นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดว่าในเดือน ก.ย.นี้ จะมีการลงนามในกรอบความร่วมมือในการจัดตั้งบริษัท ทวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) ที่ร่วมมือกัน 3 ฝ่าย คือรัฐบาลไทย รัฐบาลเมียนมาร์ และรัฐบาลญี่ปุ่น โดยจะมีการเจรจา 3 ฝ่ายในเดือนส.ค.นี้ กันก่อน ทั้งนี้ทางญี่ปุ่นได้หารือแบบ 2 ฝ่าย ทั้งกับพม่า และไทยแล้ว
จากที่ฝ่ายรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่าได้ลงนาม Shareholders Agreement ฝ่ายละ 50% ลงทุนฝ่ายละ 6 ล้านบาทหรือทุน 12 ล้านบาทของบริษัท ทวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ พม่ามีแผนนำ บริษัท SPVในตลาดหุ้นไทย
นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้ง SPV 2 จดทะเบียนในเมียนมาร์ ซึ่งมีหน้าที่ลงทุน ขณะที่ SPV1 ที่จดทะเบียนในไทย ทำหน้าที่ประสานงาน ให้การสนับสนุนการบริหารจัดการโครงการทวายในภาพรวม รวมทั้งให้คำปรึกษาเชิญชวนและคัดเลือกผู้ลงทุนเข้ามาพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และเป็นผู้ถือหุ้นใน SPV2 ซึ่งจะเป็นผู้เข้าลงทุน ใน SPC จำนวน 7 แห่ง ที่จะลงทุนกิจกรรมธุรกิจ ทั้งนี้บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนท์(ITD)จะเข้ามาลงทุนหลัก ซึ่งรอให้ บริษัททวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด (DSEZ) ให้สัมปทานใหม่ โดยคาดว่าระยะเวลาใกล้เคียงที่ ITD เคยได้รับสัมปทาน ประมาณ 75-90 ปี ในโครงการทวาย
"พม่าพูดว่าโครงการทวาย มีความสำคัญเท่าเทียมโครงการติวาลา...พม่าไม่เชื่อว่า ITD จะทำโครงการทวายไปได้ ITD ก็ยอมลดบทบาท ให้รัฐบาลไทย ดำเนินการระดับรัฐต่อรัฐ เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้เร็ว และพม่าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในปี 58 ก็อยากเห็นโครงการทวายเป็นรูปเป็นร่าง"นายอาคม กล่าว
ทั้งนี้ SPC ทั้ง 7 แห่ง จะแบ่งลงทุนคือ ธุรกิจไฟฟ้า, น้ำประปา, ถนน, นิคมอุตสาหกรรมและTownship, ท่าเรือ, รถไฟ และ โทรคมนาคม โครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งอยู่เขตตะนาวศรี ประเทศเมียนมาร์มีพื้นที่ 204 ตร.กม. หรือ 124,500 ไร่ คิดเป็น 2.5 เท่าของพื้นที่อุตสาหกรรมในระยอง โครงการนี้จะเป็นประตูเศรษฐกิจ และเป็นจุดแข็งในการเชื่อมโยงเมืองเศรษฐกิจในภูมิภาค กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง(GMS) บนระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////
จากที่ฝ่ายรัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่าได้ลงนาม Shareholders Agreement ฝ่ายละ 50% ลงทุนฝ่ายละ 6 ล้านบาทหรือทุน 12 ล้านบาทของบริษัท ทวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ พม่ามีแผนนำ บริษัท SPVในตลาดหุ้นไทย
นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้ง SPV 2 จดทะเบียนในเมียนมาร์ ซึ่งมีหน้าที่ลงทุน ขณะที่ SPV1 ที่จดทะเบียนในไทย ทำหน้าที่ประสานงาน ให้การสนับสนุนการบริหารจัดการโครงการทวายในภาพรวม รวมทั้งให้คำปรึกษาเชิญชวนและคัดเลือกผู้ลงทุนเข้ามาพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย และเป็นผู้ถือหุ้นใน SPV2 ซึ่งจะเป็นผู้เข้าลงทุน ใน SPC จำนวน 7 แห่ง ที่จะลงทุนกิจกรรมธุรกิจ ทั้งนี้บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนท์(ITD)จะเข้ามาลงทุนหลัก ซึ่งรอให้ บริษัททวาย เอส อี แซด ดีเวลล๊อปเม้นท์ จำกัด (DSEZ) ให้สัมปทานใหม่ โดยคาดว่าระยะเวลาใกล้เคียงที่ ITD เคยได้รับสัมปทาน ประมาณ 75-90 ปี ในโครงการทวาย
"พม่าพูดว่าโครงการทวาย มีความสำคัญเท่าเทียมโครงการติวาลา...พม่าไม่เชื่อว่า ITD จะทำโครงการทวายไปได้ ITD ก็ยอมลดบทบาท ให้รัฐบาลไทย ดำเนินการระดับรัฐต่อรัฐ เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้เร็ว และพม่าจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในปี 58 ก็อยากเห็นโครงการทวายเป็นรูปเป็นร่าง"นายอาคม กล่าว
ทั้งนี้ SPC ทั้ง 7 แห่ง จะแบ่งลงทุนคือ ธุรกิจไฟฟ้า, น้ำประปา, ถนน, นิคมอุตสาหกรรมและTownship, ท่าเรือ, รถไฟ และ โทรคมนาคม โครงการท่าเรือน้ำลึกและนิคมอุตสาหกรรมทวาย เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งอยู่เขตตะนาวศรี ประเทศเมียนมาร์มีพื้นที่ 204 ตร.กม. หรือ 124,500 ไร่ คิดเป็น 2.5 เท่าของพื้นที่อุตสาหกรรมในระยอง โครงการนี้จะเป็นประตูเศรษฐกิจ และเป็นจุดแข็งในการเชื่อมโยงเมืองเศรษฐกิจในภูมิภาค กลุ่มประเทศลุ่มน้ำโขง(GMS) บนระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้
ที่มา.กรุงเทพธุรกิจ
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น