ส.วินาศภัย/บ.ประกัน : ประกันเปิดศึกฟ้องค่ายประกันต่อระดับ โลก "ซีซีอาร์" ของรัฐบาลฝรั่ง เศสเบี้ยวสินไหมน้ำท่วมส่วนที่เหลือ อ้างเหตุประกันไทยจัด การเคลมด้อยมาตรฐาน ด้าน ส.วินาศภัยลั่นยอมไม่ได้ขอสู้ ยันชั้นศาล ชี้หากยอมระบบประกันพังทั้งโลก เผยเตรียมขอตั้งอนุญาโตฯ ยันศาลฝรั่งเศสต้องยึดตามคำตัดสินในไทย
ขณะที่ประกันหลายค่ายเตรียมฟ้องรักษาสิทธิ์ "สามัคคีฯ" จ่อฟ้อง "เบสท์รี" ข้อหาลดหนี้ ขณะที่วิกฤติน้ำท่วมระลอก ใหม่กำลังสร้างความหวาดผวาให้กับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ธุรกิจประกันภัยกำลังเจอฝันร้ายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เนื่องจากต้องแบกรับค่าสินไหมวงเงินสูงกว่า 4.3 แสนล้านบาท แล้วล่าสุดยังประสบปัญหาผู้รับประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) ต่างประเทศทยอยเบี้ยว สินไหมที่ต้องจ่ายตามสัญญา เริ่ม ตั้งแต่บริษัทเบสท์รี ที่ขอจ่ายสินไหมครึ่งเดียว บริษัทเอเชียน รี ที่มีปัญหาเพิ่มทุนไม่ได้ และรายล่าสุดบริษัท ซีซีอาร์ ค่ายประกันภัยต่อของรัฐบาลฝรั่งเศสที่มีส่วนแบ่งในตลาดประกันต่อภัยน้ำท่วมในไทยมากที่สุดเตรียมชักดาบเช่นกัน
นายอานนท์ วังวสุ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย ในฐานะนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผย ถึงกรณีบริษัท ซีซีอาร์ มีหนังสือถึงบริษัทประกันภัยทุกแห่งที่มีสัญญา ด้วยจะขอจ่ายค่าเสียหายน้ำท่วมปี 2554 ส่วนที่ยังค้างจ่ายอยู่แค่บางส่วน ไม่ชำระเต็ม 100% เหมือนปกติเป็นว่า การกระทำที่ไม่ถูก ต้องและสร้างความเดือดร้อนให้กับสมาชิก ทั้งนี้สมาคมฯ เตรียมที่จะทำหนังสือโต้แย้งไปยังซีซีอาร์ว่าบริษัทประกันภัยทำเคลมน้ำท่วมถูกต้อง โดยใช้ผู้สำรวจภัย (แอดจัสเตอร์) และผู้เชี่ยวชาญระดับสากลมาประเมิน ความเสียหายทรัพย์สินที่เอาประกันจึงไม่มีเหตุผลที่ซีซีอาร์จะมาตัดทอนค่าเสียหายส่วนที่ค้างจ่ายอยู่ โดยจะทำหนังสือไปยังซีซีอาร์ภายในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ สมาคมฯเตรียมยื่นเรื่องขอตั้งอนุญาโตตุลาการในไทยเป็นผู้ชี้ขาดซึ่งตามสัญญากรมธรรม์สามารถทำได้โดยต้องเร่งทำก่อนสัญญากรมธรรม์จะหมดอายุความ 2 ปีภายในเดือนตุลาคมนี้เพราะหากขาดอายุความไม่สามารถเรียกร้องได้ โดยสามารถ นำคำตัดสินไปยื่นต่อศาลฝรั่งเศสซึ่งอยู่ภายใต้สนธิสัญญาประเทศภาคีที่มีสมาชิกกว่า 100 ประเทศ รวมไทยและฝรั่งเศสกำหนดให้ศาลแต่ละประเทศยอมรับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิก
"น้ำท่วมตอนนั้นสร้างความเสียหายให้กับผู้เอาประกันและบริษัทประกันที่ต้องจ่าย ค่าสินไหมตามสัญญาในกรมธรรม์เป็นเงินเยอะ ซีซีอาร์เป็นบริษัทแข็งแรงไม่ใช่มีปัญหา เหมือนเบสท์รีหรือเอเชียนรี แม้เขาจะถอนตัวออกจากตลาดไทยไปแล้วแต่ในวันข้างหน้า อาจจะกลับมาอีกก็ได้ เราจะไม่ยอมต้องต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อความถูกต้องยังไม่ได้คุยกับคปภ." นายอานนท์กล่าว
นายกสมาคมประกันวินาศภัยฯกล่าวด้วยว่า แม้การฟ้องร้องอาจใช้เวลา 1-2 ปี กว่าจะมีคำตัดสินแต่ต้องทำเพื่อปกป้องสิทธิ์ของบริษัทประกันภัย ซึ่งหากไม่ดำเนินการใดๆ ก็อาจกระทบกับระบบประกันภัยพังทั้งโลก และเมื่อทำหนังสือไปแล้ซีซีอาร์ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กลับมา สมาคมฯอาจจะใช้มาตร-การรุนแรงอื่นๆ เพิ่ม เช่น ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยและฝรั่งเศส, หอการค้า 2 ประเทศ, ตลาดประกันทั่วโลก เป็นต้น
สำหรับกรุงเทพประกันภัย นายอานนท์ บริษัทได้ทำหนังสือถึงซีซีอาร์จะตั้งอนุญาโตตุลาการมาเป็นผู้ตัดสินใจเช่นกัน โดยยอดสินไหมที่ซีซีอาร์ค้างจ่ายบริษัทอยู่เป็นหลัก 100 ล้าน
นายสุจินต์ หวั่งหลี ประธานกรรมการ บมจ.นวกิจประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทจะดำเนินการรักษาสิทธิ์ของบริษัทให้ถึงที่สุด เพราะการที่ซีซีอาร์ซึ่งเป็นบริษัทประกันต่อของรัฐบาลฝรั่งเศสมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากมาขอตัดหนี้โดยอ้างว่าบริษัทจัดการสินไหมทดแทนน้ำท่วมไม่ถูกต้องตามมาตร-ฐานเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ทั้งที่การจัดการเคลมน้ำท่วม บริษัทได้จ้างบริษัทสำรวจภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาทำเซอร์เวย์รีพอร์ตให้ โดยยอมเสียค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาท
"เรายึดถือความถูกต้อง รักษาสิทธิ์ของเราที่มี เราจ่ายผู้เอาประกันทุกเคสอย่าง เป็นธรรมไม่เคยอ้างกับลูกค้ายังไม่ได้เงินจากรีอินชัวเรอส์ ค่าเสียหาย 3.4 หมื่นล้านบาทเราจ่ายไปเกิน 95% แล้วเอาเงินของเรา จ่ายไปก่อนทั้งนั้น อยู่ๆ มาขอตัดหนี้ ยอดสินไหมน้ำท่วมไทยของซีซีอาร์น่าจะประมาณ 5 หมื่นล้านบาทเขาจ่ายมาเยอะแล้ว ของเราเหลือหลายร้อยล้าน อย่างเอเชียนรีแนว ทางที่เขาจะแปลงหนี้เป็นหุ้นเราสนใจถ้าจะช่วยเขาแก้ไขฐานะการเงินได้"
นายปิติพงศ์ พิศาลบุตร กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.นวกิจกล่าวเสริมว่า บริษัทรู้ตั้งแต่แรกความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่มากจึงใช้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับระดับโลกถึง 4 บริษัทมาประเมิน และตรวจสอบความเสียหายให้
แหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ให้ความเห็นว่า ซีซีอาร์จะยึดยอดหนี้แค่ถึงสิ้นมิ.ย. 2556 ส่วนยอดหนี้หลังจากนั้นขอแบ่งลูกค้าเป็น 3 กลุ่มเพื่อจ่ายตามสัดส่วนคือ กลุ่ม A จ่าย 90% ของมูลหนี้ กลุ่ม B จ่าย 80% กลุ่ม C จ่ายแค่ 70% ส่วนรายอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน 3 กลุ่ม จะจ่ายในสัดส่วน 90% ของมูลหนี้ โดยลูกค้า A เช่น บ.คาร์เปทอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เป็น ต้น กลุ่ม B เช่น บ.ไทยฮอนด้าแมนูแฟคเจอริ่ง เป็นต้น กลุ่ม C เช่น บ. ฮอนด้า ออโตโมบิล บริษัท สยามคูโบต้า เป็นต้น
"เมื่อเขาระบุแบบนี้ บริษัทประกันที่ได้ รับผลกระทบคือบริษัทที่ตั้งสำรองสินไหมทั้งประกันทรัพย์สินและประกันธุรกิจหยุดชะงัก (BI) ก่อนมิ.ย.ไว้น้อยหรือยังไม่ได้ตั้งสำรองไว้เลยก็จะมีปัญหา รวมถึงบริษัทประกันภัยที่มี ลูกค้าตามรายชื่อ" แหล่งข่าวระบุ
นายจิรวุฒิ บุญศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย กล่าวว่า กรณีซีซีอาร์ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการชดใช้สินไหมเกือบครบ โดยมีความเสียหายที่ต้องเรียกร้องกับซีซีอาร์ทั้งหมด 400 ล้านบาท และบริษัทได้ตั้งสำรองสินไหมทั้งหมดตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมาแล้วจึงไม่มีปัญหา ส่วนกรณีของ บ.เบสท์ รี มียอดค้างอยู่ 330 ล้านบาท บริษัทตัดสินใจจะฟ้องร้อง และในไตรมาส 3 ปีนี้จะตั้งสำรอง 100% แต่ยืนยันไม่มีผลกระทบ ต่อกำไรขาดทุนของบริษัท
ที่มา.สยามธุรกิจ
------------------------------
ขณะที่ประกันหลายค่ายเตรียมฟ้องรักษาสิทธิ์ "สามัคคีฯ" จ่อฟ้อง "เบสท์รี" ข้อหาลดหนี้ ขณะที่วิกฤติน้ำท่วมระลอก ใหม่กำลังสร้างความหวาดผวาให้กับนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ แต่ธุรกิจประกันภัยกำลังเจอฝันร้ายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554 เนื่องจากต้องแบกรับค่าสินไหมวงเงินสูงกว่า 4.3 แสนล้านบาท แล้วล่าสุดยังประสบปัญหาผู้รับประกันภัยต่อ (รีอินชัวเรอส์) ต่างประเทศทยอยเบี้ยว สินไหมที่ต้องจ่ายตามสัญญา เริ่ม ตั้งแต่บริษัทเบสท์รี ที่ขอจ่ายสินไหมครึ่งเดียว บริษัทเอเชียน รี ที่มีปัญหาเพิ่มทุนไม่ได้ และรายล่าสุดบริษัท ซีซีอาร์ ค่ายประกันภัยต่อของรัฐบาลฝรั่งเศสที่มีส่วนแบ่งในตลาดประกันต่อภัยน้ำท่วมในไทยมากที่สุดเตรียมชักดาบเช่นกัน
นายอานนท์ วังวสุ ผู้ช่วยกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.กรุงเทพประกันภัย ในฐานะนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผย ถึงกรณีบริษัท ซีซีอาร์ มีหนังสือถึงบริษัทประกันภัยทุกแห่งที่มีสัญญา ด้วยจะขอจ่ายค่าเสียหายน้ำท่วมปี 2554 ส่วนที่ยังค้างจ่ายอยู่แค่บางส่วน ไม่ชำระเต็ม 100% เหมือนปกติเป็นว่า การกระทำที่ไม่ถูก ต้องและสร้างความเดือดร้อนให้กับสมาชิก ทั้งนี้สมาคมฯ เตรียมที่จะทำหนังสือโต้แย้งไปยังซีซีอาร์ว่าบริษัทประกันภัยทำเคลมน้ำท่วมถูกต้อง โดยใช้ผู้สำรวจภัย (แอดจัสเตอร์) และผู้เชี่ยวชาญระดับสากลมาประเมิน ความเสียหายทรัพย์สินที่เอาประกันจึงไม่มีเหตุผลที่ซีซีอาร์จะมาตัดทอนค่าเสียหายส่วนที่ค้างจ่ายอยู่ โดยจะทำหนังสือไปยังซีซีอาร์ภายในสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ สมาคมฯเตรียมยื่นเรื่องขอตั้งอนุญาโตตุลาการในไทยเป็นผู้ชี้ขาดซึ่งตามสัญญากรมธรรม์สามารถทำได้โดยต้องเร่งทำก่อนสัญญากรมธรรม์จะหมดอายุความ 2 ปีภายในเดือนตุลาคมนี้เพราะหากขาดอายุความไม่สามารถเรียกร้องได้ โดยสามารถ นำคำตัดสินไปยื่นต่อศาลฝรั่งเศสซึ่งอยู่ภายใต้สนธิสัญญาประเทศภาคีที่มีสมาชิกกว่า 100 ประเทศ รวมไทยและฝรั่งเศสกำหนดให้ศาลแต่ละประเทศยอมรับคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในประเทศสมาชิก
"น้ำท่วมตอนนั้นสร้างความเสียหายให้กับผู้เอาประกันและบริษัทประกันที่ต้องจ่าย ค่าสินไหมตามสัญญาในกรมธรรม์เป็นเงินเยอะ ซีซีอาร์เป็นบริษัทแข็งแรงไม่ใช่มีปัญหา เหมือนเบสท์รีหรือเอเชียนรี แม้เขาจะถอนตัวออกจากตลาดไทยไปแล้วแต่ในวันข้างหน้า อาจจะกลับมาอีกก็ได้ เราจะไม่ยอมต้องต่อสู้ในชั้นศาลเพื่อความถูกต้องยังไม่ได้คุยกับคปภ." นายอานนท์กล่าว
นายกสมาคมประกันวินาศภัยฯกล่าวด้วยว่า แม้การฟ้องร้องอาจใช้เวลา 1-2 ปี กว่าจะมีคำตัดสินแต่ต้องทำเพื่อปกป้องสิทธิ์ของบริษัทประกันภัย ซึ่งหากไม่ดำเนินการใดๆ ก็อาจกระทบกับระบบประกันภัยพังทั้งโลก และเมื่อทำหนังสือไปแล้ซีซีอาร์ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กลับมา สมาคมฯอาจจะใช้มาตร-การรุนแรงอื่นๆ เพิ่ม เช่น ทำหนังสือถึงรัฐบาลไทยและฝรั่งเศส, หอการค้า 2 ประเทศ, ตลาดประกันทั่วโลก เป็นต้น
สำหรับกรุงเทพประกันภัย นายอานนท์ บริษัทได้ทำหนังสือถึงซีซีอาร์จะตั้งอนุญาโตตุลาการมาเป็นผู้ตัดสินใจเช่นกัน โดยยอดสินไหมที่ซีซีอาร์ค้างจ่ายบริษัทอยู่เป็นหลัก 100 ล้าน
นายสุจินต์ หวั่งหลี ประธานกรรมการ บมจ.นวกิจประกันภัย เปิดเผยว่า บริษัทจะดำเนินการรักษาสิทธิ์ของบริษัทให้ถึงที่สุด เพราะการที่ซีซีอาร์ซึ่งเป็นบริษัทประกันต่อของรัฐบาลฝรั่งเศสมีความแข็งแกร่งทางการเงินมากมาขอตัดหนี้โดยอ้างว่าบริษัทจัดการสินไหมทดแทนน้ำท่วมไม่ถูกต้องตามมาตร-ฐานเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ทั้งที่การจัดการเคลมน้ำท่วม บริษัทได้จ้างบริษัทสำรวจภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาทำเซอร์เวย์รีพอร์ตให้ โดยยอมเสียค่าใช้จ่ายหลายร้อยล้านบาท
"เรายึดถือความถูกต้อง รักษาสิทธิ์ของเราที่มี เราจ่ายผู้เอาประกันทุกเคสอย่าง เป็นธรรมไม่เคยอ้างกับลูกค้ายังไม่ได้เงินจากรีอินชัวเรอส์ ค่าเสียหาย 3.4 หมื่นล้านบาทเราจ่ายไปเกิน 95% แล้วเอาเงินของเรา จ่ายไปก่อนทั้งนั้น อยู่ๆ มาขอตัดหนี้ ยอดสินไหมน้ำท่วมไทยของซีซีอาร์น่าจะประมาณ 5 หมื่นล้านบาทเขาจ่ายมาเยอะแล้ว ของเราเหลือหลายร้อยล้าน อย่างเอเชียนรีแนว ทางที่เขาจะแปลงหนี้เป็นหุ้นเราสนใจถ้าจะช่วยเขาแก้ไขฐานะการเงินได้"
นายปิติพงศ์ พิศาลบุตร กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.นวกิจกล่าวเสริมว่า บริษัทรู้ตั้งแต่แรกความเสียหายจากน้ำท่วมใหญ่มากจึงใช้บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับระดับโลกถึง 4 บริษัทมาประเมิน และตรวจสอบความเสียหายให้
แหล่งข่าวจากบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง ให้ความเห็นว่า ซีซีอาร์จะยึดยอดหนี้แค่ถึงสิ้นมิ.ย. 2556 ส่วนยอดหนี้หลังจากนั้นขอแบ่งลูกค้าเป็น 3 กลุ่มเพื่อจ่ายตามสัดส่วนคือ กลุ่ม A จ่าย 90% ของมูลหนี้ กลุ่ม B จ่าย 80% กลุ่ม C จ่ายแค่ 70% ส่วนรายอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน 3 กลุ่ม จะจ่ายในสัดส่วน 90% ของมูลหนี้ โดยลูกค้า A เช่น บ.คาร์เปทอินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ เป็น ต้น กลุ่ม B เช่น บ.ไทยฮอนด้าแมนูแฟคเจอริ่ง เป็นต้น กลุ่ม C เช่น บ. ฮอนด้า ออโตโมบิล บริษัท สยามคูโบต้า เป็นต้น
"เมื่อเขาระบุแบบนี้ บริษัทประกันที่ได้ รับผลกระทบคือบริษัทที่ตั้งสำรองสินไหมทั้งประกันทรัพย์สินและประกันธุรกิจหยุดชะงัก (BI) ก่อนมิ.ย.ไว้น้อยหรือยังไม่ได้ตั้งสำรองไว้เลยก็จะมีปัญหา รวมถึงบริษัทประกันภัยที่มี ลูกค้าตามรายชื่อ" แหล่งข่าวระบุ
นายจิรวุฒิ บุญศิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยพาณิชย์สามัคคีประกันภัย กล่าวว่า กรณีซีซีอาร์ บริษัทไม่ได้รับผลกระทบมากนักเนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการชดใช้สินไหมเกือบครบ โดยมีความเสียหายที่ต้องเรียกร้องกับซีซีอาร์ทั้งหมด 400 ล้านบาท และบริษัทได้ตั้งสำรองสินไหมทั้งหมดตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมาแล้วจึงไม่มีปัญหา ส่วนกรณีของ บ.เบสท์ รี มียอดค้างอยู่ 330 ล้านบาท บริษัทตัดสินใจจะฟ้องร้อง และในไตรมาส 3 ปีนี้จะตั้งสำรอง 100% แต่ยืนยันไม่มีผลกระทบ ต่อกำไรขาดทุนของบริษัท
ที่มา.สยามธุรกิจ
------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น