"มาร์ค"เตรียมรับม็อบเคลื่อน 20 มี.ค. เชื่อสัปดาห์หน้าการทพงานของรัฐบาลเข้าสู่ภาวะปกติ ยังปัดตอบเข้าทำเนียบฯ หรือไม่ เตรียมฟ้องศาลแกนนำเสื้อแดง รบ.ผวาคอมฯ คืนชีพ สั่งชี้แจงประชาชนคำว่า "อำมาตย์" และ "ไพร่"
"อภิสิทธิ์"เตรียมรับม็อบเคลื่อน 20 มี.ค.
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดง ซึ่งในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ประกาศจะมีการรณรงค์ทั่วกรุงเทพมหานครว่า ทุกฝ่ายในสังคมโล่งใจว่าหลายวันที่ผ่านมาไม่เกิดเหตุรุนแรง สิ่งที่กรรมการสิทธิมนุษยนชน สื่อสารมายังคนคือให้รักษาจุดนี้เอาไว้ จึงต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้เริ่มเกิดมีการพูดคุยกัน ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า ถ้ารักษาลักษณะการชุมนุมให้เป็นไปโดยสงบได้ รัฐบาลก็พร้อมคุย ส่วนความเดือดร้อนของชาวกรุงเทพนั้น รัฐบาลยังเดินหน้าในการประสานงานกับผู้ชุมนุมเพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งต่อไปรัฐบาล จะต้องขอให้คืนพื้นที่ตรงบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากจะมีการเพราะงานกาชาดในช่วงปลายเดือนมีนาคม ส่วนการเคลื่อนไหวในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคมนั้น ก็เป็นเรื่องการแสดงเจตนาของผู้ชุมนุมที่จะเดินทางไปรอบๆกทม. รัฐบาลก็จะประสานเพื่อขอแผนการเดินทางเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจร
เมื่อถามว่า มองว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลไม่มีสิทธิบอกประชาชนว่าจะชุมนุมได้กี่วัน ถ้าเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ต้องอยู่ภายใต้กติกา เพื่อการดำเนินงานด้านต่างๆ เป็นไปตามปกติได้ ซึ่งในสัปดาห์นี้ ที่ดูว่าไม่ค่อยปกตินั้น เพราะรัฐบาลไม่ต้องการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความตึงเครียดในช่วงเริ่มต้นการชุมนุม และมีความร้อนแรง แต่หลังจากนี้ เมื่อมีกติกาและมีคนเชื่อมต่อก็จะสามารถนำทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติได้ การทำงานของรัฐบาลในสัปดาห์หน้านั้น จะเข้าสู่ภาวะปกติกว่าในสัปดาห์นี้
เมื่อถามว่า ในสัปดาห์นายกฯ จะเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูดอะไรล่วงหน้าทุกอย่างต้องเป็นไปทีละขั้นตอน เหตุและผลของสถานการณ์ ในเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนจะให้ไปตอบล่วงหน้าไม่ได้ จะพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะหน้าที่สำคัญของเราคือการรักษาความสงบและชีวิตของคนไทนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม และต้องไม่เสียงาน ตนยืนยันว่าขณะนี้ก็สามารถบริหารงานได้ตามปกติ ซึ่งเดิมก่อนที่จะมีการชุมนุมเป็นช่วงที่ตนเดินทางไปต่างประเทศ ในส่วนของสภา ก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อลดความขัดแย้งอยู่
"มาร์ค"เตรียมฟ้องเสื้อแดง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า กำลังเรียบเรียงคำฟ้องเอาผิดแกนนำคนเสื้อแดง โดยกรณีของคลิปเสียงนี้ศาลอาญาได้ประทับรับฟ้องไปแล้ว ซึ่งอาจขอคำคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้มีการนำประเด็นดังกล่าวมาใช้อีก ครั้งนี้ ตนจะฟ้องเพิ่มเติมคือในส่วนของพล.ต.ท.ทักษิณ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง และดูเพิ่มเติมจากการปราศรัยเมื่อคืนวันที่ 17 มีนาคม เนื่องจากมีถ้อยคำที่เป็นเท็จ หมิ่นประมาทชัดเจน
เมื่อถามว่า จะฟ้องร้องใครบ้างที่นำเลือดไปเทและขว้างปาสิ่งของเข้าไปภายในบ้านพักนายกฯ นายอภิสิทธิ์ หากหลักฐานที่มีอยู่ระบุว่าใครขว้างบ้าง ก็จะขอใช้สิทธิ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่กรมทหารราบที่ 11รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศอ.รส. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ธีระวัฒน์ บุณยะประดับ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผบ.ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ.ทบ. พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสธ.ทบ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และ พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ในที่ประชุม นายกฯหยิบยกประเด็นกลุ่มคนเสื้อแดงปิดล้อมและนำถุงเลือดปาใส่บ้านนายกฯ ในซอยสุขุมวิท 31 มาหารือ
"ประวิตร"ชี้ชุมนุมไม่น่าห่วง ยังไม่ปรับแผน
พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตอนนี้สถานการณ์การชุมนุมไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง การปฏิบัติหน้าที่ของทหาร และ ตำรวจ และเฝ้าระวังตามสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมถึงบ้านพักบุคคลสำคัญที่ผ่านมาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก รู้สึกพอใจต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ เท่าที่ ศอ.รส.ประเมินสถานการณ์ ยังไม่จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติงานในการดูแลความเรียบร้อยต้องขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ร่วมมือร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่
ด้านพล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวว่า ว่า ที่ประชุม ศอ.รส. ไม่ได้หยิบยกกรณีกลุ่มเสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ แต่ทาง ศอ.รส.จะติดตามว่าผู้ชุมนุมจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
"มาร์ค"ผวาคอมฯคืนชีพสั่งชี้แจง
ด้านนายสาทิตย์ วงษ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯและแกนนำคนเสื้อแแดงประกาศทำสงครามชนชั้น โดยใช้คำว่า "อำมาตย์" กับ "ไพร่" ว่า โอกาสที่จะนำแนวคิดของระบอบคอมมิวนิสต์เมื่อ 30 ปีที่แล้วมา เป็นเงื่อนไขจึงเป็นไปได้ สิ่งที่รัฐบาลพยายามคือการอธิบายให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชนว่า ความหมายของทั้งสองคำคืออะไร โดยให้รัฐมนตรีแต่ละกระทรวงไปชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางการช่วยเหลือคนยากจน ปัญหาที่ดินทำกิน ปัญหาหนี้สินที่รัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่ นายกฯ สั่งการในที่ประชุม ศอ.รส. ให้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นระบบทั้งผ่านสื่อ และผ่านเครือข่ายในต่างจังหวัด ซึ่งกอ.รมน.รับผิดชอบ และจะให้นักวิชาการทำความใจกับประชาชนเพราะถือเป็นเงื่อนไขนำไปสู่ความขัดแย้งที่จะนำมาประเทศกลับไปสู่สงครามคอมมิวนิสต์ เพราะดูแนวทาง พ.ต.ท.ทักษิณ จะใช้เงื่อนไขนี้ปลุกระดม ความจริงสงครามชนชั้นตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ อธิบายนั้น ในสังคมไทยไม่มีแล้ว
"นายกฯสั่งการในที่ประชุม ศอ.รส. เพื่อชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลมีแนวทางแก้ปัญหาคนยากจน เช่นกว่า 3 ล้านครอบครัวที่เข้าสู่กระบวนการประกันรายได้ หลายสิบล้านคนเข้าสู่กระบวนการเรียนฟรี 15 ปี และแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน" นายสาทิตย์ กล่าว
นายสาทิตย์ กล่าวด้วยว่า นายกฯกังวลมากคือวันที่ 20 มีนาคมที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเคลื่อนไปทั่วกรุงเทพฯ ให้ตำรวจนครบาลพูดกับผู้ชุมนุมถึงแผนการ จะได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชน แกนนำจะนำไปสู่ความรุนแรงหรือไม่นั้น ตนยังไม่ไว้วางใจเรื่องสถานากรณ์ที่อาจมีบางฝ่ายมาก่อความรุนแรง เราก็ดูกันอยู่
จนท.กทม.ติดเชื้อหลังล้างเลือด
พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ กล่าวว่า ส่งเจ้าหน้าที่สำนักอนามัย (สนอ.) กทม.เข้าไปประสานแกนนำผู้ชุมนุมดูแลระบบสุขาภิบาลในพื้นที่ชุมนุม โดยจัดรถเข้าไปเก็บขนถ่ายสิ่งปฎิกูล และให้สำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) ฉีดล้างท่อระบายน้ำ เนื่องจากไม่ต้องการให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรค
วันเดียวกัน หน่วยเก็บขยะพิษขยะติดเชื้อ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด รายงานว่าจากการตรวจสอบขยะติดเชื้อที่เก็บขนมาจากพื้นที่ชุมนุมในวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่ามีกระบอกฉีดยา เข็มเจาะเลือด ผ่านการใช้งานแล้วประมาณ 5,000 อัน นอกจากนี้ สนอ.รายงานการปฏิบัติหน้าที่ของชุดปฏิบัติการในการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อของ กทม. หลังจากที่ล้างทำความสะอาดพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมนำเลือดไปเทราด ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีอาการท้องเสียอย่างรุนแรง โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งผู้ป่วยยืนยันว่าในวันดังกล่าวไม่ได้กินอาหารแสลง
วันเดียวกัน เวลา 13.30 น. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. ตรวจเยี่ยม ติดตามผลการปฏิบัติหน้าที่ราชการของตำรวจภูธรภาค 4 โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 มี พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.4 พร้อมนายตำรวจร่วมและยังประชุมทางไกลผ่านจอภาพไปยังตำรวจภูธรจังหวัดในสังกัด โดยไม่ให้สื่อมวลชนรับฟัง
ต่อมา พล.ต.อ.ปทีป ให้สัมภาษณ์ว่า ในการรักษาความปลอดภัยระหว่างมีการชุมนุมคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ตำรวจภูธรภาค 4 ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าร่วม 300 นาย การชุมนุมของคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ ผ่านมาหลายวันแล้วเหตุการณ์อยู่ในขั้นปกติ มนต์ดำที่เทเลือดในสถานที่สำคัญ 3 แห่ง ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถือว่าเป็นการต่อสู้ในหมู่ของประชาชนด้วยกัน ขอให้จิตใจคนไทยสงบเย็น พร้อมกับแสวงหาสันติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะปกป้องสถานที่ราชการ และประชาชนให้ได้รับความปลอดภัยให้มากที่สุด
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ในการชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่ว่าในส่วนกลางและภูมิภาค สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตื่นตัวรอรับการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงตลอด 24 ชั่วโมง อย่าประมาทการชุมนุมของคนเสื้อแดง ตำรวจต้องพร้อม ตนเป็นห่วงเรื่องการหมุนเวียนกำลังพลที่จะไปช่วยเหลือการชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีจำกัด ส่วนการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่เปิดเวทีปราศรัยกล่าวร้ายโจมตีบุคคลอื่น ให้ร้ายผู้อื่น และทำผิดกฎหมาย ขณะนี้ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ และอัดเสียงไว้เป็นหลักฐานแล้ว เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า จากการประเมินด้านการข่าวที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะระดมพลชุดที่สองเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ เชื่อว่าจำนวนผู้ชุมนุมจะใกล้เคียงกับการระดมพลชุดแรก ยังหวั่นใจว่า มือที่สามจะเข้ามาสร้างสถานการณ์ จึงเพิ่มด่านตรวจค้นอาวุธ และสายตรวจ เพื่อป้องกันให้ได้มากที่สุด ส่วนการแจ้งเตือนแผนก่อวินาศกรรมกลางกรุงของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เป็นเรื่องของการข่าวในแง่การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ มีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ไว้แล้ว
ตร.เล็งเอาผิดปาเลือด-คลิปเสียง
พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) เปิดเผยกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมนำถุงบรรจุเลือดปาใส่บ้าน นายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 17 มีนาคมว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าวให้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5(ผบก.น.5) ตรวจสอบ โดยตรวจสอบภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพวงจรปิดทั้งหมดเป็นหลักฐานแล้ว เช่นเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ก็สั่งการให้พนักงานสอบสวน บก.น.2 ดูแล้ว และรอว่าผู้อำนวยการพรรค ปชป.จะแจ้งข้อหาบุกรุกหรือไม่ คดีนี้ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า สำหรับกรณีผู้นำคลิปเสียงตัดต่อของนายกฯ มาเผยแพร่ซ้ำบนเวทีนั้นถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท ทราบว่าทนายนายกฯเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว โดยมีความผิดมาตรา 326 และ328 จำคุก 2 ปี ปรับ 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จะดูว่าใครพูดซ้ำกี่ครั้ง พูดกี่คนหรือต่างคนต่างทำ
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า ในส่วน นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำเสื้อแดงที่ถูกถอนหมายจับข้อหายุงยงปลุกปั่นนั้น แม้อ้างว่าจะเข้ามอบตัววันที่ 1 เมษายน และหมายจับจากกองปราบปรามยังไม่ส่งมา บช.น.แต่หากพบสามารถจับกุมได้ทันที แต่ต้องรอจับกุมภายหลังก็ไม่มีปัญหาเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรง
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น.กล่าวว่า การขว้างสิ่งปฏิกูลใส่บ้านนายกฯนั้น สน.ทองหล่อ อยู่ระว่างรวบรวมหลักฐาน ซึ่งจะดำเนินการเอาผิดต่อไป ตามกฎหมายอาญา มาตรา 369 การขว้างปาสิ่งโสโครก เปรอะเปื้อนบุคคลหรือพื้นที่ มาตรา 397 การทำให้ผู้อื่นอับอาย ต่อหน้าที่สาธารณะ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ตร.รวบรวมหลักฐานปาเลือดบ้านนายกฯ
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5(ผบก.น.5) กล่าวว่า พ.ต.อ.อุดม สุวรรณเวชทิพย์ รองผบก.น.5 อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวกับภาพนิ่งจากสื่อมวลชนและของตำรวจ เพื่อเสนอขออนุมัติหมายจับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช จำนวน 2-3 คน ที่รู้ชื่อและนามสกุล ที่ก่อเหตุเข้าไปเทเลือดหน้าบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา
โฆษก ศปก.ตร.กำชับตร.วางตัวเป็นกลาง
พล.ต.ต.ฌานไชย แกล้วเขตต์การ ผู้บังคับการกองการบินตำรวจ กล่าวถึงกรณีที่ ด.ต.อุบล สุวรรณกาล นายตำรวจสังกัดกองบินตำรวจ แต่งเครื่องแบบตำรวจขึ้นเวทีปราศรัยกลุ่มเสื้อแดง เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ว่าด.ต.อุบล ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงให้ต้นสังกัดรับทราบแล้ว พร้อมส่งเรื่องต่อไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้รับทราบต่อไป สำหรับการพิจารณาความผิดวินัย ด.ต.อุบล ทางต้นสังกัดจะเป็นผู้พิจารณาเอง แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่ามีความผิดในส่วนใดบ้าง
พล.ต.ต.ประวุฒิ ถาวรศิริ รองผู้บัญชาการสำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในฐานะโฆษกศูนย์ปฏิบัติการสำนักงาตำรวจแห่งชาติ(ศปก.ตร.) กล่าวถึงข้าราชการตำรวจสวมเครื่องแบบขึ้นเวทีปราศรัยของ นปช. ว่า ผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดให้รายงานข้อเท็จจริงและลงโทษทางวินัยไปแล้ว อาจเป็นสถานเบา-กลาง เช่น กักยาม แต่หากทำผิดซ้ำก็จะถูกลงโทษสถานหนัก เบื้องต้นตำรวจนายนี้อ้างว่าลาป่วย ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะไปขึ้นเวทีได้ อ
ศอ.รส.ประเมินเสื้อแดงลดฮวบ
รายงานข่าวจาก ศอ.รส.ประเมินว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมลดน้อยลงทุกวัน ส่วนหนึ่งเดินทางกลับภูมิลำเนา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มาตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา และกลับส่วนหนึ่งในช่วงบ่ายวันที่ 15 มีนาคม ผู้ชุมนุมที่อยู่ส่วนหนึ่ง คือ ผู้ชุมุนมจากภาคเหนือ อีสานบางส่วน และส่วนใหญ่ที่มาชุมนุมช่วงกลางคืนคือ คนเสื้อแดงที่อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นการมาร่วมชุมนุมแบบวันต่อวัน
รายข่าวระบุว่า สำหรับยอดผู้ชุมุนมสูงสุด คือ วันที่ 15 มีนาคม ที่เดินทางไปที่หน้า ร.11 รอ. ประมาณ 43,000 คน และเวลา 21.00 น. ของวันเดียวกันเหลือเพียง 26,000 คน เนื่องจากมีบางส่วนเดินทางกลับต่างจังหวัด สำหรับยอดผู้ชุมุนมวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมาใน เวลา 08.00 น. อยู่ที่ 9,000 คน เวลา 15.00 น. อยู่ที่ 11,000 คน โดยกลุ่มที่ไปเทเลือดหน้าบ้านนายกฯมี 8,000 คน อีก 3,000 คน เฝ้าเวทีที่ผ่านฟ้า และช่วงเวลา 21.00 น. เหลือประมาณ 21,000 คน ขณะที่ช่วงเช้าวันที่ 18 มีนาคมนี้มียอดผู้ชุมนุม 10,000 คน ทั้งนี้ ศอ.รส. จับตาการนัดรวมพลอีกครั้งในวันที่ 20 มีนาคมว่า จะมีมากน้อยเพียงใด แต่เชื่อว่าจะมีผู้มาชุมนุมจากต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มเติมไม่มาก
ศปก.มท.รายงานแดงเริ่มกลับบ้าน
ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงมหาดไทย(ศปก.มท.) สรุปความเคลื่อนไหวข้อผู้ชุมนุมเมื่อวัน 17-18 มีนาคมว่า กลุ่มผู้ชุมนุมหลายจังหวัดทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว คือ 1. จ.มหาสารคาม เดินทางกลับ 150 คน คงเหลืชุมนุม 250 คน 2. จ.ตราด 190 คน คงเหลือ 110 คน 3.จ.ฉะเชิงเทรา 200 คน เหลือ 250 คน 4. จ.กาญจนบุรี 520 คน คงเหลือ 80 คน 5.จ.อุดรธานี เดินทางกลับ 200 คน
ทั้งนี้ ศปก.มท. ประเมินว่า ในวันที่ 20 มีนาคม จะมียอดผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 27,500 คน และพระสงฆ์ 50 รูป
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น.กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบนถนนราชดำเนินเบาบางลง มีผู้ชุมนุม 7,000-8,000 คน รถยนต์ประมาณ 1,000 คัน โดยกลุ่มผู้ชุมนุมจะมากในช่วงเย็นก่อนเที่ยงคืน จากนั้นจะลดลง อาจสืบเนื่องจากที่ผ่านมาพบวัตถุต้องสงสัยหลายครั้งในบริเวณใกล้เคียงการชุมนุม ซึ่งเป็นพื้นที่ดูแลของกลุ่มการ์ดผู้ชุมนุมเอง
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. จะเรียกประชุม ผบก.จร. หารือเรื่องการจราจร เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเบาบางลงอาจมีการคืนพื้นที่จราจรให้ประชาชน ขณะนี้เกือบเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว นี้รถที่วิ่งมาตั้งแต่ถนนราชดำเนินใน ผ่านสะพานผ่านพิภพมาแยกคอกวัว สามารถเปิดการจราจรถึงอนุสาวรีย์ประชาธิไตยเลี้ยวซ้ายไปถนนราชสีมาแล้ว รวมทั้งพื้นที่อื่นๆ ทั้งแยกสนามไชย แยกหลานหลวง มุ่งสู่ถนนราชดำเนิน แยกจปร.ที่รถขึ้นสะพานพระราม 8 ได้เพิ่มผิวการจราจรมากขึ้น เพื่อเปิดผิวการจราจรเตรียมจัดร้านในงานกาชาดสิ้นเดือนนี้
ที่มา.มติชนออนไลน์
**********************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น