ภายในรถปิกอัพวีโก้พาหนะของมือยิงจรวดอาร์พีจีป่วนเมือง ซึ่งนอกจากยิงไม่สำเร็จแล้ว ยังทิ้งรถเอาไว้ให้ตำรวจสามารถตามแกะรอยได้อีกนั้น
ประเด็นที่สร้างข้อสงสัยให้กับตำรวจที่เข้าตรวจค้นรถดังกล่าวอย่างมากก็คือ เหตุใดคนร้ายรายนี้ จึงขนอาวุธอะไรต่อมิอะไรมาอย่างมากมายไว้ในรถ!?
ทั้งอาร์พีจี ปืนกล กระสุน ระเบิดมือ
เด็ดกว่านั้น มีเสื้อแดงอีก 2 ตัว
เอาเฉพาะประเด็นอาวุธที่มากมายขนาดนี้ เกิดข้อน่าคิดในฉับพลันทันที
ทำไมจึงกล้าขับรถที่มากด้วยอาวุธสงครามไปบนท้องถนนเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยด่านตรวจ ในช่วงการประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคง
การลักลอบนำระเบิดไปขว้างสักลูกสองลูก ยังพอเป็นไปได้ ลักลอบยิงเอ็ม 79 ก็ยังมีโอกาส เพราะทำให้เห็นมาแล้ว
แต่รายนี้ทั้งเล่นของหนักคือจรวดอาร์พีจีที่มีขนาดใหญ่โตเทอะทะ
แถมยังมีอีกสารพัดอาวุธอยู่ภายในรถ
มันเป็นเรื่องแปลกประหลาดไม่น้อย!?!
จะสร้างสถานการณ์ป่วนเมือง ต้องนำอาวุธมามากขนาดนี้เลยหรือ
สำคัญที่สุดกล้าลำเลียงมาเต็มรถโดยไม่เกรงด่านตรวจได้อย่างไร!
พอมีเสื้อแดงทิ้งไว้ในรถอีกสองตัว ตำรวจบางคนก็พอจะเข้าใจในที่มาที่ไป พร้อมๆ กับถอยห่างออกมาจากการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ในทันที
แต่ในขณะที่ตำรวจเพียงตรวจสอบรถเพื่อโยงไปถึงผู้ครอบครอง ซึ่งพบว่าซื้อขายในเส้นทางโจรกันมา 4-5 ทอดแล้วนั้น
ไม่ทันไรโฆษกรัฐบาล ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ออกมาให้ข่าวว่า สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดยมีคราบเลือดเป็นหลักฐานมัด
จนตำรวจต้องปฏิเสธตามมาภายหลังว่า ไม่เป็นความจริง ยังไม่มีการจับกุมใคร
ไม่รู้เข้าใจผิด หรือว่าผิดคิว!!
มืออาร์พีจีจะจับได้หรือไม่ยังไม่รู้ แต่รู้ได้แน่ว่า เป็นการจงใจสร้างเรื่องสร้างสถานการณ์ สร้างความปั่นป่วนให้กับบ้านเมืองเพื่อบรรลุแผนการช่วงชิงอำนาจ
เป็นแผนการอันเลวร้าย ทั้งสองฝ่ายควรตระหนักให้ดี ว่ามีแต่ทำลายส่วนรวมให้เสียหาย
ตอนนี้ทุกฝ่ายหวังในเรื่องการนั่งโต๊ะเจรจา ก็น่าจะทำกันเสียที
ใช้การพูดคุยหาทางออก
ดีกว่าระเบิดสร้างสถานการณ์ ซึ่งจะยิ่งนำไปสู่ทางตีบตัน!
ที่มา.ข่าวสดรายวัน
คอลัมน์. ชกไม่มีมุม
โดย.วงค์ ตาวัน
************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น