คอลัมน์ .เป็นประชารัฐ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
โดย ลอย ลมบน
เป็นที่ทราบกันอยู่โดยทั่วไปว่ามวลชนคนเสื้อแดงเขานัดชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลกันในวันที่ 14 มี.ค. นี้ และจะเริ่มเคลื่อนขบวนกันตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ในพื้นที่ต่างจังหวัด เพื่อเข้ามารวมตัวกันในกรุงเทพฯ
เป้าหมายของการชุมนุมก็ชัดเจนว่าเขาต้องการขับไล่รัฐบาลเทพอุ้มสม ที่ได้อำนาจมาด้วยวิธีการพิเศษ เป็นพรรคการเมืองที่ไม่ได้ชนะเลือกตั้งแต่ได้เป็นรัฐบาล
ช่างสมกับคำโบราณที่ว่า แข่งเรือแข่งพายยังพอแข่งกันได้ แต่แข่งบุญวาสนามันแข่งกันไม่ได้จริงๆ แม้จะเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรคการเมือง ดูภายนอกเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลจะง่อนแง่นแต่ภายในกลับแข็งโป๊ก เพราะมีนั่งร้านชั้นดีคอยช่วยค้ำยันอยู่ตลอดเวลา
เรื่องพลังแฝงที่คอยให้การสนับสนุนรัฐบาลนั้นคนภายนอกอาจจะไม่ค่อยเชื่อ แต่หากอยากรู้ต้องลองไปถามคนในพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลดูว่าเจออะไรกันมาบ้าง
นี่เห็นว่าล่าสุดก็มีเสียงเข้มๆผ่านโทรศัพท์มาหาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค เตือนว่าอย่าแม้แต่จะคิดที่จะสลับร่างสร้างรัก ถอนตัวออกจากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เพื่อกลับไปหารักเก่าอย่างพรรคเพื่อไทย
เอาล่ะ เดี๋ยวจะไกลไปมากจากหัวเรื่องที่จั่วเอาไว้ในตอนต้น
การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มี.ค. นี้ จากที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับใครหลายคนที่ติดตามการเมืองมา พอจะจับประเด็นได้ว่าหลายคนมีความห่วงใยการชุมนุม
ความห่วงใยประการหนึ่งคือ จะมีการสร้างสถานการณ์อะไรขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมในการกวาดล้างผู้ชุมนุมหรือไม่ เพราะดูเหมือนข่าวสารที่ออกจากฝั่งรัฐบาลจะมุ่งสร้างภาพให้คนเสื้อแดงเป็นพวกชอบความรุนแรง มีการให้ข่าวอยู่ตลอดเวลาถึงเรื่องการฝึกอาวุธ จนล่าสุดคือมีระเบิดและกระสุนหายจากคลังแสงของทหาร
ที่น่าแปลกคือหายที่จังหวัดพัทลุง แต่โยงมาถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ ทั้งที่พัทลุงนั้นเป็นพื้นที่ของใครก็รู้ๆกันอยู่
นี่กำลังสร้างฉากอะไรกันหรือไม่ ตั้งเป็นคำถามเอาไว้ ไม่ได้กล่าวหาใคร
ความห่วงใยอีกประการหนึ่งคือ หากมีคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมจำนวนมากจริงอย่างที่พูดกันไว้ บรรดาแกนนำจะควบคุมฝูงชนได้หรือไม่ และจะสกรีนคนที่มาร่วมได้อย่างไรว่าใครแดงแท้ ใครแดงเทียม ใครจะแฝงเข้ามาเพื่อทำอะไรหรือไม่
ทำให้ห่วงกันว่าความตั้งใจที่จะชุมนุมโดยสงบอาจจบลงด้วยการกลายเป็นผู้ร้ายก็ได้
ความห่วงใยอีกประการที่ห่วงกันมากคือ การต่อสู้ครั้งนี้จะชนะรัฐบาลเทพอุ้มสมด้วยวิธีการใด จริงหรือที่ว่าหากมีคนออกมาร่วมเป็นแสนเป็นล้านจะทำให้นายกรัฐมนตรียอมลาออก หรือยอมที่จะยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่
ข้อห่วงใยประการสุดท้ายอันนี้เป็นข้อห่วงใยของผู้เขียนเอง คือแม้จะชนะ นายกรัฐมนตรียอมลาออกหรือยุบสภาเลือกตั้งใหม่ เมื่อพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แล้วจะยังไงต่อ
ในความคิดของผู้เขียนเห็นว่า แม้นายกรัฐมนตรีจะยอมยุบสภา พรรคเพื่อไทยจะชนะเลือกตั้ง แต่ก็ไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะของคนเสื้อแดง เพราะไม่มีอะไรการันตีได้ว่าการชนะเลือกตั้งได้เป็นรัฐบาลจะสามารถทำทุกอย่างอย่างที่ประกาศเอาไว้ได้
ดูตัวอย่างได้จากรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มีตำแหน่งแต่ไร้ซึ่งอำนาจ
บ้านเมืองวันนี้เราคงต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่า อำนาจนอกระบบใหญ่กว่าอำนาจในระบบเหมือนมดกับช้าง
การจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อย่างที่พูดกันจึงเป็นเป้าหมายที่ไกลและเลือนราง ยกเว้นว่าจะต้องยอมเหนื่อยสู้กันอย่างต่อเนื่องยาวนาน ค่อยๆทำกันไปทีละนิด ทีละหน่อย
หากจะไปให้ถึงเป้าหมายเห็นทีต้องออกแรงเหนื่อยกันอีกนาน
**********************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น