับ "กรุงเทพธุรกิจ" หลังครบวาระ 4 ปี ว่า ภารกิจเร่งด่วนที่สุด ที่ตั้งเป้าไว้หลังการตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการกบข.เมื่อปี 2553 อย่างแรกคือ ปรับภาพลักษณ์ กบข.ให้เป็นองค์กรแห่งธรรมาภิบาล ที่สมาชิกมีความเชื่อมั่นและไว้วางใจรวมถึงสังคมทั่วไป มอง กบข. เป็นองค์กรต้นแบบแห่งธรรมาภิบาล

แนวทางการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น โสภาวดี กล่าวว่า จะต้องทำงานโดยแยกเป็นภารกิจภายในและภารกิจภายนอก

ในส่วนภารกิจภายในได้มีการประกาศนโยบายชัดเจน ว่าพนักงานและผู้บริหารทุกคนต้องยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ผู้บริหารและพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนห้ามซื้อขายหุ้นโดยเด็ดขาด การดำเนินงานใดๆ ต่อไปนี้ต้องยึดแนวนโยบายที่ชัดเจนว่า ผลประโยชน์สมาชิกต้องมาก่อน

ขณะเดียวกันการตัดสินใจการลงทุนใดๆ ต้องมีการศึกษาให้รอบคอบ วิเคราะห์โอกาส และความเสี่ยงให้ดี พร้อมทั้งปรับแผนการลงทุนให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆ อยู่เสมอ

นอกจากนี้ ต้องหาช่องทางการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ ให้มากขึ้นเพื่อกระจายความเสี่ยง รักษาสมดุลของเป้าหมาย ผลตอบแทนระยะยาวกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาวให้กับสมาชิก

ในส่วนภารกิจภายนอกนั้น จะส่งเสริมการนำหลักการเป็นองค์กรแห่งธรรมาภิบาลที่ดี เข้ามาอยู่ในกระบวนการทำงานและบริหารกิจการ โดยจะยึดหลักในธรรมาภิบาล จรรยาบรรณและหลักปฏิบัติ ที่เกี่ยวข้องทั้งตัวองค์กรและพนักงานในทุกระดับชั้น รวมทั้งการแสดงออกซึ่งสิทธิขั้นพื้นฐานทั้งในฐานะนักลงทุนสถาบันหลักของประเทศ และในฐานะผู้ถือหุ้นในบริษัทที่กบข.ร่วมลงทุน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักลงทุน การดำเนินการโดยยึดหลักการดังกล่าวข้างต้น จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดธรรมาภิบาลในบริษัทจดทะเบียนต่างๆ

"อย่างแรกตอนที่เริ่มมาทำงานที่ กบข. คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกของ กบข.ทุกคน เนื่องจากภาพลักษณ์ที่ผ่านมาของ กบข.ดูจะไม่ดีเท่าไรในสายตาของสมาชิก เราต้องเร่งดึงความไว้ใจจากสมาชิกคืน โดยการสั่งห้ามพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ห้ามซื้อขายหุ้น และวางเป้าเป็นองค์กรแห่งธรรมาภิบาล เพราะการที่เราจะสร้างให้กบข.เป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือ เราต้องสร้างความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสจากตัวพนักงานก่อน"

ในวันนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนมากที่สุด คือภาพลักษณ์ของกบข.ที่โปร่งใส ใส่ใจเงินออมของสมาชิกมากขึ้น โดยได้ปรับแผนการลงทุนของกบข.จากแผนเดิมที่มีอยู่และใช้มานาน มาเป็นแผนการลงทุนตามทางเลือกของแต่ละบุคคล ตามความต้องการและตามความเสี่ยงของแต่ละบุคคล

โสภาวดี บอกว่า ในปีแรกที่เริ่มทำงาน นอกจากจะปรับแผนเพื่อล้างภาพลักษณ์เดิมๆ แล้ว ได้มีการปรับโครงสร้างผู้เก็บรักษาทรัพย์สินในประเทศและต่างประเทศใหม่ รวมถึงการปรับโครงสร้างการลงทุนต่างประเทศโดยจ้างผู้จัดการลงทุนต่างประเทศได้โดยตรงแทนการซื้อหน่วยลงทุน พร้อมเดินหน้าแผนการลงทุน 4 แผนตามความต้องการของสมาชิก ซึ่งแต่ละคนคาดหวังผลตอบแทนแตกต่างกัน ขึ้นกับความเสี่ยงของแต่ละคนที่สามารถยอมรับได้

ขณะที่ปี 2554 กบข.ได้ลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลงจาก 19% เหลือ 16% เพิ่มการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ และเริ่มใช้แผนจัดสรรเงินลงทุนระยะยาวตั้งแต่ปี 2554 - 2556 ส่วนในปี 2555 กบข.ได้ริเริ่มแผนการลงทุนล่าสุด คือ แผนสมดุลตามอายุ บริหารเงินทุนและปรับลดความเสี่ยงโดยอัตโนมัติจนสมาชิกเกษียณอายุ เป็นรูปแบบของการลงทุนที่เน้นความเพียงพอของการออม เพื่อใช้จ่ายหลังเกษียณอายุเป็นหลัก โดยมีระดับผลตอบแทนและความเสี่ยงผันแปรไปตามอายุ เพื่อให้เกิดความสมดุลของระยะเวลาการลงทุน ตลอดช่วงอายุของสมาชิก

"แผนแต่ละแผนเราคัดสรรมา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับสมาชิก แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะรับความเสี่ยงได้แบบไหน และต้องการผลตอบแทนสูงเท่าใด แม้ว่าในปัจจุบันสมาชิกยังเลือกการลงทุนแบบเดิมอยู่ แต่เชื่อว่าในอนาคตก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคงต้องฝากเรื่องนี้ให้เลขาธิการกบข.คนใหม่ เดินหน้าต่อด้วย เพราะถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีกับสมาชิก"

ส่วนการสรรหาเลขาธิการกบข.คนใหม่นั้น เชื่อว่าจะเริ่มกระบวนการสรรหาเร็วๆนี้ เพราะตอนนี้เริ่มมีการตั้งคณะกรรมการสรรหาแล้ว ซึ่งส่วนตัวต้องการให้การสรรหาเสร็จสิ้นก่อนสิ้นปีนี้ที่จะหมดวาระ เพราะอยากมีเวลาในการมอบหมายงานให้กับเลขาธิการคนใหม่ ไม่อยากเว้นเป็นภาวะสุญญากาศในการทำงาน

"ใจพี่อยากให้มีการสรรหาเร็วๆ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มตั้งกรรมการสรรหาแล้ว อยากให้กระบวนการสรรหาแล้วเสร็จก่อนสิ้นปี เพราะพี่อยากมีเวลาส่งมอบงาน อยากบอก อยากเล่าการทำงานที่ผ่านมา ให้คนใหม่ได้สานต่อ ไม่อยากให้มาเป็นสุญญากาศ แล้วให้พี่มานั่งรักษาการแล้วก็ไป ไม่ได้มอบหมายงานอะไรเลย"

โสภาวดี ให้ความเห็นว่า เลขาธิการกบข. คนใหม่ ควรเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ เข้าใจด้านการเงินการลงทุน และควรเป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงการเงินการลงทุน เพราะกบข.ต้องบริหารเงินของสมาชิก หากผู้บริหารไม่เข้าใจในเรื่องนี้เลย ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ประกอบกับควรเป็นผู้ที่สนใจที่จะทำงานที่ท้าทาย เป็นที่ยอมรับของสังคม ซื่อสัตย์ สุจริต และไม่มีประวัติด่างพร้อย

"คนที่จะมาเป็นเลขาธิการกบข.ต้องไม่มีประวัติด่างพร้อย ต้องเป็นคนที่ซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ยอมรับของสังคม พี่อยากให้คนใหม่สานต่องานต่างๆ ที่เราวางไว้ อาจจะมีการปรับการเปลี่ยนแปลงบ้างก็เป็นอำนาจหน้าที่ของเขาที่จะทำได้ แต่ก็อยากฝากให้ดูแผนงานที่เราวางไว้ด้วย" โสภาวดีกล่าวปิดท้าย

ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
//////////////////////////////////////////////////////////////////

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น